การระบาดรอบที่ 3 ของโควิด-19 ครั้งนี้หนักหนาสาหัสแน่นอน เพราะมีหลายปัจจัยที่บ่งบอกถึงความกว้างขวาง, รวดเร็วและรุนแรงที่มีผลกระทบกว้างไกล
ก่อนที่จะมีการยืนยันการแพร่ระบาดรอบใหม่ ธนาคารแห่งประเทศไทยก็ออกมาปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปีนี้ลงอีกครั้ง
เดิมคาดว่าจีดีพีของประเทศปีนี้จะโตได้ที่ 3.4% แต่ประเมินใหม่แล้วมีปัจจัยทางลบเพิ่มขึ้น กลายเป็นว่าจะมีโอกาสขยายตัวได้เพียง 3%
ความจริงก่อนหน้านี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ให้อัตราเติบโตเศรษฐกิจไทยแค่ 2.7% เท่านั้น
แต่รัฐบาลไทยประกาศสวนออกไปว่าจะพยายามทำให้ได้ 4%
พอเจอกับการปรากฏตัวของ “โควิดสายพันธุ์อังกฤษ” ที่แพร่มาจากกัมพูชา ซึ่งมีผลทำให้อัตราการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นอีก 1.7 เท่าจากของเดิม ตัวเลขพยากรณ์เดิมๆ ทั้งหลายก็มีอันต้องลบทิ้งและเขียนใหม่กันหมด
ความจริงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา อะไรๆ ดูจะผ่อนคลายขึ้น และการทำมาหากินของชาวบ้านในหลายๆ วงการก็เริ่มจะเห็นสัญญาณของการกระเตื้องขึ้น
อาจจะเป็นเพราะความประมาทที่เห็นอะไรดีขึ้นจึงทำให้ “การ์ดตก” และยิ่งมีโควิดสายพันธุ์ใหม่แอบมาโจมตีจากข้างหลัง จึงทำให้การระบาดรอบใหม่นี้สร้างความโกลาหลไม่น้อย
ธุรกิจน้อยใหญ่ต้องกลับไปสู่โหมดของการปรับตัวครั้งใหญ่อีกรอบหนึ่ง
เผลอๆ การปรับตัวครั้งนี้จะหนักหน่วงกว่าครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 ด้วยซ้ำไป
ผมได้สนทนากับคุณมารุต “กอล์ฟ” ชุ่มขุนทด ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของธุรกิจสตาร์ทอัพที่ชื่อ Class Café ที่บอกว่าครั้งนี้ต้องทำอะไรมากกว่าคราวที่แล้วหลายเรื่อง
ว่าแล้วเขาก็ส่ง “คู่มือ” การบริหารวิกฤติรอบใหม่นี้ไปถึงเพื่อนร่วมงานอย่างเร่งด่วน
ลองอ่านดูจะรู้ว่าสงคราม “ดิ้นรนหนีตาย” รอบใหม่สำหรับผู้ประกอบการน้อยใหญ่สาหัสเพียงใด
ถึงเพื่อนๆ ชาวร้านทุกท่านด้วยความห่วงใย มาสู้เวฟ 3 ไปด้วยกันครับ
สิ่งที่ทุกร้านต้อง “ทำทันที” ตอนนี้
1.ยกการ์ด แสดงมาตรการป้องกัน ตรวจอุณหภูมิ ใส่แมสก์ 100% จัดหาเจล และตั้งแผงกั้น
2.แจ้งพนักงานงดเที่ยวหลังเลิกงาน ระวังการตั้งวงกับคนแปลกหน้า และใส่หน้ากาก 100% ระหว่างทำงานถ้าจะให้ดีตรวจอุณหภูมิก่อนทำงาน
3.เตรียม Big Cleaning กรณีอยู่ใน Timeline พวกรับพ่นยาฆ่าเชื้อ
4.แยกพนักงานออกเป็น 2 ชุด หากโดนอยู่ใน Timeline ต้องให้กักตัว Big cleaning แล้วเปิดร้านต่อได้
5.ตรวจเช็กระบบเดลิเวอรี่ทั้งหมด ทำโปรโมชั่นได้ทำเลย ทางรอดคือทางนี้เท่านั้น ตอนนี้ Lineman Food Panda มีโปร Grab Robinhood ยังเงียบๆ จ่าย GP เท่าไร เอาหมด ขายได้ขายก่อน กำไรทีหลัง
6.ระบายสต๊อกของสดลดลง เช่น จาก 30 วันให้เหลือแค่ 7 วัน ของแห้ง 14 วัน
7.เจ้าของร้าน งดเข้าร้าน ควบคุมร้านจากข้างนอก คิดดูสิถ้าชื่อเจ้าของร้านติด จะฉิบ@&฿ แค่ไหน อยู่บ้าน อย่าฟุ้งซ่าน
8.ทำประกันโควิดให้ลูกน้องและตัวเราเองที่ต้องเสี่ยงหากินในเวลานี้ ที่ต่อประกันปีนี้อยู่ที่ 150 บาท คุ้มครอง 100,000 บาท จ่าย 450 บาท คุ้มครอง 500,000 บาท จ่าย 850 บาท คุ้มครอง 1,000,000 บาท ต่อคนต่อปี ปีที่แล้ว 99 บาท ผมใช้ทิพยะ ติดต่อเองเลยนะครับ ผมไม่ได้โฆษณา
9.อัพเดตมาตรการทั้งหมดขึ้นเพจของร้านเพื่อให้ลูกค้าเข้าใจ
10.หมั่นเช็ดโต๊ะ ด้ามจับประตู จุดสัมผัสด้วยแอลกอฮอล์ เจลเอาออกมาตั้ง
11.อย่าเกรงใจลูกค้าที่ไม่ใส่หน้ากากและเดินไปเดินมาไม่ใส่หน้ากาก เดินไปกระซิบเบาๆ บอกว่า กลัวโดนสั่งปิด เอามาวางขายก็ดี ราคาไม่แพงแล้ว
12.เช็กเงินสดให้ดีหลังสงกรานต์ น่าจะระบาดหนักกว่านี้เงินพอจ่ายไหม
13.ตรงไหนขายไม่ดี ปิดก่อน ค่อยเปิดมาใหม่ เดี๋ยวไม่มีเงินจ่ายค่าไฟ ค่าแรง
14.ติดตามข่าวสารอย่างมีสติ ทำใจ หายใจลึกๆ ยังไงก็มี เวฟ 4 เวฟ 5 เพราะเราน่าจะยังไม่ได้ฉีดวัคซีนกันถึงสิ้นปี ตราบใดที่มันยังยื้อกันแบบนี้
15.จัดการความเครียดของตัวเองให้ดี ส่วนใหญ่อ้วนขึ้นทุกคน เครียดแล้วกิน ความดัน เบาหวาน มาช่วงนี้แหละ
16.ลดค่าใช้จ่าย แอร์ น้ำ ไฟ ค่าไฟหนักสุดเริ่มคุมเลย ตามมาด้วยจำนวนพนักงานเข้าทำงาน ลดลงน้อยลง ไม่งั้นยอดขายจะไม่พอค่าใช้จ่าย ถ้าเราไม่รอดก็ช่วยใครไม่ได้
17.ระวังตอนส่งของหรือของมาส่ง เพราะรถขนส่งเดินทางทั่วไทย จำกัดคนรับสินค้านะครับ
นี่คือ ”คู่มือ” จากคนที่ผ่านวิกฤติรอบแรกและรอบสองมาแล้ว รอดมาได้อย่างหวุดหวิด
แต่รอบสาม รอดหรือไม่ ยังบอกไม่ได้
รู้แต่ว่าต้องก้มหน้าก้มตาสู้ให้ผ่านรอบสาม...เพราะรอบสี่และรอบห้ากำลังรออยู่!.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |