สถานการณ์การระบาดของโควิดในประเทศไทยก็มีเรื่องให้ลุ้นเป็นรายวัน ซึ่งตัวเลขกลุ่มผู้ติดเชื้อใหม่ก็ยังอยู่ในระดับสูงเป็นเลข 3 หลักในแต่ละวัน โดยเป็นที่ทราบแน่ชัดแล้วว่า เชื้อโควิด-19 ที่ระบาดหนักในเวลานี้ เป็นสายพันธุ์อังกฤษ ที่สามารถติดเชื้อได้ง่ายกว่าเดิมถึง 1.7 เท่า ดังนั้น ช่วงนี้การจะมีกิจกรรมนอกบ้านอาจจะเป็นเรื่องที่ต้องเพิ่มการระมัดระวังมากเป็นพิเศษ
ตอนนี้ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษคือ การระบาดในช่วงหลังสงกรานต์ เพราะยังไม่แน่ชัดว่าในช่วงหยุดยาวที่ผ่านมา มีใครที่นำเอาเชื้อโรคกลับไปฝากที่บ้านหรือไม่ ซึ่งถ้ามีจริงก็คงจะเห็นข่าวที่ออกมาจากสาธารณสุขของแต่ละจังหวัด โดยสิ่งที่รัฐบาลทำได้ตอนนี้ก็คือ การปิดสถานบันเทิงอันเป็นจุดหลักของการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 รอบล่าสุด
อย่างไรก็ดี นอกจากประเด็นเรื่องของสุขภาพแล้ว สิ่งที่น่าห่วงก็คือ ปัญหาของมิติในเชิงเศรษฐกิจ ที่ตอนนี้ก็นับว่าเปราะบางค่อนข้างมาก และการระบาดรอบใหม่ ถึงแม้ รัฐบาลจะไม่มีการประกาศล็อกดาวน์ออกมาอย่างเป็นทางการ แต่ในเรื่องของความเชื่อมั่น และกิจกรรมทางเศรษฐกิจก็ย่อมลดลงอย่างไม่ต้องสงสัย และในเดือนเมษายนนี้ ซึ่งถือเป็นการร่วมต้นไตรมาส 2 ของปี ก็อาจจะเห็นผลกระทบที่ชัดเจน ลากยาวไปทั้งไตรมาสก็เป็นได้
แน่นอนก่อนมีการระบาดรอบใหม่ ดูเหมือนทิศทางเศรษฐกิจของไทยดูดีขึ้น ทั้งการส่งออก การบริโภค ที่ตัวเลขต่างๆ ปรับตัวดีขึ้น จะมีติดอย่างเดียวคือเรื่องท่องเที่ยว
และสถาบันวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจหลายแห่ง ก็ทำการคาดการณ์จีดีพีปี 64 ของไทย ซึ่งประเมินเอาไว้อย่างสภาพัฒน์ที่ 2.5-3.5% ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ที่ล่าสุด (มี.ค.2564) ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปี 2564 ลงเหลือ 3.4% จากคาดการณ์เดิมที่ 4%
แน่นอนตัวเลขดังกล่าวไม่ได้รวมเอาปัจจัยการระบาดรอบใหม่ที่รุนแรงและเป็นวงกว้างเข้าไปรวมด้วย ซึ่งจะทำให้ตัวเลขจีดีพีจะต้องลดลงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้แน่นอน
ขณะเดียวกันเรื่องของการท่องเที่ยว ซึ่งรัฐบาลตั้งความหวังไว้พอสมควรว่าจะเริ่มเปิดประเทศในช่วงเดือน ก.ค. โดยจะนำร่องโปรเจ็กต์ที่ภูเก็ตที่ไม่มีการกักตัว สำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เข้ารับการฉีดวัคซีนมาแล้ว แต่จากสถานการณ์การระบาดรอบใหม่แบบนี้ ก็ยังไม่แน่ชัดว่า จะมีการทบทวนมติ ครม. ที่ออกมาก่อนหน้านี้หรือไม่
แต่ล่าสุดทางศูนย์วิจัยกสิกรได้ประเมินสถานการณ์ท่องเที่ยว ดังนี้ โดยศูนย์วิจัยระบุว่า ข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาล่าสุดพบว่า การเดินทางท่องเที่ยวในประเทศของคนไทยในเดือน ก.พ.2564 เพิ่มขึ้นกว่า 30% จากเดือน ม.ค.2564 แต่จากการระบาดของโควิดระลอกที่ 3 นี้ ส่งผลทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยที่มีแผนเดินทางท่องเที่ยวในช่วงไตรมาส 2 นี้ ต่างต้องปรับเลื่อนแผนการการท่องเที่ยวออกไป โดยเฉพาะการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2564 นี้
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า การปรับแผนการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศของคนไทยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ระหว่าง 10-18 เม.ย.2564 อาจทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวสูญเสียรายได้คิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท จากคาดการณ์เดิมเมื่อเดือน มี.ค.2564 ก่อนที่จะเกิดการระบาดระลอกที่ 3 นอกจากนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ภายใต้ความเสี่ยงที่การควบคุมการระบาดระลอก 3 ที่น่าจะใช้ระยะเวลานานกว่ารอบก่อนหน้า เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อสูงและการแพร่เชื้อที่เร็ว ซึ่งกระทบต่อแผนการเดินทางท่องเที่ยวของคนไทยในช่วงไตรมาส 2
“การระบาดของโควิดทั้ง 2 ครั้งที่เกิดขึ้น น่าจะส่งผลกระทบทำให้ในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 นี้ รายได้ตลาดไทยเที่ยวไทยมีมูลค่าประมาณ 1.37 แสนล้านบาท คิดเป็นรายได้ท่องเที่ยวที่หายไปเป็นมูลค่ากว่า 1.30 แสนล้านบาท เทียบกับคาดการณ์เดิม ณ ม.ค.2564” (เมื่อเทียบกับสถานการณ์ปกติในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 ก่อนที่จะเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 รายได้คนไทยเที่ยวในประเทศช่วงครึ่งแรกปี 2564 สูญเสียไปคิดเป็นมูลค่า 385,400 ล้านบาท).
ลลิตเทพ ทรัพย์เมือง
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |