13 เม.ย.64 - ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีจังหวัดนครพนมตรวจพบผู้ป่วยโควิด-19 ล่าสุดจำนวน 6 ราย นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย นพ.มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์ สสจ.นครพนม และ นพ.สมโภชน์ กังวานธีรวัฒน์ ผอ.รพ.นครพนม ยืนยันอย่างเป็นทางการว่า ขณะนี้ในพื้นที่มีผู้ป่วยโควิดรวม 6 ราย

โดยเฉพาะในรายของหญิงสาวอายุ 23 ปี ชาวบ้านตาลปากน้ำหมู่ 11 ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน ทำงานเป็นพนักงานต้อนรับในคริสตัสคลับย่านทองหล่อ กทม. จึงได้มีการตรวจคัดกรองค้นหาโรคครั้งแรกผลเป็นลบ แต่ต้องรอตรวจยืนยันผลซ้ำอีกครั้ง แต่วันที่ 4 เมษายนฯหญิงสาวได้เดินทางโดยสารเครื่องบินมาลงที่ท่าอากาศยานนครพนม โดยมีพ่อกับแม่และลูกสาววัย 5 ขวบไปรอรับที่สนามบิน จากนั้นก็มีการสังสรรค์กับหมู่ญาติและเพื่อน ในจำนวนเพื่อนหญิงนั้นมี 1 คนที่อยู่บ้านแก้วปัดโป่งหมู่ 9 ต.ไชยบุรี ได้มาร่วมกินดื่มและนอนค้างที่บ้านของสาวคลับดัง 1 คืน วันรุ่งขึ้นก็พากันไปเที่ยวที่หาดคำสมบูรณ์ อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ โดยไปด้วยกันทั้งหมด 4 คน แต่ขากลับมีเพื่อนขอติดรถมาด้วยอีก 1 คน วันที่ 7 เมษายน จึงขึ้นเครื่องบินกลับกรุงเทพฯ

กระทั่งวันที่ 8 เมษายน มีอาการไข้จึงเข้ารับการตรวจที่ รพ.มงกุฎแจ้งวัฒนะ มีผลเป็นบวก และทาง รพ.มงกุฎฯได้แจ้งมายัง สสจ.นครพนม เพื่อนำตัวผู้สัมผัสกับผู้ป่วยรายนี้ประมาณ 50 คน ผลหาเชื้อโควิดพร้อมให้กักตัวเองอยู่ในบ้าน จนกว่าจะมีผลตรวจออกมา ปรากฏว่าวันที่ 12 เมษายน มีผลตรวจพบว่าพบผู้สัมผัสเสี่ยงสูงติดเชื้อโควิด จำนวน 3 ราย ได้แก่ แม่ของหญิงสาวอายุ 53 ปี ลูกสาววัย 5 ขวบ และเพื่อนสาวที่มีบ้านอยู่บ้านแก้วปัดโป่ง โดยทั้ง 3 รายเข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ท่าอุเทน ส่วน 47 รายผลตรวจเป็นลบ

หลังมีผลยืนยันแน่นอนแล้ว นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.นครพนม ได้ประชุมหารือกับคณะกรรมการโรคติดต่อฯ เพื่อวางมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด ทั้งนี้เมื่อตรวจสอบจากภูมิประเทศของหมู่บ้านทั้ง 2 แห่ง คือบ้านตาลปากน้ำหมู่ 11 บ้านแก้วปัดโป่ง หมู่ 9 ต.ไชยบุรี มีประชากรรวมกัน 1,240 คน ตั้งบ้านเรือนอยู่กระจัดกระจายห่างกัน จึงมีมติเห็นควรให้กั้นบริเวณเฉพาะบ้านจำนวน 7 หลังคาเรือนที่อยู่ใกล้กับบ้านของผู้ป่วยในบ้านตาลปากน้ำเท่านั้น แต่จะเร่งตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิดผู้คนกว่าพันรายให้แล้วเสร็จภายใน 1 วัน

นอกจากนี้ ผวจ.นครพนม ได้กล่าวถึงบุคคลที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงจำนวน 9 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ นนทบุรี นครปฐม สมุทรปราการ ปทุมธานี สมุทรสาคร  เชียงใหม่ ชลบุรี และสระแก้ว ต้องรายงานตัวและเข้าสู่มาตรการเฝ้าระวังด้วยการกักตัวเองอยู่ในบ้าน ยกเว้นมีใบรับรองแพทย์จากจังหวัดต้นทางมายันยืนก็ไม่ต้องถูกกักตัว ปรากฏว่าจากรายงานพบมีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่มาจากพื้นที่เสี่ยงหลีกเลี่ยงการรายงานตัว จึงตั้งหน่วยเคลื่อนที่เร็วรับแจ้งจากผู้นำชุมชน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ว่า ในหมู่บ้านมีใครที่ไม่ยอมรายงานตัวบ้าง ก็จะนำตัวมาดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ ที่มีอัตราโทษทั้งจำทั้งปรับ

ขณะเดียวกัน นายสมลักษ์ ยกน้อยวงศ์ นายอำเภอเมืองนครพนม ได้เสนอไอเดียไปยังผู้ประกอบการร้านอาหาร สถานบันเทิง ให้ร่วมกันมีส่วนร่วมในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ปรากฏว่ามีเสียงตอบรับจากผู้ประกอบการจำนวน 11 แห่ง แจ้งความจำนงขอปิดร้านเป็นเวลา 2 วัน คือระหว่างวันที่ 13-14 เมษายนฯ ประกอบด้วย 1.ปาร์ตี้เฮ้าส์ 2.เดอคาเฟ่ 3.เมย์ลี 4.นั่งเล่น 5.หอนาฬิกา 6.เซฟเฮ้าส์ 7.ต.ติดลม 8.ร้าน 206 road 9.ครัวพบเธอ 10.เตี๋ยวเต็มโต๊ะ และ 11.ร้านเฟื่องนคร โดยทั้งหมดที่กล่าวมานี้ล้วนเป็นร้านอาหาร และสถานบันเทิงชื่อดัง ที่มีผู้คนรู้จักเป็นจำนวนมาก เมื่อจังหวัดพบวิกฤตของการแพร่เชื้อโรคโควิด จึงร่วมกันแสดงสปิริตปิดดำเนินการเป็นเวลา 2 วันดังกล่าว