เมื่อวันที่ 15 เมษายน นางสาวนัทรียา ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ ได้เผยแพร่ถึงการบริหารสถานการณ์โควิด-19 ของรัฐบาลใน 3 ประเด็นสำคัญ 1. กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ยืนยันวัคซีนโควิดที่ไทยใช้มีประสิทธิภาพสูง และความปลอดภัย ประชาชนสามารถฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันและเพิ่มภูมิคุ้มกันของตัวเองได้ ข้อมูลทางระบาดวิทยาและข้อมูลทางวิชาการยืนยันว่าวัคซีนโควิด-19 ที่ไทยนำมาใช้ในทั้งแอสตราเซเนกา และซิโนแวค เป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ มีการฉีดวัคซีนสะสมรวม 579,305 โดสหรือเข็ม มีผู้ได้รับวัคซีนแล้ว 505,744 คน ในทุกจังหวัดตามเป้าหมายและกำหนดเวลา ขณะนี้ยังมีการจัดหาวัคซีนซิโนแวคอีก 1 ล้านโดสซึ่งอยู่ในประเทศไทยแล้ว รอการตรวจทางห้องปฏิบัติการและเอกสาร จะมีการส่งมอบให้กรมควบคุมโรคต่อไป ในระยะถัดไปจะฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข โดยเฉพาะบุคลากรด่านหน้าให้ได้ 100% สำหรับวัคซีนหลักที่จะมาถึงไทยในเดือนมิถุนายน ประมาณเดือนละ 6 - 10 ล้านโดส สามารถจะฉีดให้กับประชาชนได้อย่างครบถ้วน
2. สถานการณ์โควิด-19 ในไทย ขณะนี้เชื่อมโยงกับสถานบันเทิงและนำไปสู่การแพร่กระจายของเชื้อโรคสู่เพื่อนฝูงและชุมชน จำเป็นต้องลดการเคลื่อนที่ของบุคคล ปิดสถานที่เสี่ยง งดกิจกรรมการรวมกลุ่ม โดย สธ. คาดการณ์ฉากทัศน์ในอีก 1 เดือนข้างหน้า หากไม่มีมาตรการใด ๆ จะมีผู้ป่วยติดเชื้อสูงสุดมากกว่า 20,000 คนต่อวัน กรณีมีมาตรการปิดสถานบันเทิงเสี่ยงในจังหวัด จะมีผู้ป่วยติดเชื้อประมาณ 2,996 คนต่อวัน และกรณีที่มีมาตรการปิดสถานบันเทิงเสี่ยงในจังหวัด เน้นปรับพฤติกรรมส่วนบุคคล ลดกิจกรรมการรวมตัวกัน เพิ่มมาตรการทำงานที่บ้าน Work From Home สามารถลดผู้ป่วยติดเชื้อจะลดลงมาประมาณ 391 คนต่อวัน ดังนั้นเพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดมากยิ่งขึ้น กระทรวงสาธารณสุขเน้นการตรวจคัดกรองโรค ควบคุม ติดตาม กำกับ การกักตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทุกคน และผู้ป่วยติดเชื้อจะต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาลเท่านั้น ทั้งโรงพยาบาลรัฐ โรงพยาบาลเอกชน โรงพยาบาลสนาม และ Hospitel เพื่อป้องกันผู้ป่วยที่มีภาวะแทรกซ้อนอาจเสียชีวิตได้และกำจัดความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อต่อคนในครอบครัวและในชุมชนได้
ทั้งนี้ สำหรับการปฏิบัติตัวสำหรับผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างจังหวัดเพื่อกลับมาทำงาน ดังนี้ 1.ขอให้เดินทางโดยรถยนต์ แต่หากต้องเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะขอให้ใส่หน้ากากอนามัย และเว้นระยะห่าง รวมทั้งงดเว้นการรับประทานอาหาร 2. หากสามารถ work from home ที่จังหวัดนั้นๆ ได้ จะช่วยลดการนำเชื้อข้ามพื้นที่จากการเดินทางข้ามจังหวัด 3.หากจำเป็นต้องกลับมาให้ work from home และกักตนเอง 14 วัน โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางไปจากจังหวัดเสี่ยง เพื่อดูอาการ หากผิดปกติให้รับแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข โรงพยาบาลใกล้บ้าน หรือที่หมายเลข 1422 สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง หากต้องออกไปในที่สาธารณะ
3.การบริหารจัดการเตียงผู้ป่วย ภาครัฐมีการบริหารจัดการเตียงเพียงพอในการรองรับผู้ติดเชื้อ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยมีการจัดเตียงรองรับทั้งจากสถานพยายาลและโรงแรมแบบ Hospitel รวมกว่า 6 พันเตียง รวมทั้ง โรงพยาบาลสังกัดกระทรวงกลาโหมมีการเตรียมโรงพยาบาลภาคสนาม และกรมการแพทย์เตรียมเปิด Hospitel ซึ่งจะรองรับได้อีก 450 เตียง และโรงพยาบาลรามาธิบดีเตรียมเปิด Hospitels อีก 2 แห่ง อีก 100 เตียง สำหรับกรุงเทพมหานคร ได้มีการเพิ่มโรงพยาบาลสนาม ที่บางขุนเทียน 500 เตียง ที่บางบอน 200 เตียง และเตรียมเปิดที่บางกอกอารีนา จะรับได้อีก 1000 เตียง
รัฐบาลให้การรับรองโรงพยาบาลสนามที่มีอยู่ขณะนี้มีความปลอดภัย มีจำนวนแพทย์และพยาบาลตามมาตรฐานที่วางไว้ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขมีประสบการณ์การจัดตั้งโรงพยาบาลสนามตั้งแต่การระบาดระลอกแรก รวมทั้งเตรียมพร้อมโรงพยาบาลสนามตามต่างจัดหวัดไว้แล้ว สำหรับ Hospitel ซึ่งเป็นการจัดบริการในโรงแรม กรมสนับสนุนบริการทางการแพทย์จะเข้าไปรับรองมาตรฐาน เช่นเดียวกับสถานกักกันของรัฐ (SQ/ ASQ) ซึ่งมีการตรวจ ประเมิน และติดตามสม่ำเสมอ
ทั้งนี้ นโยบายหลักของไทย ผู้ติดเชื้อทุกคนในประเทศจะต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาลเท่านั้น ยกเว้นช่วงการรอเตียง ซึ่งผู้ป่วยอยู่ที่บ้าน แล้วจะมีกลไกรองรับในการประสานเพื่อไปรับตัวผู้ป่วยในช่วงเวลาที่เหมาะสม ทั้งนี้ สามารถติดต่อไปที่สายด่วนจัดหาเตียง เบอร์ 1669 สำหรับจังหวัดต่างๆ จะเข้าศูนย์การบริหารจัดการ สายด่วนกรมการแพทย์ 1668 รับสายเวลา 08.00 – 22.00 น. และสายด่วน สปสช. 1330 ตลอด 24 ชม. หรือผ่าน line แอพลิเคชั่น สบายดีบอต ซึ่งสามารถให้ข้อมูลติดต่อกลับ และจะมีการจัดสรรเตียงที่เหมาะสม
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |