www.thaipost.net ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" Line ID:@thaipost นับจากที่ปรากฏข่าวการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ จาก “คลัสเตอร์ทองหล่อ” จนถึงเดี๋ยวนี้ ราวๆ 10 วัน เกิดเรื่องขึ้นมากมาย รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กำลังกุมขมับ ผู้บริหารประเทศต้องคิดในหลายมิติ โดยเฉพาะการจัดการเศรษฐกิจและมาตรการป้องกันและรับมือกับการแพร่ระบาดรอบนี้ที่เป็นเชื้อกลายพันธุ์ สายพันธุ์อังกฤษ ซึ่งมีคุณสมบัติแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว เล่นเอายอดผู้ติดเชื้อรายวันขึ้นเป็นหลักพันกว่า ถ้ารัฐบาลแก้ไขโจทย์ใหญ่นี้ไม่ได้จะกลายสภาพเป็นผู้ล้มเหลวทันที ส่งผลต่อความเชื่อมั่นและไว้วางใจของประชาชน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เราเห็นแต่เพียงว่ารัฐบาลเร่งสั่งให้ดำเนินการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม แต่มาตรการอื่นๆ ยังไม่เห็นมีอะไรที่เป็นรูปธรรม คงต้องรอติดตามผลการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค.ชุดใหญ่ ที่จะมีการประชุมกันแบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ในช่วงบ่ายโมงวันนี้ ว่าจะมีการยกระดับพื้นที่สีแดงและล็อกดาวน์ในจังหวัดใดบ้าง หรือไม่ อย่างไร

            ๐...ยังคงอยู่กันที่ปัญหาสำคัญทั่วโลก ในส่วนของวัคซีน ล่าสุด สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป (อียู) อีกทั้งแอฟริกาใต้ สั่งระงับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) ชั่วคราว โดยในสหรัฐพบว่าหญิงอายุระหว่าง 18-48 ปี จำนวน 6 คน เกิดลิ่มเลือดอุดตันอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต ขณะเดียวกันในประเทศเดนมาร์กตัดสินใจยุติการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาเป็นการถาวร เนื่องจากความกังวลปัญหาการเกิดลิ่มเลือดอุดตันเช่นเดียวกัน คราวนี้เชื่อมโยงมาถึงประเทศไทย เพราะวัคซีนสองยี่ห้อนี้ ยี่ห้อหนึ่งคือยี่ห้อจอห์นสันฯ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) อนุมัติขึ้นทะเบียนวัคซีนโควิด-19 คาดว่าจะสามารถนำเข้ามาขายในประเทศไทยได้ในช่วงไตรมาส 4/64 ส่วนยี่ห้อแอสตราฯ นั้น กำลังใช้ฉีดให้กับคนไทย นอกจากนี้ ยังมีกรณีของ พญ.ขวัญปีใหม่ พะนอจันทร์ ออกมาให้ข้อมูลเชิงวิชาการ ว่าวัคซีนยี่ห้อซิโนแวคไม่ค่อยมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์อังกฤษ พร้อมยกตัวอย่างประเทศ "ชิลี" แม้ฉีดซิโนแวคแล้วก็ตาม แต่ยังเจอการระบาดซ้ำจากเชื้อกลายพันธุ์นี้ คำถามคือรัฐบาลไทยจะมียุทธศาสตร์ด้านนี้ต่อไปอย่างไร

            ๐...ด้วยเหตุพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกนี้ “ชัยธวัช ตุลาธน” แม่บ้านใหญ่แห่งพรรคก้าวไกล ออกมาขย่มรัฐบาลสุดฤทธิ์ บอกว่าความร้อนแรงและความกดดันทางการเมือง น้ำหนักน่าจะอยู่ที่ความสำเร็จในการบริหารจัดการปัญหาโควิด-19 ระลอก 3 เป็นหลัก จะเริ่มเห็นการแสดงออกมากขึ้น อาจไม่ได้ออกมาในรูปแบบการชุมนุมอย่างเดียว แต่กลุ่มคนมีความหลากหลาย รวมถึงคนที่เคยสนับสนุน หรือไม่ได้เคยต่อต้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ก็จะเริ่มออกมาแสดงออกทางการเมืองเพิ่มมากขึ้นด้วย แถมยังชี้ด้วยว่า พรรคร่วมรัฐบาลคาดหวังว่าการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 จะเป็นการสะสมทุนทางการเมืองครั้งสุดท้ายก้อนใหญ่ที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อพร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง  พรรคร่วมรัฐบาล นอกจากช่วยประคองงบรอบนี้ให้ผ่านไปให้ได้เเล้ว เขายังเตรียมทางออกอื่นอีกหลายหน้าเอาไว้รับมือสถานการณ์การเมืองหลัง เม.ย.-พ.ค. เพราะอาจจะเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองในระยะเวลาอันใกล้โดยไม่คาดฝัน ซึ่งถ้าจะให้วิเคราะห์ก็อาจจะปลายปีนี้ หรือต้นปี 2565 ก็เป็นได้ แหม “ต๋อม-ชัยธวัช” พูดแบบนี้จะดักคอใครหรือเปล่านะ

            ๐...ปิดท้ายกับข่าวปล่อยสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ อักษรย่อ “ส” ซึ่งเป็นข้าราชการการเมืองกระทรวงยุติธรรม ไม่เข้าเรียนหลักสูตรภาษาอังกฤษสำหรับนักศึกษาปริญญาเอก ระดับกลาง ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง แต่กลับส่งลูกน้องของตัวเองไปเรียนแทน ตอนแรกนึกว่า “สมศักดิ์ เทพสุทิน” เจ้ากระทรวงยุติธรรม ที่ไหนได้ “สิระ เจนจาคะ” ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ออกมาพูดจนถึงบางอ้อ คือ “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรมนี่เอง “ส.ส.บ้านเรือนไทย” จี้ให้นายสามารถแสดงสปิริตลาออกจากตำแหน่ง ไม่ต้องให้พรรคสอบสวน เพราะการให้คนไปสอบแทนเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ นอกจากนี้ ยังฝากไปถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนนายตำรวจที่ไปสอบแทนนายสามารถด้วยว่า มีคนใช้ให้ไป หรือไปสอบเอง และยังจะมีวุฒิภาวะเหมาะสมที่จะเป็นตำรวจต่อไปหรือไม่ เพราะถือเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่กระทำการทุจริตเสียเอง แหม การเมืองภายในของพลังประชารัฐเขาก็แรงใช่ย่อย.  

มินนิเมาธ์