10 เม.ย.64 - ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว นางธิดา ถาวรเศรษฐ ที่ปรึกษาปนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือคนเสื้อแดง กล่าวในงานรำลึก 11 ปี คนเสื้อแดง 10 เม.ย.53 ว่า 11 ปีแล้ว ยังไม่มีคนมารับผิดชอบ กับผู้สูญเสีย เหตุการณ์สลายการชุมนุม ยังไม่มีความจริง ปรากฏว่ามีอะไรเกิดขึ้นในวันที่ 10 เมษายนถึงวันที่ 19 พฤษภาคม 53 การต่อสู้ของผู้มีชีวิตอยู่ จึงต้องต่อสู้เพื่อกู้เกียรติยศศักดิ์ศรี เป็นภารกิจของพวกเราที่ต้องทำความจริงให้ปรากฏ ว่ามีการปราบปรามประชาชนด้วยอาวุธจริง ใช้ทหารกว่า 60,000 นายเบิกกระสุนกว่า 7 แสนนัด ในการปราบปรามประชาชนทั้งหายไปบ้าง ขายไปบ้างยิงประชาชนไปบ้าง ทำให้มีผู้เสียชีวิตร่วมร้อยมีผู้บาดเจ็บกว่า 2 พันคน ความจริงเหล่านี้จึงจะต้องทำให้ปรากฏให้ได้นี่คือภารกิจของพวกเราที่ยังมีชีวิตอยู่ เพื่อสดุดีวีรชนของเรา 

นางธิดา กล่าวว่าการต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตยหลายต่อหลายครั้งจนมีผู้เสียชุวิตว่า การต่อสู้ ปี 2516 มีอนุสาวรีย์ มีอนุสรณ์สถาน แต่กว่าจะได้มาก็ 20 กว่าปี การต่อสู้ปี 2519 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ยังพยายามทำให้ อย่างน้อยใช้เป็นสถานที่ในการจัดงานรำลึก ปี 2535 มีอนุสรณ์สถานที่สวนสันติพรแต่ปี 2553 ความยุติธรรมยังไม่สามารถเกิดขึ้นได้ เราพยายามต่อสู้ในศาล แต่ถูกองค์กรอิสระพิพากษาแทนศาล แม้กระทั่งการจัดงานแต่ละปีเราต้องร่อนเร่หาที่จัด หลังจากปี 57 เมื่อมีการทำรัฐประหาร คณะที่เกี่ยวข้องกับการฆ่าประชาชนในปี 53 ขณะนี้ยังครองอำนาจอยู่ การจัดงานรำลึกเราต้องไปจัดตามวัด จัดตามออฟฟิศ ไปจัดที่วัดพระยังกลัว ดังนั้นจะต้องพูดว่าเป็นความอาภัพของคนเสื้อแดงและวีรชนปี 53 และนี่คือภารกิจของคนที่มีชีวิตอยู่ต้องทำความจริงให้ปรากฏกู้เกียรติยศผู้วายชนม์ กลับคืนมาให้ได้

"เราขอขอบคุณเยาวชนคนรุ่นใหม่ ที่พยายามมากอบกู้ชื่อเสียงของคนเสื้อแดง ไม่ว่าอาจารย์ครูหรือพ่อแม่จะใส่ความคิดแบบใดก็ตามแต่ปัญญาชนคนรุ่นใหม่ เขาได้เรียนรู้ว่า สิทธิคนเสื้อแดง ที่ทำไว้คือการต่อสู้เพื่อประเทศ ล้วนเป็นเส้นทางที่จะนำประเทศก้าวไปข้างหน้าสู่ระบอบประชาธิปไตยที่อำนาจเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง มีการทวงถามความยุติธรรมคืนให้กับประชาชน เราต้องการหีบลงคะแนนแต่กลับได้หีบศพ เยาวชนเหล่านี้ 10 ขวบ 11 ขวบในยุคนั้นเขาได้มาเป็นผู้นำในการต่อสู้ยุคใหม่ เพื่อกู้เกียรติยศของคนเสื้อแดงในนามของญาติวีรชนและในนามของประชาชนที่ต่อสู้กับการรัฐประหารตั้งแต่ปี 53 จนถึงปัจจุบันขอขอบคุณ และมีความซาบซึ้งใจต่อการนำพาการเปลี่ยนแปลงของเยาวชนรุ่นใหม่ทุกคน"นางธิดา กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

ที่ปรึกษานปช.  กล่าวอีกว่า การจัดงานรำลึกปีนี้มีพวงหรีดของกลุ่มคนรุ่นใหม่ เราต้องขอขอบคุณอีกครั้ง และนี่คือสิ่งใหม่ในการจัดงานรำลึกซึ่งไม่ใช่งานเชงเม้ง เพราะเป็นงานที่ชี้ให้เห็นว่าวีรชน 53 ได้รับการคารวะและได้รับการยกย่องจากคนรุ่นใหม่ ซึ่งต้องการนำพาเปลี่ยนแปลงประเทศไปข้างหน้า ดังนั้นขอขอบคุณอีกครั้ง และเมื่อเยาวชนวันนี้ เขาอยู่ในคุกเป็นจำนวนมาก คนเสื้อแดงทั้งหลายจะปล่อยให้เด็กๆอยู่ในการคุมขังอย่างนี้ ทั้งที่เขาเป็นอนาคตของประเทศได้อย่างไร 

"เป็นภารกิจทางประวัติศาสตร์มันต้องจบที่รุ่นเรา รุ่นเราไม่จำเป็นต้องอายุ 20 ปีรุ่นเราอายุ 60-70 ก็ได้ ผ่านมา 11 ปีมีเยาวชนมากู้เกียรติยศ นี่จึงเป็นการเปิดเส้นทางสายใหม่มีคนทุกกลุ่มทุกชนชั้นทุกฝ่าย จะเดินทางไปด้วยกัน"  นางธิดา กล่าวและว่า "ดังนั้นปีนี้จึงเป็นปีที่ดีอย่างยิ่งในการจัดงานรำลึกวีรชน เมษายน 53 ขอให้ทุกคนไปสู่สุคติเถิดเพราะมีคนรุ่นใหม่ที่จะมาสืบทอดเจตนารมณ์ในการผลักดันประเทศเปลี่ยนแปลงประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าแล้วดังนั้นขอให้วีรชนหลับอย่างเป็นสุขเถิด สุดท้ายขอให้ผู้มีอำนาจปล่อยตัวเยาวชน ที่ถูกควบคุมอยู่ในเรือนจำ"