พัฒนาคนยกระดับคุณภาพชีวิต ส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีชุมชน 


เพิ่มเพื่อน    

แม้ในช่วงนี้จะเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ที่มาจากคัสเตอร์สถานบันเทิง ทำให้ส่งผลกระทบไปทั่วทั้งการดำเนินชีวิตของประชาชน การค้า ภาคการลงทุน ที่กำลังจะฟื้นตัวต้องหยุดชะงักไปอีกรอบ แต่  การขับเคลื่อนเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี กลับมีความคืบหน้าไปอย่างมาก ทั้งด้านการลงทุนและโครงสร้างพื้นฐานหลักโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 โครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา หรือ MRO โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก และโครงการเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล (EECd) แม้ว่าบางโครงการจะขลุกขลัก แต่ก็ยังเดินหน้าไปได้
    

รวมไปถึงการพัฒนาชุนชน โดยการสร้างรายได้ให้ถึงชุมชน จากการขยายการท่องเที่ยวชุมชน ที่จะยกระดับศักยภาพการท่องเที่ยวของพื้นที่เชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐาน และขยายการท่องเที่ยวพื้นที่รอง เชื่อมโยงทรัพยากรในพื้นที่ โดยมีเป้าหมายสร้างรายได้ให้ชุมชนปีละ 1.2 แสนล้านบาท ภายใน 3 ปี และสร้างโครงการท่องเที่ยวระดับชุมชน และยังมุ่งยกระดับเอสเอ็มอีหรือผู้ประกอบการขนาดกลางและย่อม ด้วย E-Commerce 
    

ล่าสุด เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี เตรียมความพร้อมก้าวสู่การพัฒนาพื้นที่ในเฟส 3 มุ่งเน้นการพัฒนาเมืองยกระดับความปลอดภัย ติดตั้งและทดลองใช้ 5G ในตำบลบ้านฉาง เพื่อบูรณาการสู่เมืองต้นแบบสมาร์ทซิตี้ พร้อมอบรมความรู้ชุมชนยกระดับทักษะบุคลากรภาคการท่องเที่ยวยกระดับ 12 ชุมชนในอีอีซี สร้างโมเดลการท่องเที่ยววิถีชุมชนยั่งยืน 
     

ซึ่งตลอด 3 ปีที่ผ่านมา คนส่วนใหญ่คุ้นเคยกับอีอีซีในบทบาทของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งรถไฟความเร็วสูง เมืองการบินภาคตะวันออก และโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังและมาบตาพุด แต่อีอีซียังมีพันธกิจและบทบาทสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายควบคู่กับการพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน ซึ่งเป็นสิ่งที่อีอีซีให้ความสำคัญในปีนี้ 
    

นางชลจิต วรวังโสวีรกุล ผู้ช่วยเลขาธิการด้านเศรษฐกิจมหาภาค สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เล่าว่า โครงการอีอีซีแบ่งงานออกเป็น 3 ส่วนหลักได้แก่ งานพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ได้แก่ โครงการรถไฟความเร็วสูง โครงการสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก โครงการส่วนต่อขยายของท่าเรือมาบตาพุดและท่าเรือแหลมฉบัง งานยกระดับอุตสาหกรรมเป้าหมาย 12 อุตสาหกรรม และงานพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน เช่น งานด้านการศึกษา สาธารณสุข และสิ่งแวดล้อม ซึ่งปัจจุบันเมื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานคืบหน้าไปได้ตามเป้าหมายแล้ว ในปี 2564 นี้ อีอีซีจึงมุ่งเน้นการพัฒนาชุมชน 
    

ทั้งนี้ การพัฒนาชุมชนตามแนวทางของอีอีซีมีงานที่สำคัญในหลายส่วนด้วยกัน หนึ่งในนั้นคือการพัฒนาโครงข่าย 5G และการนำร่องการประยุกต์ใช้ 5G ที่ตำบลบ้านฉางเป็นพื้นที่เมืองต้นแบบ สมาร์ทซิตี้เมืองน่าอยู่ ที่มีการวางแผนการจัดการให้ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข 
    

นางชลจิตกล่าวว่า การพัฒนาคนเป็นหัวใจของการพัฒนาอีอีซี โครงการต่างๆ ที่อีอีซีดำเนินการล้วนแล้วแต่ช่วยเพิ่มโอกาส ช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชนในหลากหลายมิติ ทั้งการพัฒนาโครงการพื้นฐาน การพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ รวมถึงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพก็ล้วนแล้วแต่เป็นหนึ่งในการพัฒนาที่มีเป้าหมายเพื่อยกระดับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนในอีอีซีทั้งสิ้น 
     

"การสร้างเมืองต้นแบบที่สำเร็จจึงไม่ใช่แค่เพียงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพียงอย่างเดียว แต่หัวใจสำคัญอยู่ที่การพัฒนาคน ยกระดับความรู้ความสามารถ ควบคู่กับการสร้างความสุข ยกระดับจิตใจ ท้ายที่สุดแล้วอีอีซีจะเป็นต้นแบบการพัฒนา ที่ภูมิภาคอื่นของประเทศสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในพื้นที่ได้อย่างเหมาะสม เพื่อสร้างพื้นที่แห่งความสุขที่ทุกภาคส่วนอยู่ร่วมกับได้อย่างยั่งยืน" นางชลจิตกล่าว
  

 นายปรมินทร์ แสงศักดิ์สิทธารถ รองปลัดเทศบาลตำบลบ้านฉาง ให้ข้อมูลว่า ตำบลบ้านฉางเป็นเมืองที่อยู่คู่อุตสาหกรรม เพราะมีนิคมอุตสาหกรรมเอเชียและนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดอยู่ด้านทิศตะวันออก จึงมีปัญหาเรื่องมลพิษ จึงเป็นความท้าทายในการยกระดับให้ตำบลเป็นเมืองน่าอยู่ เมื่อปี 2562 มีการจัดทำบ้านฉางโมเดลเพื่อเป็นเมืองต้นแบบและได้รับการสนับสนุนจากอีอีซีและ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) (NT) ในการติดตั้ง 5G ช่วยให้การทำสมาร์ทซิตี้เกิดขึ้นได้จริง 
     

อย่างไรก็ตาม เทศบาลตำบาลบ้านฉางมีการติดตั้งระบบ 5G และเสาอัจฉริยะที่สามารถเก็บข้อมูลต่างๆ เช่น สภาพแวดล้อม คุณภาพอากาศ คุณภาพน้ำ การจราจร โดยระบบเซ็นเซอร์บันทึกภาพและกล้องวิดีโอ เพื่อเฝ้าระวังติดตามความปลอดภัยและความเป็นอยู่ของประชาชน รวมถึงนำข้อมูลที่ได้รับประมวลผลบริหารจัดการให้เมืองมีความน่าอยู่มากขึ้น ที่ผ่านมามีเคสที่เกิดขึ้นจริง และได้ใช้ข้อมูลจากเสาอัจฉริยะในการคลี่คลายคดีอุบัติเหตุและคดีอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในปีนี้เมื่อติดตั้งเสาอัจฉริยะครบ 146 จุด จะทำให้การทำงานของเมืองอัจฉริยะชัดเจนยิ่งขึ้น  
     

และในช่วงที่เศรษฐกิจบอบช้ำ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 อีอีซีได้จัดทำโครงการสนับสนุนการท่องเที่ยววิถีชุมชน เนื่องจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวรายได้ดีเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายของอีอีซี และภาคการท่องเที่ยวยังมีมูลค่าคิดเป็นประมาณ 17% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมของ 3 จังหวัด การยกระดับทักษะบุคลากรทางด้านการท่องเที่ยว เพื่อเตรียมความพร้อมเมื่อสถานการณ์โควิดคลี่คลายจึงสำคัญอย่างมาก 
     

ที่ผ่านมาอีอีซีเข้าไปช่วยเหลือสนับสนุนชุมชนในหลายรูปแบบ ทั้งโครงการสนับสนุนการท่องเที่ยวผ่านกองทุนอีอีซี รวมถึงโครงการล่าสุดที่อีอีซีจัดทำโครงการฝึกอบรมระยะสั้นเพื่อยกระดับทักษะบุคลากรภาคการท่องเที่ยวและการท่องเที่ยวชุมชน ซึ่งชุมชนตะเคียนเตี้ย เป็น 1 ใน 12 ชุมชนเป้าหมายที่อีอีซีมีแผนการยกระดับพัฒนาทักษะบุคลากร 
   

 นายวันวิวัฒน์ เกศวา รองผู้อำนวยการสำนักยุทธศาสตร์องค์กร สกพอ. กล่าวว่า  อีอีซีเห็นโอกาสในการส่งเสริมพัฒนาทักษะ อาชีพ และสินค้าชุมชน ภายใต้ภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนอย่างยั่งยืน โดยคัดเลือกชุมชน 12 แห่งเข้าร่วมโครงการพัฒนาชุมชน ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรระยะสั้นในรูปแบบ Demand Driven โดยจัดหลักสูตรที่สอดคล้องกับความต้องการของชุมชน เช่น ที่ชุมชนบ้านตะเคียนเตี้ย แม้จะเป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่ชุมชนมีความเข้มแข็ง แต่ก็ยังต้องการอบรมในบางหลักสูตร เช่น การตลาดและการจัดทำแพ็กเกจท่องเที่ยว ซึ่งอีอีซีจะเข้าสนับสนุนในจุดนี้ ภายใต้กรอบการทำงานของอีอีซีในปี 2564 จะให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรเป็นลำดับแรก   

ยกระดับชุมชนเพิ่มรายได้
    อย่างไรก็ตาม เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวที่มีศักยภาพให้สอดรับกับการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่อีอีซี 3 จังหวัด ประกอบด้วย จ.ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา องค์การบริหารพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ อพท. รวมถึงขยายพื้นที่ครอบคลุมการบริหารจัดการของ อพท.3 ที่อยู่นอกพื้นที่อีอีซีเพิ่มอีก 2 จังหวัด คือ จ.จันทบุรี และ จ.ตราด เพื่อให้เป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่จะทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตในระยะยาว โดยมีอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืนผ่านการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน 
    

ดังนั้น เพื่อให้เกิดความพร้อมรองรับกับปริมาณนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นในอนาคต ได้มีการจัดทำแผนปฏิบัติการ พัฒนาระยะสั้น 3 ปี ระยะกลาง 5 ปี และระยะยาว 10 ปี โดยประสานงานกับ สกพอ. และหน่วยราชการ และภาคส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปสู่การบูรณาการบริหารการพัฒนาเมืองท่องเที่ยว ทั้งการกำหนดเส้นทางการท่องเที่ยว กำหนดกิจกรรมในชุมชน และการบริการในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวฝั่งทะเลตะวันออก รวมถึงการกำหนดพื้นที่ต้นแบบและการจัดพื้นที่ (Zoning) เพื่อการท่องเที่ยวให้มีคุณภาพ ควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อม เป็นไปตามมาตรฐานหลักการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน รวมถึงการจัดทำโครงการนำร่อง เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ การท่องเที่ยวโดยชุมชนในพื้นที่ 39 ชุมชนในพื้นที่อีอีซี
    

ดังนั้น จึงได้คัดเลือกให้เป็นชุมชนต้นแบบในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวฝั่งทะเลตะวันออก (จังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด) เพื่อยกระดับมาตรฐานด้านการท่องเที่ยวของชุมชนสู่ระดับสากล โดยมุ่งพัฒนานำวิถีชุมชนมาพัฒนากิจกรรมให้บริการการท่องเที่ยว เพื่อเป็นการสร้างจุดขายด้านการท่องเที่ยวให้มีศักยภาพเพิ่มขึ้นและตรงกับความต้องการของตลาดท่องเที่ยวในพื้นที่
    

โดยกิจกรรมได้พัฒนาจากวิถีของชุมชนตะเคียนเตี้ยซึ่งเป็นแหล่งปลูกมะพร้าว โดยได้กำหนดเส้นทางท่องเที่ยวเป็น 9 จุด ตามแนวคิด "ท่องเที่ยววิถีมะพร้าวชาวตะเคียนเตี้ย" โดยจะให้บริการนักท่องเที่ยวเข้าร่วมกิจกรรมปั่นจักรยานไปตามเส้นทางที่กำหนดไว้ ประกอบไปด้วย เยี่ยมชมและสัมผัสกับสวนป่าสาโรชกะแหวว ร่วมกิจกรรมตามวิถีชุมชนและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วยการปล่อย "แตนเบียน" เพื่อกำจัดศัตรูมะพร้าวโดยไม่ต้องใช้สารเคมี 
  

 

 

 

ร่วมกิจกรรมชงและชิมกาแฟมะพร้าว, ปั่นจักรยานท่องเที่ยวตามเส้นทางวิถีชุมชนที่อยู่ตามเส้นทาง, เยี่ยมบ้านชาวสวนผู้สูงอายุที่ประกอบอาชีพทำขนมทองพับและการแปรรูปมะพร้าว, เยี่ยมชมเรียนรู้วิธีการเพาะปลูกและการดูแลสวนมะพร้าว, เยี่ยมชมสวนมะพร้าวสวยๆ "ฟ้าใสไอโกะ", ชมการสาธิตการทำอาหาร "แกงไก่กะลา", เยี่ยมชม "บ้านร้อยเสา" อายุกว่า 100 ปี ซึ่งเป็นจุดไฮไลต์ในพื้นที่ชุมชนตะเคียนเตี้ยที่จะมีการถ่ายทอดเรื่องราวความเป็นมาของบ้านและร่วมทำกิจกรรมตัดพวงมโหตรและพับกุหลาบจากใบเตย ซึ่งเป็นศิลปะพื้นบ้านที่ชาวบ้านในชุมชนยังคงอนุรักษ์ไว้.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"