แรงฉุดไม่อยู่! คลังเล็งปรับจีดีพีปี 61 เพิ่มเป็น 4.5% ทุบสถิติรอบ 6 ปี


เพิ่มเพื่อน    

 แรงฉุดไม่อยู่! คลังเล็งปรับประมาณการจีดีพีปี 2561 เพิ่มเป็น 4.5% ทุบสถิติรอบ 6 ปี อานิสงส์รัฐติดเครื่องลงทุนอีอีซี-โครงสร้างพื้นฐาน พ่วงเศรษฐกิจโลกพุ่ง หนุนส่งออกปีนี้ลุ้นโตเกิน 8% พร้อมแจงราคาน้ำมันขยับแรงไม่กระทบคาดการณ์เศรษฐกิจ

 24 พ.ค. 61 - นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังเตรียมปรับประมาณการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจไทยปี 2561 ใหม่ โดยเบื้องต้นคาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 4.5% สูงสุดในรอบ 6 ปี จากปัจจุบันคาดการณ์ที่ 4.2%  หลังสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ประกาศตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาส 1/2561 โตสูงกว่าคาดการณ์ที่ 4.8% จากเดิมกระทรวงการคลังคาดว่าในไตรมาสแรกของปีเศรษฐกิจจะขยายตัวได้ 4%

 โดยเป็นผลมาจากปัจจัยสนับสนุนสำคัญเรื่องการเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ และการเดินหน้าลงทุนในโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ทำให้คาดว่าในปีนี้ภาพรวมการลงทุนของภาครัฐจะขยายตัวได้สูงกว่า 10% จากคาดการณ์เดิมอยู่ที่ 8.9% รวมถึงการส่งออกที่ปีนี้คาดว่าจะขยายตัวได้สูงกว่า 8% ซึ่งเป็นคาดการณ์ปัจจุบัน เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกในปีนี้ที่คาดว่าจะขยายตัวได้เป็นอย่างดี

 ทั้งนี้ จากการเร่งลงทุนในโครงการต่าง ๆ ของภาครัฐ จะช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นของภาคเอกชน ให้เร่งลงทุนเพิ่มในปีนี้เพิ่มขึ้นได้สูงกว่า 3% ซึ่งปัจจัยนี้จะเป็นอีกกำลังสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศไทยด้วย ส่วนราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นนั้น ยังเป็นเรื่องที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป แต่เบื้องต้นประเมินว่าปัจจัยดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อการปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยในปีนี้อย่างแน่นอน ส่วนทิศทางค่าเงินบาทในขณะนี้มีแนวโน้มอ่อนค่าลงมาใกล้แตะระดับ 32 บาทต่อดอลล่าร์แล้ว ซึ่งดีกว่าคาดการณ์ปัจจุบันที่ 31.50 บาทต่อดอลล่าร์

 “ยอมรับว่าทิศทางราคาน้ำมันหลังจากนี้ยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น โดยหากดูรายละเอียดในตลาดล่วงหน้าจะพบว่าแนวโน้มราคามีการเพิ่มสูงขึ้น แต่ไม่ต่อเนื่อง โดยมีโอกาสปรับตัวลดลงได้ในระยะต่อ ๆ ไป ดังนั้นเมื่อมาพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ที่มีผลทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวขึ้น จะมาจากการที่สหรัฐฯ คว่ำบาตประเทศอิหร่าน และการลดกำลังการผลิตน้ำมันของประเทศเวเนซูเอล่า โดยในส่วนนี้ยังไม่ใช่ปัจจัยที่มีผลต่อราคาน้ำมันในระยะยาว และยังมีประเด็นเรื่องการปิดซ่อมบำรุงท่อขนส่งน้ำมันของสหรัฐฯ ที่แม้จะยังมีกำลังการผลิตน้ำมันมาก แต่ก็มีปัญหาในเรื่องดังกล่าวอยู่ ดังนั้นคาดว่าเมื่อการปิดซ่อมบำรุงแล้วเสร็จก็จะทำให้มีปริมาณน้ำมันในตลาดโลกเพิ่มขึ้น และราคาน้ำมันจะมีการปรับตัวลดลงในที่สุด” นางสาวกุลยา กล่าว

 นางสาวกุลยา กล่าวอีกว่า ยังมีปัจจัยที่ต้องติดตามเนื่องจากมีผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศ ได้แก่ การเร่งรัดเม็ดเงินลงทุนในโครงการลงทุนต่าง ๆ หากเดินหน้าได้ตามเป้าหมายที่กำหนดก็จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศ โดยความไม่ล่าช้าของโครงการลงทุนต่าง ๆ จึงกลายเป็นปัจจัยสำคัญ รวมถึงความชัดเจนทางการเมืองก็ยังเป็นอีกปัจจัยที่มีผลต่อการลงทุนของต่างชาติด้วย


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"