ประเทศไทยจัดการโควิดมาได้ดีโดยตลอด จนชาวโลกยกย่อง และไทยติดอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศที่จัดการโควิดได้ดี แม้จะมีการแพร่เชื้อขนานใหญ่ (Super Spreading) หลายครั้งหลายครา เราก็จัดการได้ในเวลาที่รวดเร็ว เพราะความร่วมมือกันหลายฝ่าย ทั้งรัฐบาล ข้าราชการฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ทั้งหมอ พยาบาล และ อสม. ผู้ประกอบการ และประชาชนทั่วไป แต่แล้วเราก็ต้องพบกับความเศร้าเสียใจและตกใจ เมื่อมีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วที่ต้นตอมาจากสถานบันเทิงเป็นหลัก ทั้งในกรุงเทพฯ หัวหิน ชลบุรี และเชียงใหม่ ที่ทำให้เราต้องปรับตัวกันขนานใหญ่ เพื่อให้สามารถจัดการกับการแพร่ระบาดครั้งนี้ให้ได้เหมือนที่ผ่านมา ที่สำคัญก็คือ เราไม่ต้องการให้มีการ Lock down อีกแล้ว เพราะนั่นหมายถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจที่หลายคนเป็นห่วง และจะมีคนที่ออกมาโอดครวญว่าจะอดตายและก่นด่ารัฐบาล ทั้งๆ ที่การแพร่เชื้อในครั้งนี้เกิดจากความเห็นแก่ตัวและกิเลสของคนบางกลุ่มบางพวกที่รัฐบาลไม่อาจตามไปเฝ้าดู และป้องกันไม่ให้เกิดการกระทำที่ไม่เหมาะสมได้ มันเป็นเรื่องของจิตสำนึกโดยแท้
ในรอบนี้ เรา จะจัดการกับโควิดได้ดีเพียงใดก็อยู่ที่ 3 กลุ่ม คือ กลุ่มแรกเป็นพวก “สามเส้าเน่า” กลุ่มที่สองเป็น “สามเส้าดี” และกลุ่มที่สามพวก “ผีเจาะปาก” ที่พูดมาก มีแต่ปัญหา จ้องด่ารัฐบาลและไล่พลเอกประยุทธ์ กลุ่มสามเส้าเน่าสร้างปัญหา กลุ่มสามเส้นดีก็ต้องรับภาระในการแก้ปัญหา กลุ่มผีเจาะปากก็หาเรื่องแซะ แขวะ ด่ารัฐบาลทุกเรื่อง และจะต้องจบลงที่พลเอกประยุทธ์จะต้องลาออก เพราะจัดการกับเรื่องโควิดได้ห่วยแตก โดยไม่สนใจที่จะเปรียบเทียบว่าสถานการณ์ประเทศอื่นๆ นั้นเป็นเช่นไร และไม่พยายามที่จะเข้าใจด้วยว่าสาเหตุที่เกิดการระบาดหนักครั้งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร รัฐบาลใช่ตัวปัญหาหรือไม่ และสำหรับผู้ที่สร้างปัญหานั้น เป็นเพราะรัฐบาลให้ท้ายพวกเขา หรือว่าเป็นพวกเขาเองที่เห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ เห็นแก่ความสนุก โดยไร้จิตสำนึก ขาดความรับผิดชอบ
กลุ่มแรกที่เป็น “สามเส้าเน่า” ประกอบด้วย เส้าที่ 1 ข้าราชการที่กินสินบน ปล่อยให้มีคนลักลอบเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ ปล่อยให้มีบ่อนการพนัน ปล่อยให้สถานบันเทิง มีบริการที่ผิดกฎหมาย และเปิดเกินเวลา เส้าที่ 2 ผู้ประกอบการที่เห็นแก่ตัว ต้องการรายได้ จึงไม่กล้าเข้มงวดกวดขันกับลูกค้าที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรการที่ ศบค.กำหนด รวมทั้งผู้ให้บริการทั้งหลายที่มีความโลภ เห็นแก่เงิน ทำได้ทุกอย่าง ขาดความระมัดระวัง และเส้าที่ 3 คือผู้ใช้บริการทั้งแรงงานต่างด้าวที่ยอมเสียเงินให้มีนายหน้าพาเข้ามาในราชอาณาจักรอย่างผิดกฎหมาย คนที่ไปเล่นการพนันในบ่อน คนที่ไปใช้บริการที่เห็นแก่ความสนุก ไม่ปฏิบัติตามมาตรการที่ ศบค.กำหนด ทำทุกอย่างที่สนองกิเลสและตัณหาของตน และก็เอาไปติดคนอื่นที่จะต้องมีกิจกรรมร่วมกัน สร้างความเดือดร้อนให้ญาติพี่น้อง เพื่อนร่วมงาน เจ้านาย ลูกน้อง และคนอื่นที่จะต้องร่วมงานใกล้ชิดกัน ทั้งประชุม สัมมนา งานบุญ งานเลี้ยงต่างๆ
กลุ่มที่สองเป็น “สามเส้าดี” ที่ต้องเหนื่อย เส้าที่ 1 ก็คือรัฐบาลก็ต้องเหนื่อยในการหาทางแก้ไข ทั้งด้านสาธารณสุขและด้านเศรษฐกิจ ในขณะเดียวกันก็ต้องเผชิญกับกกลุ่มผีเจาะปากที่หาเรื่องแซะ แขวะ ด่าได้ทุกเรื่อง จริงบ้างเท็จบ้าง ส่วนใหญ่เท็จและตรรกะวิบัติ เส้าที่ 2 คือเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุข ทั้งหมอ พยาบาล และ อสม. ที่ต้องทำงานหนัก ด้วยความเสียสละ และเสี่ยงกับการติดโรค และเส้าที่ 3 ในกลุ่มนี้ก็คือประชาชน ทั้งที่เป็นผู้ประกอบการและเป็นผู้บริโภค ผู้ประกอบการจำนวนมาก เข้มงวดกวดขันกับลูกค้า ไม่ใส่หน้ากากไม่ให้เข้า ต้องตรวจวัดอุณหภูมิ ต้องรักษาระยะห่างในการเข้ารับบริการ มีการลงทุนซื้ออุปกรณ์ในการคัดกรอง ในการทำความสะอาด และยอมที่จะมีลูกค้าลดลงเพื่อการรักษาระยะห่าง รวมทั้งประชาชนที่เป็นผู้บริโภคก็ยินดีให้ความร่วมมือกับร้านค้า สามเส้านี้เป็นสามเส้าที่ดี แต่ชีวิตต้องมาเผชิญปัญหาก็เพราะสามเส้าเน่าที่กล่าวมาข้างต้น
เมื่อสามเส้าดีต้องมีปัญหาเพราะพฤติกรรมของสามเส้าเน่า ก็เลยมีกลุ่มผีเจาะปาก ฉวยโอกาสเอาปัญหาที่เกิดขึ้นมาด่ารัฐบาลว่าแก้ไขปัญหาโควิดได้ห่วยแตก ไม่สมควรจะอยู่อีกต่อไป ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไร พวกเขาไม่เคยพิจารณาว่าสาเหตุมาจากอะไร พวกเขาพุ่งเป้าไปที่รัฐบาล และจะต้องลงท้ายด้วยการไล่นายกรัฐมนตรีให้ลาออก โดยไม่เคยที่จะพิจารณาเลยว่าเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศต่างๆ ในโลกนั้น เราทำได้ดีแค่ไหน ไม่เคยสนใจเลยว่ามีคนบางกลุ่มบางพวกมีพฤติกรรมอย่างไรที่ก่อให้เกิดปัญหา ถ้าหากรัฐบาลเผลอตำหนิคนที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม พวกเขาก็จะบอกว่ารัฐบาลทำไม่ดีเอง จะมาโยนบาปให้แก่ประชาชนได้อย่างไร สรุปแล้ว สำหรับพวกเขา ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น พวกเขาจะไม่พิจารณาอะไรทั้งนั้น ไม่ต้องมองหาสาเหตุที่แท้จริงอะไรเลย โทษนายกรัฐมนตรีอย่างเดียว การที่พวกเขาทำเช่นนี้ ประชาชนก็มองเห็นว่าการวิพากษ์วิจารณ์ของเขานั้นไม่ใช่เป็นการทำงานเพื่อประชาชน แต่เป็นการทำงานเพื่อผลประโยชน์ของตนมากกว่า นั่นคือการไล่นายกรัฐมนตรี เพื่อหวังให้มีการเปลี่ยนขั้ว
เวลานี้ประเทศไทยเรากำลังเผชิญกับวิกฤติ กลุ่ม “สามเส้าเน่า” คิดที่จะสร้างสำนึกดีที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมบ้างหรือไม่ จะได้ไม่สร้างภาระให้กับกลุ่ม “สามเส้าดี” ที่ต้องทำงานหนักอยู่ในเวลานี้ และกลุ่ม “ผีเจาะปาก” คิดจะสงบปากสงบคำให้คนทำงานเขาได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีคนขัดขาบ้างจะได้ไหม ขอร้อง รักประเทศไทย รักคนไทยเพื่อนร่วมชาติให้มากๆ กันบ้างเถอะนะ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |