เปรียบเหมือนไฟกำลังไหม้บ้าน หากไม่ออกมาดับ นอนกระดิกขาอยู่ในบ้านก็โดนไฟไหม้ตายกันยกบ้าน เหตุสถานบันเทิงทองหล่อต้นตอการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอก 3 กำลังกลายเป็นไฟไหม้ "สีกากี" ทำให้ตอนนี้ ระดับ "บิ๊กนครบาล" ต้องรีบออกมา "ตัดไฟแต่ต้นลม" ตั้งแต่ดำเนินคดีผู้จัดการ 2 ผับดัง ตามมาด้วยคำสั่ง พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 (ผบก.น.5) ก็มีคำสั่ง บก.น.5 ตั้ง พ.ต.อ.วิทวัฒน์ ชินคำ รอง ผบก.น.5 เป็นประธานกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สถานบันเทิงในพื้นที่ย่านทองหล่อ จากนั้นไม่กี่วัน "ผบก.น.5" ก็มีคำสั่งเด้ง! "ผกก.ด้วง" พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส ผกก.สน.ทองหล่อ หลานเขย "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และเป็น ลูกเขย "บิ๊กป๊อด" พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. รวมทั้ง พ.ต.ท.ธนากร งามเย็น สวป.สน.ทองหล่อ รักษาราชการแทน รอง ผกก.ป.สน.ทองหล่อ เข้ากรุ ศปก.บก.น.5 โดย "บิ๊กต๊ะ" พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. ในฐานะโฆษก บช.น. ยืนยันผลการตรวจความบกพร่องโรงพักทองหล่อจะต้องเสร็จสิ้นภายใน 30 วันตามระเบียบ นั่งนับนิ้วตั้งแต่มีคำสั่งตั้งกรรมการสอบวันที่ 9 เม.ย. ก็ครบกำหนด 9 พ.ค. จะได้รู้ว่าออกหมู่หรือจ่า...หรือแค่แก้ผ้าเอาหน้ารอด (ฮา) ๐

                เข้าสู่ฤดูแห่งการสอบ "ตำรวจ" อีกครั้ง เว็บไซต์ www.policeadmission.org ของกองการสอบ กองบัญชาการศึกษา แจ้งสำนักงานตํารวจแห่งชาติ เปิดรับสมัครข้าราชการตํารวจชั้นประทวน และบุคคลภายนอก เพื่อบรรจุแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการตํารวจชั้นสัญญาบัตร และชั้นประทวน ประจําปีงบประมาณ พ.ศ.2564 รวม 700 อัตรา โดยเปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 1-28 เม.ย. ทางเว็บไซต์ www.policeadmission.org 1.รับสมัครและคัดเลือกข้าราชการตํารวจชั้นประทวน จํานวน 400 อัตรา เพื่อดํารงตําแหน่งรองสารวัตร (สอบสวน) ในหน่วยงานต่างๆ ในสังกัดสํานักงานตํารวจแห่งชาติ 2.รับสมัครและคัดเลือกบุคคลภายนอก จํานวน 200 อัตรา เพื่อดํารงตําแหน่ง นักวิทยาศาสตร์ (สบ 1) ในสังกัดสํานักงานพิสูจน์หลักฐานตํารวจ 3.รับสมัครและสอบแข่งขันบุคคลภายนอก จํานวน 100 อัตรา เพื่อดํารงตําแหน่งผู้บังคับหมู่ กลุ่มงานอำนวยการและสนับสนุน ทําหน้าที่วิทยาการในสังกัดสํานักงานพิสูจน์หลักฐานตํารวจ ๐

                พล.ต.ต.เบญจรงค์ รัตนบัวพา ผู้บังคับการกองการสอบ เน้นย้ำผู้ที่สนใจสมัครเข้าสอบคัดเลือกทุกท่าน อย่าได้หลงเชื่อบุคคลหรือกลุ่ม บุคคลที่เรียกรับผลประโยชน์ โดยแอบอ้างว่าสามารถช่วยเหลือให้เป็นข้าราชการตํารวจได้ ตลอดจนขบวนการชักชวนให้กระทําการทุจริตในขั้นตอนต่างๆ เพราะนอกจากจะถูกตัดสิทธิ์ในการรับคัดเลือกแล้ว การกระทําดังกล่าวยังอาจเข้าข่ายเป็นความผิดตามกฎหมายอาญา ซึ่งสํานักงานตํารวจแห่งชาติได้กําหนดมาตรการป้องกันและการตรวจสอบที่เข้มงวด รวมทั้งมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดกับผู้กระทําความผิดทุกราย หากท่านใดพบเห็นการกระทําที่เข้าข่ายเป็นความผิดในลักษณะดังกล่าวให้แจ้งมายังที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2941-3162, 0-2941-2698 เพื่อจะได้ดําเนินการตามระเบียบและกฎหมายอย่างเด็ดขาดทุกราย ๐

                เงียบหายจนหลายคนคิดถึงมือปราบสายธรรมะ "บิ๊กต่อ" พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ตั้งแต่เลิกเล่นเฟซบุ๊กก็ไม่ค่อยมีข่าวมีคราว มีความเคลื่อนไหวให้แฟนคลับได้รับรู้รับทราบ จนช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ เพจ "กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง-บช.ก." ก็โพสต์คำอวยพรของ "บิ๊กต่อ" ให้กับประชาชน "สุขสันต์วันสงกรานต์ 2564 แม้สงกรานต์ปีนี้จะเป็นปีที่ 2 แล้วที่เราต้องอยู่ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ผมขอส่งกำลังใจและความปรารถนาดีด้วยใจจริง ไปยังพี่น้องชาวไทยทุกคนครับ" นอกจากนี้เพจ "กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง-บช.ก." ก็ยังทิ้งท้ายท่านใดที่เดินทางไปต่างจังหวัด สามารถตรวจสอบสภาพการจราจรได้จาก Facebook : ตำรวจทางหลวง เจ้าหน้าที่ทุกคนพร้อมอำนวยความสะดวกทุกเส้นทางตลอดช่วงเทศกาลครับ...แค่นี้ก็ทำให้แฟนคลับมือปราบสายธรรมะชื่นใจกันแล้ว ๐

            "บิ๊กติ่ง" พล.ท.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ รองเสนาธิการทหารบก ทำหน้าที่โฆษกกองทัพบก ควบตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ทบ. เคาะแนวทางการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามกองทัพบกขึ้นที่ อาคารรับรองกองทัพบก (เกียกกาย) รองรับผู้ป่วย 86 เตียง เพื่อดูแลรักษากำลังพลและครอบครัวที่เข้ารับการรักษาอาการติดเชื้อโควิด -19 ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าฯ เพื่อแบ่งเบาภาระด้านสาธารณสุขของประเทศ ตามที่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) สั่งการ พร้อมทั้งจัดตั้งโรงพยาบาลสนามกองทัพบก (ค่ายธนะรัชต์) จ.ประจวบคีรีขันธ์ ดำเนินการโดยศูนย์การทหารราบ และโรงพยาบาลค่ายธนะรัชต์ สามารถรองรับผู้ป่วย 69 เตียง ซึ่งเป็นการส่งต่อการรักษาพยาบาล จากโรงพยาบาลหัวหิน หรือโรงพยาบาลสนามมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ซึ่งเป็นผู้ติดเชื้อจาก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ 

                สำหรับ พล.อ.ณรงค์พันธ์ ซึ่งได้สัมผัสพูดคุยกับเพื่อนเตรียมทหารรุ่นเดียวกัน เริ่ม "เวิร์ก ฟรอม โฮม" ระหว่างการกักตัวที่บ้านพักในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ร.1 ทม.รอ.) ตั้งแต่รับทราบจากเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ในสำนักงาน ตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 ช่วงวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา เพราะถือเป็นกลุ่มเสี่ยง และเมื่อวันที่ 9 เม.ย. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของวันทำการของราชการก่อนหยุดเทศกาล ได้เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ตามปกติที่ชั้น 6 อาคาร บก.ทบ.ราชดำเนิน และได้พูดคุยกับนายทหารคนดังกล่าว จึงเข้ารับการตรวจหาเชื้อ และผลออกมาเป็นลบ นำมาซึ่งการยกระดับมาตรการที่เข้มข้นขึ้นเมื่อเปิดทำการเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยให้กำลังพล "เวิร์ก ฟรอม ออฟฟิศ" แค่ 25 เปอร์เซ็นต์ และต้องไม่เป็นกำลังพลที่เดินทางกลับจากต่างจังหวัดในห้วงเทศกาลสงกรานต์ด้วย

                ไม่ใช่แค่ พล.อ.ณรงค์พันธ์เท่านั้นที่ต้องกักตัว ก่อนหน้านี้ "บิ๊กอุ้ย" พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ก็ต้องกักตัวเองเช่นกัน เนื่องจากมีนายทหาร "ร้อยโทหญิง" จากกองการฝึก กรมยุทธการ กองบัญชาการกองทัพไทย เดินทางไปสังเกตการณ์ฝึกประจำปี ทร. ที่สนามฝึกบ้านจันทรเขลม จ.จันทบุรี และถึงแม้จะเป็นวงที่ 3 เพราะไม่ได้ไปสัมผัส พูดคุยใกล้ชิด หรือไปรับประทานอาหารในพื้นที่เดียวกัน แต่เพื่อความไม่ประมาท ก็ต้องตรวจหาเชื้อ และกักตัวให้ครบตามกำหนด

                ขนาด "โควิด-19" ยังไม่ซา แต่การปรับย้ายก็กรุ่น และฝุ่นตลบกันตั้งแต่กลางปี เพราะปลายปีนี้จะมีการเปลี่ยนระดับ "ท็อปไฟว์" ถึง 3 คน เนื่องจาก พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ และ พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ ผู้บัญชาการทหารอากาศ เกษียณอายุราชการ ในส่วนของ 2 เหล่าทัพ ถือว่าดุเดือดกันพอสมควร ขนาดมีการงัด "โปรไฟล์" มาเปิดให้สังคมได้รับรู้ถึงข้อมูล เส้นทางการทำงานกันแบบเปรียบมวย เพื่อให้พิจารณาเรื่องงานมากกว่า "คอนเน็กชั่น" และ "สายแข็ง" เนื่องจากปีที่ผ่านมามี "เซอร์ไพรส์" ที่ใครๆ ก็อ้าปากค้าง แม้จะไม่เหมือน "ตั๋วช้าง" แบบตำรวจ แต่ก็มีส่วนทำให้คนที่เติบโตมาตามเส้นทางเหล็กเริ่มขวัญเสีย 

                ขอแสดงความยินดีกับ "นักเรียนนายเรือ ปุณระพี ประกิจ" นักเรียนนายเรือชั้นปีที่ 1 ได้รับการตอบรับให้เข้าศึกษาต่อที่ โรงเรียนนายเรือ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมืองแอนนาโปลิส มลรัฐแมรีแลนด์ โดยที่ผ่านมากองทัพเรือไทยมีผู้สำเร็จการศึกษาจากประเทศสหรัฐ ระดับต่างๆ ประมาณ 20 นาย (รวมแอนนาโปลิส coastguard และมหาวิทยาลัย ไม่รวมระดับปริญญาโท) สำหรับนักเรียนนายเรือปุณระพี เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 61 นายเรือรุ่น 118 จะเดินทางไปศึกษาในเดือนมิถุนายน 2564 นี้ และจะสำเร็จการศึกษาในเดือน มิถุนายน 2569.