ชาวอเมริกันประท้วงตำรวจเมืองมินนิแอโพลิสเมื่อคืนวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น ภายหลังหนุ่มผิวดำรายหนึ่งโดนตำรวจเรียกหยุดฐานทำผิดกฎจราจรแต่สุดท้ายเขาโดนยิงตาย จุดเกิดเหตุห่าง 16 กม.จากจุดที่จอร์จ ฟลอยด์ ตายเมื่อปีที่แล้วซึ่งจุดชนวนประท้วงก่อจลาจลทั่วสหรัฐนานหลายเดือน
ผู้ประท้วงขึ้นไปยืนบนรถตรวจการณ์ของตำรวจ ภายหลังเกิดเหตุตำรวจยิงดอนเต ไรต์ ชายผิวดำตายเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2564 ที่เมืองบรูคลินเซ็นเตอร์ รัฐมินนิโซตา (Photo by Stephen Maturen/Getty Images)
รายงานของรอยเตอร์และเอเอฟพีเมื่อวันจันทร์ที่ 12 เมษายน กล่าวว่า การเสียชีวิตของหนุ่มผิวสีรายล่าสุดที่เมืองบรูคลินเซ็นเตอร์ ชานเมืองมินนีแอโพลิส ทำให้ผู้คนหลายร้อยคนออกมาประท้วงด้านนอกกองบัญชาการตำรวจบรูคลินเซ็นเตอร์เมื่อคืนวันอาทิตย์ และเจ้าหน้าที่ในชุดปราบจลาจลต้องใช้กระสุนยางและระเบิดแสงวาบขับไล่
ญาติของเขาและผู้ว่าการรัฐมินนิโซตา ทิม วอลซ์ ระบุว่าเขาคือ ดอนเต ไรต์ อายุ 20 ปี วอลซ์กล่าวในแถลงการณ์ว่ากำลังเฝ้าติดตามสถานการณ์ไม่สงบที่บรูคลินเซ็นเตอร์ และว่า รัฐของเราเศร้าโศกของชีวิตชายผิวดำอีกหนึ่งชีวิตที่ตายเพราะเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมาย
ใกล้จุดที่ไรต์โดนยิง ผู้ประท้วงตะโกนอย่างโกรธแค้นด้านหน้าแถวตำรวจปราบจลาจลที่ถือไม้กระบองยาว มีรถยนต์ตำรวจโดนทำลาย 2 คัน โดยผู้ประท้วงบางคนใช้ก้อนหินโยนใส่และขึ้นไปกระโดดย่ำ ตำรวจยิงกระสุนยางโดนผู้ประท้วงอย่างน้อย 2 คน คนหนึ่งมีเลือดไหลที่ศีรษะ ก่อนที่ฝูงชนจะเคลื่อนไปที่กองบัญชาการตำรวจ
ไมค์ เอลเลียต นายกเทศมนตรีบรูคลินเซ็นเตอร์ ทวีตว่า เหตุยิงครั้งนี้ "น่าเศร้า" และเขาขอให้ผู้ประท้วงประท้วงต่อไปอย่างสันติ และผู้ประท้วงอย่างสันติจะไม่โดนจัดการด้วยกำลัง
ไม่นานหลังจากนั้น มีผู้ประท้วงอีกกลุ่มจำนวนหลายร้อยคนมารวมตัวกันอีกที่ด้านนอกกองบัญชาการตำรวจ แต่โดนแก๊สน้ำตาและระเบิดแสงวาบสลายการชุมนุม
ถึงเวลาประมาณเที่ยงคืนตามเวลาท้องถิ่น กองกำลังของเนชันแนลถูกส่งลงพื้นที่ ตำรวจประกาศว่าการชุมนุมเป็นสิ่งผิดกฎหมาย นายกเทศมนตรีบรูคลินเซ็นเตอร์ประกาศเคอร์ฟิวทั่วเมืองจนถึงเวลา 06.00 น.
เมืองมินนีแอโพลิสเผชิญการประท้วงต่อต้านตำรวจในช่วงหลายวันมานี้ ระหว่างมีการพิจารณาคดีของดีเร็ก โชวิน อดีตตำรวจผิวขาว ซึ่งเข้าสู่สัปดาห์ที่ 3 เจ้าหน้าที่วางแนวกั้นรอบศาลและวางกำลังทหารจากเนชันแนลการ์ดรักษาการณ์
โชวินโดนตั้งข้อหาฆาตกรรมและทำให้คนตายโดยไม่เจตนาฆ่า จากเหตุการณ์ที่เขาใช้เข่ากดคอของฟลอยด์อยู่นานจนขาดอากาศหายใจ ขณะทำการจับกุมฟลอยด์ใส่กุญแจมือเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว จุดเกิดเหตุครั้งนั้นห่างจากจุดเกิดเหตุเมื่อวันอาทิตย์ราว 16 กิโลเมตร วิดีโอการควบคุมตัวฟลอยด์ ซึ่งเป็นชายผิวดำอายุ 46 ปี กระพือความโกรธแค้นและจุดชนวนการประท้วงต่อต้านการเหยียดผิวและความโหดเหี้ยมของตำรวจทั่วสหรัฐนานหลายเดือน
เคที ไรต์ แม่ของหนุ่มที่ตาย บอกกับนักข่าวว่า เธอได้รับโทรศัพท์จากลูกชายช่วงบ่าย เขาบอกว่าโดนตำรวจเรียกหยุดรถ เพราะทำผิดกฎจราจรของรัฐ จากการนำน้ำหอมปรับอากาศห้อยไว้ที่กระจกมองหลัง เธอได้ยินเสียงตำรวจบอกให้ลูกชายลงจากรถ เสียงความชุลมุน และเสียงตำรวจบอกว่า "ดอนเต อย่าหนี" จากนั้นโทรศัพท์ก็ถูกตัด เธอโทรไปอีกครั้ง แฟนสาวของดอนเตรับสายและบอกว่าเขาตายอยู่ตรงที่นั่งคนขับ
ตำรวจบรูคลินเซ็นเตอร์กล่าวในแถลงการณ์ว่า ตำรวจเรียกหยุดรถชายคนหนึ่งฐานทำผิดกฎหมายจราจรเมื่อเวลาก่อนบ่ายสองโมง แล้วก็พบว่าชายคนนี้มีหมายจับค้างอยู่ ตำรวจจึงพยายามจับกุมเขา เขากลับเข้าไปในรถ ตำรวจนายหนึ่งยิงชายผู้นี้ซึ่งแถลงการณ์ไม่ระบุชื่อ เขาขับรถหนีไปหลายช่วงตึก ก่อนที่จะชนรถอีกคันและเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
ตำรวจกล่าวว่า กล้องติดลำตัวเจ้าหน้าที่ทั้งสองนายบันทึกเหตุการณ์ไว้ สำนักงานจับกุมคดีอาญาของรัฐกำลังสอบสวนเหตุการณ์นี้
สหภาพเสรีภาพพลเมืองอเมริกันประจำมินนิโซตากล่าวว่า ควรมีหน่วยงานอิสระแห่งอื่นทำการสอบสวน พร้อมเรียกร้องให้ตำรวจเผยแพร่วิดีโอเหตุการณ์ทันที กลุ่มนี้กล่าวด้วยว่า น่ากังวลอย่างยิ่งที่ตำรวจที่นี่ใช้น้ำหอมปรับอากาศห้อยรถเป็นข้ออ้างในการเรียกหยุดรถ ซึ่งบ่อยครั้งเหลือเกินที่เป้าหมายเป็นคนผิวดำ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |