18 เมษายน 2564 คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดยะลา ซึ่งมีนายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลาเป็นประธาน ได้มีการลงนามออกประกาศร่วมกับนายหะยีอิสมาแอ ฮารี ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา เรื่อง มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โควิด-19 ว่าด้วยเรื่องการปฏิบัติศาสนกิจในเดือนรอมฎอนพี่จะรอศักราช 1442 

โดยเนื้อหาระบุว่า ด้วยขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดเป็นวงกว้างและมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในกรุงเทพมหานครปริมณฑลและในหลายจังหวัดทั่วประเทศนั้น เพื่อเป็นการควบคุมจำกัดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทั้งป้องกันและรักษาไว้ซึ่งความปลอดภัยของสังคมโดยรวม จังหวัดยะลาจึงกำหนดมาตรการป้องกันและควบคุมการแพทยระบาดของโรคดังกล่าวจึงงอาศัยอำนาจตามมาตรา 22 (7)และมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ประกอบกับประกาศสำนักจุฬาราชมนตรี เรื่อง มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ว่าด้วยเรื่องการงดปฏิบัติศาสนกิจในเดือนรอมฎอนประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1442 ดังนี้

1.งดการจัดกิจกรรมเลี้ยงละศีลอดที่มัสยิด

2.สำหรับการปฏิบัติศาสนกิจละหมาดฟัรฎูทั้ง 5 เวลา ละหมาดวันศุกร์(ญุมอะห์)และละหมาดตะรอเวียะห์ ขอความร่วมมือคณะกรรมการอิสลามประจำมัสยิดหรือผู้รับผิดชอบในการจัดละหมาดควบคุมดูแลสัปบุรุษหรือผู้ร่วมละหมาดให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยการตรวจวัดอุณหภูมิล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดระยะเวลาการปฏิบัติศาสนกิจเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1.5 เมตร และสำหรับการละหมาดวันศุกร์ให้กระชับเวลาในการปฏิบัติศาสนกิจไม่เกิน 45 นาที 

3.การเอี๊ยะติก๊าฟที่มัสยิด ขอความร่วมมือคณะกรรมการอิสลามประจำมัสยิด ควบคุมดูแลผู้ปฏิบัติเอี๊ยะติก๊าฟให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยการตรวจวัดอุณหภูมิล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดระยะเวลาการปฏิบัติศาสนกิจและระยะห่างอย่างน้อย 1.5 เมตร

ทั้งนี้ ให้ถือปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าวข้างต้นอย่างเคร่งครัดจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น ลงวันที่ 15 เมษายน 2564 

ด้านนายแพทย์สงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า จังหวัดยะลาพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ เพิ่มอีกจำนวน 3 ราย โดยรายที่ 3 หญิง อายุ 30 ปี กลับจากจังหวัดพื้นที่เสี่ยง (เป็นผู้สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์)ไปตรวจคัดกรองที่ศูนย์ตรวจโควิด เทศบาลนครยะลา พบผลบวก ส่งต่อตรวจยืนยัน รพ.ยะลา พบผลยืนยันติดเชื้อรักษาที่ รพ.ยะลา ส่วนรายที่ 4 ชาย อายุ 15 ปี เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิด (อยู่บ้านเดียวกัน) กับพี่สาวจากกทม.กลับมาเชงเม้ง และเยี่ยมบ้านที่ อ.เบตง กลับไปกทม. ตรวจพบติดเชื้อ (เชื่อมโยงผู้ป่วยกรณีสถานบันเทิงทองหล่อ) ผลตรวจน้องชายพบติดเชื้อ รักษาที่ รพ.เบตง และรายที่ 5 หญิง อายุ 25 ปี มาจากกทม. (สัมผัสเพื่อนป่วยที่กทม) ไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 เองที่ รพ.สิโรรส ผลตรวจพบติดเชื้อ ส่งต่อรักษาที่ รพ.ยะลา

ทั้งนี้ ทุกรายได้เข้ารับการสอบสวนโรค เข้ารับการรักษา ทีมงานบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข  อยู่ระหว่างดำเนินการเฝ้าระวัง ควบคุม ป้องกันโรค การเชื่อมโยงบุคคลที่เป็นผู้สัมผัสผู้ป่วยตามระดับความเสี่ยงสูง-ต่ำ ตามมาตรฐานการควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ประชาชนทั่วไป

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา กล่าวอีกว่า หากจำเป็นออกจากบ้าน ต้องใส่หน้ากากตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่างจากคนอื่นอย่างน้อย 2 เมตร ลงทะเบียนเข้าออกสถานที่ ตรวจวัดอุณหภูมิ หากมีอาการสงสัย ตรวจหาเชื้อ ซึ่งมาตรการด้านสารารณสุขเหล่านี้ ต้องปฏิบัติอย่างเข้มข้น จะช่วยป้องกันการติดเชื้อได้