“บิ๊กปั๊ด” ตั้ง ศปปง.ตร. เสริมเขี้ยวเล็บ ทลายขบวนการอาชญากรรมฟอกเงิน


เพิ่มเพื่อน    

    ปัจจุบัน อาชญากรรมมีความสลับซับซ้อนหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะยุคโซเชียลมีเดียมีสารพัดกลโกง มีการพัฒนาให้ซับซ้อนยิ่งขึ้นโดยจูงใจด้วย “ผลตอบแทนสูง” ทำให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อและสูญเสียทรัพย์สินจำนวนมาก โดยเฉพาะการหลอกลวงลงทุนต่างๆ เข้าข่ายการฉ้อโกงประชาชน กลุ่มคนร้ายแทบทุกกลุ่มจะมีเงินตอบแทนเป็นที่ตั้ง ทั้งระดมทุนตั้งบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ ระดมทุนทำธุรกิจต่างๆ ฝ่านเฟซบุ๊ก ไลน์ เป็นการหาสมาชิกรายใหม่ นำเงินรายใหม่ไปจ่ายรายเก่าเป็นทอดๆ รวมทั้งแชร์ลูกโซ่ เสนอผลประโยชน์ร้อยละ 20-70 ปันผลทุกสัปดาห์ เมื่อแชร์วงใหญ่ขึ้น ท้ายสุดคนร้ายหอบเงินหนี แต่ละปีมูลค่าเสียหายหลายพันหลายหมื่นล้านบาท

            เช่นเดียวกันกับปัญหายาเสพติดซึ่งเป็นวาระของชาติในการป้องกันและปราบปราม โดยกลุ่มคนร้ายจะนำเงินที่ได้มาไปฟอกให้เป็นเงินบริสุทธิ์ เล่นแร่แปรธาตุ นำไปลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ซื้อบ้าน ที่ดิน เปิดบริษัทใหญ่หรูทำธุรกิจบังหน้า ยักย้ายถ่ายเทไปยังขบวนการเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกประเทศ เป็นอาชญากรรมข้ามชาติ หรือพนันออนไลน์ที่กำลังได้รับความนิยม เพียงแค่เล่นผ่านมือถือ มีให้เลือกทุกความเสี่ยง มีโปรโมชั่นชักจูงให้คนหลวมตัวเข้าไปอยู่ในวังวนกลายเป็นผีพนัน หมดเนื้อหมดตัวหมดอนาคต ซึ่งผลการวิจัยพบว่าตัวเลขอายุที่ตกเป็นเหยื่อการพนันเป็นเด็กเยาวชนเพิ่มมากขึ้น

            ความผิดการฉ้อโกงประชาชน ยาเสพติด ยักยอกทรัพย์ การพนัน อยู่ใน 29 มูลฐานความผิดการฟอกเงินของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 โดยเฉพาะการพนัน ที่เจ้าหน้าที่ ปปง.และตำรวจกำลังเร่งติดตามเส้นทางการเงินของนายสมชาย จุติกิติ์เดชา หรือหลงจู๊ เจ้าพ่อบ่อนภาคตะวันออกที่ถูกดำเนินคดีร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนัน พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมด้วยลูกชาย ที่เจ้าหน้าที่พบเงินหมุนเวียนกว่า 15.000 ล้านบาท มีการยักย้ายถ่ายเทไปยังเครือข่าย หลายส่วนนำไปทำธุรกิจ ทั้งหมู่บ้านจัดสรร ตั้งบริษัทบังหน้า ทรัพย์สินต่างๆ ทั้งที่อยู่อาศัย ยานพาหนะ ทองรูปพรรณ เจ้าหน้าที่ได้อายัดไว้แล้วเกือบพันล้าน และยังเหลืออีกหลายร้อยล้านอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

            อำนาจการออกคำสั่งยึดทรัพย์เป็นหน้าที่ของ ปปง. แต่กระบวนการขั้นตอนการสอบสวนตรวจหาทรัพย์สินที่อยู่ในสำนวนคดีเป็นหน้าที่ของตำรวจ ฉะนั้นตำรวจและ ปปง.จึงเป็นคอและลูกกระเดือกที่ต้องทำงานร่วมกัน และเพื่อให้การปฏิบัติงานสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลและยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ.2561-2580) ด้านความมั่นคงจากภัยคุกคามอาชญากรรมเกี่ยวกับการฟอกเงินอันเป็นปัญหาสำคัญของประเทศ และตามที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติส่งเสริมและสนับสนุนให้การปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

            เพื่อให้การปฏิบัติงานเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมเกี่ยวกับการฟอกเงิน มีการบูรณาการและการประสานงานในการส่งเสริมการปฏิบัติให้เกิดความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ อาศัยอำนาจตามมาตรา 11 (4) และมาตรา 74 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม จึงให้จัดตั้ง “ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินสำนักงานตำรวจแห่งชาติ” เรียกชื่อโดยย่อว่า “ศปปง.ตร.”

            “ศปปง.ตร.” มีส่วนประกอบส่วนต่างๆ 1.ส่วนบังคับบัญชา 2.ส่วนอำนวยการ 3.ส่วนปฏิบัติการ 3.1 ส่วนปฏิบัติการส่วนกลาง 3.2 ส่วนปฏิบัติการส่วนพื้นที่ 4.ส่วนสนับสนุน 4.1 หน่วยงานในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 4.2 หน่วยงานนอกสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 5.โครงสร้างศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปปง.ตร.) 6.สถานที่ตั้งศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปปง.ตร.) ตั้งอยู่ที่อาคาร 3 ชั้น 4 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถนนพระรามที่ 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330 หมายเลขโทรศัพท์ 0-2205-1503-4 และ 7.มอบหมายให้ พล.ต.ท.สุรพล อยู่นุช ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปปง.ตร.) โดยมี พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นรอง ผอ.ศปปง.ตร., พล.ต.ท.ชวลิต แสวงพืชน์ ผบช.สท. และ พล.ต.ท.สมชาย พัชรอินโต ผบช.สกบ. เป็นผู้ช่วย ผอ.ศปปง.ตร.

            นับหนึ่ง พล.ต.ท.สุรพล อยู่นุช ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้เรียกประชุมขับเคลื่อน ศปปง.ตร.ทันที โดยมี พล.ต.ต.สมชาย พัชรอินโต ผบช.สกบ., พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว ผบก.สปพ. และผู้แทนจาก ปปง. เข้าร่วมการประชุมเดินหน้าทันที พล.ต.ท.สุรพล หัวเรือใหญ่ ศปปง.ตร. ที่ได้รับความไว้วางใจจาก พล.ต.อ.สุวัฒน์ ผบ.ตร. ย้ำ การฟอกเงินก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจที่มีมูลค่ามหาศาล ส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นจำนวนมาก เหล่าอาชญากรมีการพัฒนารูปแบบการฟอกเงินให้มีความหลากหลายและสลับซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ทำให้ยากต่อการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

            การดำเนินคดีฟอกเงิน ทั้งในส่วนการดำเนินการกับทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดมูลฐาน และฐานฟอกเงิน ซึ่งการดำเนินการทางอาญากับผู้กระทำความผิดฐานฟอกเงินในปัจจุบันยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เนื่องจากลักษณะคดีมีความพิเศษแตกต่างจากคดีทั่วไป เจ้าหน้าที่ผู้ดำเนินการต้องมีความรู้ความสามารถเฉพาะด้าน และต้องใช้ระยะเวลาในการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเป็นเวลานาน ผู้กระทำความผิดเป็นองค์กรอาชญากรรมที่มีความรู้หรือมีฐานะในสังคม ประกอบกับยังขาดความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน เป็นเหตุให้การดำเนินคดีล่าช้าขาดประสิทธิภาพ และขาดความเป็นเอกภาพของคดีทั้งในทางแพ่งและทางอาญา

            โดยบูรณาการการทำงานร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ให้การปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเกิดประสิทธิภาพ ทำให้ประชาชนและประเทศชาติได้รับความเป็นธรรมและประโยชน์สูงสุด การจัดตั้งศูนย์ดังกล่าวขึ้นก็เพื่อให้การดำเนินการสืบสวนสอบสวนความผิดมูลฐาน 29 มูลฐาน ของ พ.ร.บ.ฟอกเงิน ดำเนินการไปได้อย่างมีประสิทธิภาพในการยึดทรัพย์ต่างๆ ซึ่งศูนย์นี้จะเป็นศูนย์หลัก หลังจากนี้ทางกองบัญชาการต่างๆ จะต้องจัดตั้งศูนย์ขึ้นมารองรับอีกครั้ง และจะมีการกำหนดกรอบแนวทางในการปฏิบัติให้ชัดเจน ศปปง.ตร.จะเป็นเครื่องมือทางกฎหมายที่มีประสิทธิภาพ ในการที่จะนำมาใช้บังคับต่ออาชญากรหรือผู้กระทำผิดในรูปแบบต่างๆ ตามความผิดมูลฐานอย่างเด็ดขาด

                ศปปง.ตร. จึงเป็นอีกหน่วยงานใหม่ที่เข้ามาเสริมเขี้ยวเล็บให้กับ ปปง.ในการอายัดทรัพย์กลุ่มคนร้ายที่เล่นแร่แปรธาตุ ยักย้ายถ่ายเทเงินที่ฉ้อโกงประชาชน หรือเงินที่ได้มาอย่างผิดกฎหมาย ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทลายเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมให้หมดสิ้นไป.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"