สลดใจ หนุ่มจิตเวชตกบ่อโบราณดับหลังหายตัวปริศนาไปหลายวัน ญาติตามหาวุ่น สุดท้ายเจ้าอาวาสได้กลิ่นคล้ายซากศพในวัด ก้มดูพบเป็นศพแล้ว
    เมื่อวันที่ 18 เม.ย. ร.ต.อ.ชม ชูรัตน์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม รับแจ้งพบศพผู้เสียชีวิตในบ่อน้ำโบราณวัดท่าหนองจันทร์ หมู่ 13 ต.ท่าค้อ อ.เมืองนครพนม จึงประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลนครพนม เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กู้ภัยศรีสัตตนครพนม และกู้ชีพ อบต.ท่าค้อ พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมตรวจสอบชันสูตร
     โดยในที่เกิดเหตุเป็นบ่อน้ำโบราณใต้ต้นฉำฉา สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยอาณาจักรศรีโคตรบูรรุ่งเรือง มีลักษณะปากบ่อกว้างรัศมี 2 เมตร ความลึกประมาณ 12 เมตร มีระดับน้ำเกือบ 2 เมตร ก้นบ่อพบศพผู้ตายส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง
    ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จึงนำเชือกมาโรยตัวลงไปเก็บกู้ศพขึ้นมา ทราบภายหลังว่าชื่อ นายสุรเชษฐ์ แก่นจันทร์ อายุ 37 ปี ชาวบ้านหนองจันทร์ หมู่ 13 ต.ท่าค้อ สภาพศพสวมกางเกงขาสั้นสีดำ สวมเสื้อยืดสีกรมท่า ตามร่างกายไม่พบร่องรอยบาดแผลหรือการถูกทำร้ายแต่อย่างใด คาดว่าเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 4-5 วัน สอบถามญาติผู้เสียชีวิตทราบว่าเป็นผู้ป่วยทางจิตมานานหลายปี เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบชันสูตร เก็บหลักฐานนำไปประกอบการดำเนินคดี โดยญาติไม่ติดใจการเสียชีวิตและขอรับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี
    จากการสอบสวนพระอธิการสบายใจ อโสโก อายุ 67 ปี เจ้าอาวาสวัดท่าหนองจันทร์ กล่าวว่า ปกติผู้ตายจะมาเดินเล่นในวัดเป็นประจำตามประสาผู้ป่วยจิตเวช และมักติดตามโยมแม่มากินข้าวและขนมในวัดเสมอ แต่ช่วง 4-5 วันที่ผ่านมาทราบจากญาติว่าผู้ตายหายตัวไปปริศนา ติดตามหาไม่พบ
    พระอธิการสบายใจกล่าวต่อว่า จนกระทั่งช่วงกลางคืนได้กลิ่นเหม็นคล้ายซากสัตว์เน่าโชยเข้ามาในกุฏิ รุ่งเช้าจึงเดินตรวจค้นหา พบว่าต้นกลิ่นมาจากบ่อน้ำโบราณ ได้ชะโงกหน้าไปดูเห็นศพคนตายอยู่ที่ก้นบ่อ จึงเรียกญาติโยมมาดูและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว เบื้องต้นสันนิษฐานว่าผู้อาจมาเดินเล่นที่ขอบบ่อแล้วพลัดตกลงไป
    "คาดว่าน่าจะร้องเรียกให้คนช่วย แต่บังเอิญบริเวณนั้นไม่มีคนอยู่ จึงจมน้ำเสียชีวิตคาก้นบ่อ จนกระทั่ง 5 วันผ่านไปศพขึ้นอืดโชยกลิ่นเน่าเหม็นเตะจมูกเจ้าอาวาส อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนโดยละเอียดอีกครั้ง ทั้งนี้ทางวัดจะได้ร่วมกับชาวบ้านหาทางป้องกันนำอุปกรณ์มาปิดปากบ่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำอีก" พระะอธิการสบายใจกล่าว.