"พรเพชร" ส่งหนังสือด่วนถามประธานศาล รธน. ขอลัดขั้นตอนเสนอ กม.ส.ว.ให้นายกฯ "สุเทพ" ส่งทนายจดทะเบียนพรรค "รวมพลังประชาชาติไทย" 25 พ.ค. ย้ำไม่รับตำแหน่งการเมือง แค่นั่งกุนซือ "เอนก" รับร่วมก่อตั้งพรรค แบไต๋อีก 3 เดือนพร้อมนำทัพเอง อดีตส.ส.ใต้ ปชป.เผยเทือกดูดไปอยู่พรรคใหม่
เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ว่าร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญว่า ขั้นตอนต่อไป จะนำเสนอร่างพ.ร.ป.ดังกล่าวให้นายกรัฐมนตรีนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย เพื่อประกาศบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป แต่ในขั้นตอนปฏิบัติ จะต้องรอคำวินิจฉัยอย่างเป็นทางการจากศาลรัฐธรรมนูญก่อน จึงจะส่งให้นายกฯ นำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายได้
อย่างไรก็ตาม ได้ทำหนังสือด่วนถึงประธานศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 24 พ.ค. เพื่อสอบถามว่าในสถานการณ์เร่งรัดเรื่องการเลือกตั้งที่เชื่อมโยงกับร่างพ.ร.ป.ฯ จำเป็นต้องรอคำวินิจฉัยอย่างเป็นทางการก่อนหรือไม่ เพราะอยากเร่งรัด ไม่ต้องรอแนวทางที่เคยปฏิบัติมา เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยที่เป็นมติเอกฉันท์ออกมาแล้วจะเพียงพอหรือไม่ที่จะเสนอต่อรัฐบาลได้ทันที โดยไม่ต้องรอคำวินิจฉัยอย่างเป็นทางการ หากศาลรัฐธรรมนูญยืนยันไม่ต้องรอคำวินิจฉัยอย่างเป็นทางการ จะส่งเรื่องให้นายกฯ ทันที
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขั้นตอนจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะต้องทำคำวินิจฉัยฉบับครบถ้วนสมบูรณ์ และส่งผลแจ้งไปยัง สนช. จากนั้น สนช.จะส่งร่าง พ.ร.ป.ให้รัฐบาล และรัฐบาลจะต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยภายใน 25 วัน ทั้งนี้ คิดว่าคงจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายได้เร็ว เพราะรัฐบาลได้จัดพิมพ์เตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว เมื่อไม่มีอะไรต้องแก้ไข สามารถนำสิ่งที่พิมพ์ไว้ส่งขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายได้ทันที โดยไม่ต้องรอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ออกมาก่อน
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวว่า บอกไว้แล้วว่าไม่มีอะไร แม้ร่างกฎหมายดังกล่าวไม่ผ่าน ก็ใช้เวลาแก้ไข และยังอยู่ในกรอบระยะเวลาตามโรดแมป ส่วนร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ผ่านอยู่แล้ว ไม่มีอะไรเซอร์ไพรส์
ด้านนายปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำภาควิชากฎหมายมหาชน คณะนิติศาสตร์ และรองอธิการบดีฝ่ายบริหารและความยั่งยืน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ต้องรอศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งจะคำวินิจฉัยในวันที่ 30 พ.ค.นี้ ทั้งนี้ ต้องจับตาดูว่าการพิจารณาของกฎหมายจะออกมาในทิศทางใด โดยส่วนตัวมองว่าเป็นไปได้ 3 แนวทาง 1.ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ 2.มีหรือขัด แต่ไม่เป็นสาระสำคัญต้องทำให้ตกทั้งฉบับ แก้เพียงบางมาตรา บางประโยคเท่านั้น และ 3.ขัดต่อสาระสำคัญรัฐธรรมนูญ ทำให้ต้องต้องร่างใหม่ ซึ่งอาจทำให้โรดแมปเลือกตั้งเคลื่อนออกไป อย่างไรก็ตาม หากศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาว่าไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ รัฐบาลสามารถจัดการเลือกตั้งได้ภายในเดือน ก.พ.62
วันเดียวกัน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศ (มปท.) กล่าวถึงกระแสข่าวการตั้งพรรคการเมืองว่า ทราบว่ากำลังจะมีการก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ซึ่งเป็นไปตามที่นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับแนวทางของพรรคดังกล่าวว่าไม่ใช่พรรคของตน แต่เป็นพรรคของประชาชนที่มีเจตจำนงในการปฏิรูปประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องที่ประชาชนจะทำกันไป
ทั้งนี้ ขอย้ำในสิ่งที่เคยพูดว่า ถ้าพี่น้องประชาชนมีการก่อตั้งพรรคการเมืองของประชาชนที่เป็นไปตามแนวทางการปฏิรูปประเทศปฏิรูปการเมืองตามแนวทางของมวลมหาประชาชน และมีอุดมการณ์เดียวกันกับตน ก็ร่วมยินดีที่จะไปช่วยงานให้คำปรึกษาต่างๆ ได้โดยยืนยันว่า 1.จะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งไม่ว่าจะเป็นระบบเขต หรือระบบบัญชีรายชื่อ 2.ไม่มีตำแหน่งบริหารในพรรคการเมือง และ 3.หากพรรคการเมืองดังกล่าวไปร่วมรัฐบาลในอนาคต ตนก็ไม่รับตำแหน่งใดๆ ทั้งสิ้นในรัฐบาล คือจะไม่ไปเป็นนักการเมืองตามที่เคยบอกไว้ เพราะไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการจดแจ้งจัดตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทยนั้น ทางผู้ก่อตั้งได้มอบหมายให้นายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง ทนายความของนายสุเทพ เป็นผู้ไปจดแจ้งที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในวันที่ 25 พ.ค. เวลา 08.00-09.00 น.
เอนกแบะท่านั่ง หน.รปช.
นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ประธานกรรมการในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง กรรมการคณะกรรมการเตรียมการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง และประธานคณะกรรมการพัฒนาพรรคการเมืองเพื่อการปฏิรูปประเทศตามรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวจะมาเป็นหัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทยว่า เป็นเพียงผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย และขอให้รออีก 3 เดือน เพื่อให้สมาชิกพรรคเลือกหัวหน้าพรรค ซึ่งหากเสียงส่วนใหญ่ลงคะแนนให้กับตนก็พร้อมจะทำหน้าที่ ไม่ใช่เริ่มต้นก็นั่งตำแหน่งหัวหน้าพรรคทั้งที่ยังไม่มีขาแขน เหมือนการเมืองเก่าๆ ที่ให้เป็นเพียงลูกน้องเจ้าของพรรค แบบนั้นไม่เอา เพราะอยากทำพรรคแบบล่างขึ้นบน ซึ่งถือเป็นการเมืองแบบใหม่
“หลังจากที่ คสช.อนุญาตให้พรรคการเมืองดำเนินการประชุมได้ ผมจะร่วมก่อการเปลี่ยนแปลงประเทศให้ได้ด้วยพรรคและนักการเมืองแบบใหม่ ประเทศจะกลับไปเป็นการเมืองอย่างเดิมอีกไม่ได้ และจะเดินหน้าผลักดันเรื่องความปรองดองให้สำเร็จด้วย เพราะถือเป็นโปรเจ็กต์สุดท้ายของชีวิต ผมจะสร้างพรรคคุณภาพของสมาชิกและประชาชน” นายเอนกระบุ
เมื่อถามว่า จะเดินทางไปจดแจ้งจัดตั้งพรรคด้วยตัวเองหรือไม่ นายเอนกกล่าวว่า ตอนนี้ยังอยู่ประเทศจีน คงไม่ไปจดแจ้งชื่อด้วยตนเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงดึกของวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา นายเอนกได้ชี้แจงเฟซบุ๊กส่วนตัวกรณีตกเป็นข่าวถูกทาบทามเป็นหัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย ตอนหนึ่งว่า ยังไม่มีใครตั้ง ไม่มีใครทาบทามเป็นหัวหน้าพรรค และไม่ได้ตั้งตนเองเป็นหัวหน้าพรรคใหม่ หากมีนักการเมืองใหญ่ นายทุนพรรค หรือผู้มีบารมีคนเดียว หรือไม่กี่คนมาตั้ง จะไม่เป็น ขอชี้แจงว่านายสุเทพไม่ได้มาทาบทามตนเป็นหัวหน้า และถ้ามาทาบทามก็ไม่ขอรับ เพราะเบื่อหน่ายการตั้งพรรค และการทำการเมืองแบบเก่าๆ ออกกลิ่นน้ำเน่าแบบนั้น
หลายเดือนที่ผ่านมา มีคณะผู้ก่อตั้งพรรคหลายร้อยคน รวมตัวกันคร่ำเคร่งอย่างเงียบๆ ตนเข้าร่วมกับพวกเขาพอสมควร มีเจตนารมณ์อันแรงกล้าที่จะร่วมสร้างพรรคการเมืองแบบใหม่ แบบที่รัฐธรรมนูญที่ผ่านประชามติต้องการ และตามที่แผนการปฏิรูปประเทศด้านการเมืองที่ตนเป็นประธานอยากเห็น พรรคนี้จะเป็นสถาบันแห่งความดีงาม พรรคนี้จะเป็นหลักชัยให้บ้านเมือง จะเป็นพรรคที่ยึดหลักธรรมาธิปไตย เป็นพรรคที่ให้อำนาจให้บทบาทและการตัดสินใจสำคัญแก่มวลสมาชิก จะไม่ปล่อยให้พรรคต้องถูกผูกขาดหรือตกเป็นของเจ้าของพรรคหรือของผู้นำพรรคเพียงคนเดียวหรือกลุ่มเดียวตลอดกาล จะไม่มุ่งเพียงชนะการเลือกตั้ง แต่มุ่งจะปฏิรูปการเมืองและปฏิรูปประเทศในด้านอื่นๆ ที่สำคัญด้วย
"พรรคการเมืองพรรคนี้ก้าวข้ามความขัดแย้งเรื่องเหลืองกับแดง ไม่ได้เป็นพวกเป่านกหวีด หรือพวกต่อต้านนกหวีด เราก้าวข้ามเรื่องในอดีตแล้วครับ ใครที่ต้องการ ใครที่สนับสนุน และใครที่ทุ่มเทกับการปฏิรูป คนนั้น ย่อมเป็นพวกเรา ส่วนใครที่ไม่จริงใจกับประชาชน ไม่เอารัฐธรรมนูญและประชาธิปไตย และไม่เอาการปฏิรูป อย่างจริงจัง นั่นย่อมไม่ใช่พวกเรา พรรคนี้ไม่ได้เริ่มต้นว่าจะเอาใครเป็นนายกฯ และพรรคนี้จะไม่เริ่มจากประเด็นว่า จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้งหรือไม่? นั่นไม่ใช่ประเด็นหลัก ประเด็นเริ่มต้นของเรา" นายเอนกระบุ
นอกจากนี้ พรรคนี้ไม่ใช่ กปปส.อย่างแน่นอน ผู้ก่อตั้งพรรคมีทั้งที่เคยเป็น กปปส. และที่ไม่เคยเป็น กปปส. ตนเองไม่เคยเป็น กปปส. ผู้ก่อตั้งพรรคอย่างตนมีไม่น้อย พรรคนี้ไม่ได้มุ่งดูด ส.ส.จากพรรคเก่าพรรคไหนทั้งสิ้น และพวกเราไม่ได้เป็นปรปักษ์กับพรรคไหนทั้งสิ้น ตนเคยเป็นประธานคณะทำงานเพื่อความปรองดองและสมานฉันท์ และเคยเป็นกรรมการในคณะเตรียมการสร้างความสมานฉันท์ของ ป.ย.ป. ขอยืนยันอย่างหนักแน่นว่าหากกลับเข้าไปทำงานการเมือง จะทำงานเพื่อเดินไปสู่ความรู้รักสามัคคี นำสันติสุขกลับคืนมาให้บ้านเมือง ให้ความรู้รักสามัคคีเป็นส่วนที่สำคัญยิ่งของการเฉลิมฉลองรัชกาลที่ 10 ของพวกเราคนไทย ทั้งนี้ เราจะไม่เน้นเพียงการสร้างกระแสที่มีแต่ความวูบวาบ เป็นเพียงประกายไฟแล้วก็ดับวูบ
ส.ส.ใต้ ปชป.รับกำนันดูด
ขณะที่นายสุรเชษฐ์ แวอาแซ อดีต ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีชื่อจะไปร่วมกับพรรครวมพลังประชาชาติไทย กล่าวว่า มีชื่อตนไปปรากฏเร็วจริง แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจร้อยเปอร์เซ็นต์ คงต้องรอหลังจากถือศีลอดแล้ว ส่วนรายละเอียดยังไม่ได้คุยอะไรมาก คนจะทำงานเพื่อบ้านเมืองคงจะต้องดูเหตุผลว่าทำได้มากน้อยแค่ไหน ไปแล้วทำประโยชน์ได้ก็ยินดี แต่หากไปแล้วไม่ชนะไม่รู้จะไปทำไม ซึ่งต้องสอบถามสมาชิกก่อน คงไม่ตัดสินใจเอง ถ้าสมาชิกและแกนนำในพื้นที่ให้ไปก็พร้อม และหากตัดสินใจแล้วว่าจะออกไปจากพรรคประชาธิปัตย์ ต้องไปลาออกด้วยตัวเอง ต้องไปบอกด้วยเหตุผล ไม่ใช่ว่าเราทิ้งพรรคไป
เมื่อถามว่า นายสุเทพทาบทามเองหรือไม่ นายสุรเชษฐ์กล่าวว่า นายสุเทพก็คอยบอก โดยให้เหตุผลว่าถ้าหากมองว่าพรรคใหม่ที่ตั้งขึ้นโดนใจก็สามารถมาร่วมได้ ซึ่งตนบอกว่ายินดี เพราะนายสุเทพเป็นบุคคลคนหนึ่งที่มีศักยภาพ อุดมการณ์ต่อสู้ของท่านเป็นคนจริง ทุ่มเท คนอย่างนี้เราไม่รักได้อย่างไร หากรู้ว่าเข้าสภามาได้ และทำประโยชน์เป็นประโยชน์ได้ ในนามนายสุเทพ ก็ยินดี
นายเจะอามิง โตะตาหยง อดีต ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาธิปัตย์ เป็นอีกคนที่มีชื่อจะไปร่วมกับพรรครวมพลังประชาชาติไทย ยืนยันว่า ณ วันนี้ยังอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ และการตัดสินใจของตนอยู่ที่คณะทำงานฝ่ายการเมืองในพื้นที่ของตน ที่กำลังคุยกันอยู่ว่าสุดท้ายแล้วจะเป็นอย่างไร จะอยู่พรรคไหน ต้องรออีก 2 สัปดาห์ถึงจะรู้ว่าจะทำอย่างไร ทั้งนี้ นายสุเทพไม่เคยทาบทาม ข่าวที่ออกมาไม่รู้ว่ามีชื่อตนออกมาได้อย่างไร อย่างไรก็ตาม หากผู้ใหญ่ในพรรคหรือหัวหน้าพรรคเรียกไปชี้แจง ก็ต้องไปชี้แจงว่าไม่มี
นายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงพรรคร่วมพลังประชาชาติไทย ซึ่งมีฐานเสียงเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์ว่า คิดว่าไม่ส่งผลกับพรรคมาก และประชาชนแยกออก แต่มีเป้าหมายเดียวกันว่าอยากปฏิรูปประเทศไทย และไม่เอาการเมืองระบอบทักษิณ ส่วนวิธีการแก้ปัญหาสมาชิกถูกดูดนั้น ในฐานะเลขาธิการพรรค พยายามพูดคุยกับพี่น้องร่วมอุดมการณ์อย่างเต็มที่ เพื่อมาทำงานกับพรรค แต่ยังไม่มีใครลาออกตามที่เป็นข่าว สำหรับชื่อที่เป็นข่าวออกมาก็ไม่มีการโทรศัพท์ไปถาม เพราะเชื่อและไว้ใจในเพื่อน แต่หากไปจริงก็มีคนมาแทน อย่างเมื่อปี 2548 มีอดีต ส.ส.ภาคใต้ย้ายไปพรรคร่วมรัฐบาล เรามี ส.ส.ใหม่ขึ้นมาแทน และพรรครักษาคะแนนไว้ได้ แต่เราก็ไม่อยากให้ใครไป ซึ่งยืนยันไม่กังวล เพราะเชื่อมั่นในอุดมการณ์ และพรรคใหม่เกิดขึ้น เป็นธรรมดาทุกยุคทุกสมัย ไม่ได้เป็นเรื่องใหม่.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |