11 เมษายน 2564  นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol ระบุว่า

สรุปผลการรับมือกับการแพร่ระบาดของโคขวิดในรอบ 15 เดือน

1) มีการระบาดใหญ่รวม 3 ครั้ง และครั้งที่  3 ในขณะนี้ร้ายแรงที่สุด พิสูจน์ชัดว่าการประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉินรับมือกับโคขวิดไม่ได้ผล แต่ส่งผลกระทบต่อการบริหารราชการแผ่นดินปกติ เพราะรวบอำนาจมาไว้ที่นายกรัฐมนตรีแต่เพียงผู้เดียว 

2) ต้นตอของการแพร่ระบาดทั้ง 3 ครั้งเกิดจากพวกอภิสิทธิ์ชนผู้มีอำนาจทั้งสิ้น และครั้งล่าสุดนี้ เกิดจากอภิสิทธิ์ชนระดับสูงมากแต่ทุกคนลอยนวลไม่ต้องรับผิดชอบ เพราะมีการโยนบาปให้ประชาชนว่าไม่ระวังตัวทำการ์ดตก

3) ระบบการผูกขาด ทั้งในการป้องกันที่หวังพึ่งแต่วัคซีน ทั้งในระบบการตรวจเชื้อ และการรักษา เป็นสาเหตุการทุจริตรายแรง และไม่ได้ผล  วัคซีนก็จัดหาก็มีปัญหาและล่าช้าไม่ทันกาลแล้ว ระบบตรวจก็ไม่พอ ทำให้ประชาชนเดือดร้อนโดยทั่วไป 15 เดือนแล้ว ประชาชนไม่ทราบว่ามียาอะไรบ้างที่ใช้รักษาได้ ทำให้ประชาชนช่วยตัวเองไม่ได้ เพราะระบบผูกขาดรวบเอาไว้หมด การแพทย์แผนไทย และแผนโบราณถูกกีดกันไม่ให้นำมาใช้ในการรักษา ทั้งๆที่ในหลายประเทศได้นำมาใช้และได้ผลอย่างดียิ่ง เรื่องจะก่อวิกฤตใหญ่หลวงขึ้นในเร็ว ๆ นี้ 

4) มีการปั่นกระแสบ่มเพาะความหวาดกลัวอย่างต่อเนื่อง นำรายงานที่สับสนและไม่น่าเชื่อถือจากต่างประเทศมาปั่นกระแสมากมาย เป็นอันตรายต่อชาติ ทำให้ตื่นตระหนกอย่างกว้างขวางในประเทศจนรับมือไม่ได้ 

นี่คือผลที่เกิดขึ้นจากการรับมือโคขวิดในรอบ15เดือน 

จะทำอย่างเดิมต่อไปหรือจะเปลี่ยน!!!

ขณะที่อีกโพสต์ ระบุว่า ตั้งคณะกรรมการจัดหาวัคซีนชุดใหม่แล้ว ไม่มีนายอนุทิน ไม่ว่าจะตั้งสักกี่คณะถ้าไม่เปิดนำเข้าเสรีมันก็เหมือนเดิมแหละครับ!!! จะหาวัคซีนตอนนี้จะทันเวลาหรือครับ??? 

ปัจจุบันนี้ผ่านระยะป้องกันและเข้าสู่ระยะระบาดระเบิดเถิดเทิง  ต้องมุ่งเน้นกระบวนการรักษาเป็นหลัก!!!!

ไม่งั้นจะตายเป็นเบือแบบอเมริกา!!!!!

เมื่อใช้มาตรการแบบอเมริกาผลก็จะออกแบบอเมริกา!!!

เปลี่ยนมาใช้แบบจีน ผลก็จะได้แบบจีน

คือบ้านเมืองกลับสู่ความเป็นปกติประชาชนทำมาหากินได้ตามปกติ!!!