สารพัดม็อบไม่น่ากลัวเท่า‘แนวร่วม’หาย


เพิ่มเพื่อน    

 

            แม้หลายฝ่ายจะไม่เชื่อว่ากลุ่มสามัคคีประชาชนที่มีหัวขบวนอย่างนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กับนายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานญาติวีรชนพฤษภา 35 จะทำหน้าที่ล้มรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้

            แม้จะมีหลายอย่างตั้งข้อสังเกตว่าม็อบผสมสีภายใต้แบรนด์ กลุ่มสามัคคีประชาชน คือการขยับเพื่อลดเพดานม็อบราษฎรให้เหลือเพียงการขับไล่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ 

            และแม้หลายคนจะค่อนแคะว่าม็อบดังกล่าวเป็นเพียงเวทีของอดีตแกนนำคนเสื้อแดง เสื้อเหลือง และ กปปส. แถวสอง แถวสาม ที่ไม่ได้สร้างอิมแพ็กต์อะไรนอกจากการรวมตัวกัน หากแต่ที่สุดแล้ว มันกำลังสะท้อนให้เห็นถึงปรากฏการณ์บางอย่างที่ไม่สามารถมองข้ามความเป็นไปตรงนี้ได้ โดยเฉพาะรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์

            แน่นอนว่า คานอำนาจของรัฐบาลชุดนี้ค่อนข้างเสริมใยเหล็ก เพราะกุมสภาพในประเทศได้แบบเบ็ดเสร็จ ไม่ว่าจะเป็นกองทัพ หรือกลไกตามรัฐธรรมนูญต่างๆ จนยากที่ใครจะโค่นล้มได้ แต่ไม่ใช่ว่ามันจะไม่มีวันหรือไม่มีโอกาสล้มลง

            เพราะสุดท้ายแล้วตัวแปรสำคัญที่พยุงรัฐบาลให้เดินต่อไปได้ แม้ต้องเผชิญมรสุมหรือปัญหาต่างๆ คือ ผนังทองแดงกำแพงเหล็กอย่างประชาชน

            หากมองตั้งแต่วันแรกที่ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตัดสินใจเข้ายึดอำนาจบริหารประเทศเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เรื่อยมาถึงปัจจุบันเป็นระยะเวลาร่วม 7 ปี ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันไม่เหมือนเดิม

            ต้องยอมรับว่า แนวร่วมของ พล.อ.ประยุทธ์ ในวันนั้นกับวันนี้ หายไปไม่น้อย ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันออกไป และหลายคนกลายสภาพมาเป็นศัตรู หรืออยู่ฝั่งตรงข้าม ไม่ว่าจะเดินออกมาเอง หรือถูกผลักออกมา

            ก่อนหน้านี้หลายคนคาดหวังว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์จะเข้ามาปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่ แต่ปรากฏว่าหลายเรื่องยังคงย่ำอยู่กับที่ ไม่ได้รับการแก้ไขแต่อย่างใด โดยเฉพาะเรื่องการปฏิรูปตำรวจและกระบวนการยุติธรรม ที่ถูกครหาว่าทำเพียงลูบหน้าปะจมูกเท่านั้น 

            หรือแม้แต่เรื่องของการเมือง ที่วันนี้รัฐธรรมนูญปี 2560 ไม่ได้ทำให้วัฒนธรรมการเมืองแตกต่างจากอดีตได้ ยังมีการแก่งแย่งผลประโยชน์ ต่อรองอำนาจกัน ไม่ว่าจะภายในพรรคหรือระหว่างพรรคการเมือง ดังที่เป็นข่าวออกมาเป็นระยะๆ ให้เห็น   

                ซึ่งหลายเรื่องที่เป็นผลประโยชน์ของประชาชนกลับต้องติดหล่ม ติดกับดัก เพราะฝ่ายการเมืองไม่สามารถต่อรองผลประโยชน์กันได้ การได้นักการเมืองคุณภาพต่ำเข้ามาทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งบางคนต้องหลับหูหลับตายอมรับ เพียงเพราะเห็นว่าเป็นองคาพยพของรัฐบาล 

                ขณะเดียวกัน บางเรื่องรัฐบาลถูกมองว่าอำมหิตเกินไป ไม่ถนอมน้ำใจสหายร่วมรบ อย่างเช่นเรื่องที่อดีตแกนนำ กปปส.ต้องกระเด็นหลุดออกจากเก้าอี้รัฐมนตรีและ ส.ส. ซึ่งทำให้แนวร่วมหายไปไม่น้อย

            แม้ปัจจุบันอดีตแกนนำ กปปส.เหล่านี้จะไม่ย้ายข้างเปลี่ยนขั้ว เพราะไม่พอใจที่ผู้มีอำนาจปฏิบัติแบบนั้น แต่มีเครื่องหมายคำถามว่า หากวันนี้สถานการณ์รัฐบาลคับขัน จำเป็นต้องพึ่งมวลชน คนเหล่านี้พร้อมจะลุกขึ้นเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กให้อีกครั้งหรือไม่ คำตอบคือ คงไม่ 

            วันนี้หากไม่นับรวมนักการเมืองที่รายล้อมผู้มีอำนาจซึ่งอยู่ร่วมกันเพราะผลประโยชน์แล้ว หันหลังกลับไปมองแนวร่วมที่เดินร่วมกันมา นับวันจะน้อยลงทุกที

            ส่วนคนที่ยังเหลืออยู่เคียงข้าง หลายๆ ครั้งก็ออกอาการให้เห็นว่าเริ่มเหนื่อยที่จะเชียร์ จะปกป้อง เพราะบางเรื่องก็ยากที่จะแก้ตัวให้ 

            ขณะที่ภูมิต้านทานที่พอจะช่วยค้ำยันรัฐบาลได้อีกจุดอย่างการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ก็ไม่ได้เปรี้ยงปร้างในรัฐบาลชุดนี้ และดูเหมือนยังเป็นจุดอ่อนมาตั้งแต่ยุค คสช. แม้จะมีบรรดานักเลือกตั้งเข้ามาแล้วก็ตาม

            นั่นเพราะรัฐบาลไม่สามารถแต่งตั้งมืออาชีพเข้ามาได้ เนื่องจากติดระบบการเมืองแบบโควตา หรือแม้จะพยายามหาก็ไม่มีใครกล้าเสี่ยงที่จะเอาชื่อเสียงมาทิ้ง หลังเห็นชะตากรรมของหลายคนที่โดนวงจรอุบาทว์ทางการเมืองเล่นงาน

            และมีจำนวนไม่น้อยที่ไม่ได้ยืนข้างรัฐบาล หากแต่ต้องเป็นแนวร่วมแบบไม่รู้ตัว เพราะฝ่ายตรงข้าม โดยเฉพาะม็อบราษฎร เคลื่อนไหวทะลุเพดาน แตะต้องในสิ่งที่คนไทยเทิดทูน ซึ่งคนเหล่านี้ไม่ได้ทำเพราะปกป้องรัฐบาล แต่ทำเพราะรับไม่ได้กับสิ่งที่ม็อบทำเพียงเท่านั้น

            ดังนั้น สิ่งที่น่ากลัวสำหรับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ กลับไม่ใช่ม็อบราษฎร ม็อบสามัคคีประชาชน หรืออีกสารพัดม็อบสารพัดชื่อที่กำลังเคลื่อนไหวโจมตีรัฐบาล ซึ่งผุดมาเป็นดอกเห็ด หากแต่เป็นแนวร่วมของรัฐบาลที่นับวันเริ่มเบาบางไปทุกที

            คนเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องย้ายขั้วไปอีกฝั่ง แต่แค่เพียงความนิ่งเฉยก็ถือว่าอันตราย!!.

 

 

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"