สน.ชนะสงครามออกหมายเรียก "จตุพร" พร้อมแกนนำกลุ่มไทยไม่ทน รวม 14 ราย เข้าพบ 26 เม.ย. "อดุลย์" ไม่สนถูกดำเนินคดีแกนนำราษฎรรับทราบข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ชุมนุมราชประสงค์ 24 มี.ค. “มายด์ ภัสราวลี” โดนเพิ่มมาตรา 112 ทนาย 3 นิ้วหวั่นพิจารณาลับคดีชุมนุม 19 กันยา. ยื้อไต่สวนยิ่งติดคุกนาน แม่เผย "เพนกวิน" สั่งลาเพื่อนและครอบครัวหาก 9 พ.ค.ไม่ได้ประกันตัว
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เมื่อวันที่ 8 เมษายน พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. ในฐานะโฆษก บช.น. กล่าวถึงการดำเนินคดีต่อกลุ่มผู้ชุมนุม “ไทยไม่ทน สามัคคีประชาชน เพื่อประชาธิปไตย” นำโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.), นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35, นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน และนายไทกร พลสุวรรณ อดีตแกนนำกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ เมื่อวันที่ 4 และ 5 เม.ย. ที่สวนสันติพร อนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม เพื่อขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ว่าขณะนี้พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงครามได้ออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด 14 ราย เข้ารับทราบข้อกล่าวหาผิดตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน (มาตรการควบคุมโรค) และพระราชบัญญัติโรคติดต่อ ในวันที่ 26 เม.ย.นี้
ส่วนวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา นายธนเดช ศรีสงคราม หรือม่อน แกนนำกลุ่มอาชีวะฟันเฟืองประชาธิปไตย และพวกรวม 7 ราย เข้ารับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง จำนวน 5 ข้อหา คือผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน, พ.ร.บ.โรคติดต่อ, กีดขวางการจราจรผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก, ตั้งวางบนทางเท้าผิดตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาด, ใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง กรณีการชุมนุมเมื่อวันที่ 13 มี.ค. เวลา 15.00 น. ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ต่อเนื่องถนนพระราม 5 บริเวณแยกพาณิชยการ ใกล้เชิงสะพานชมัยมรุเชฐ
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาได้ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งหมด 184 คดี ทำการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว 136 คดี และอยู่ระหว่างการสอบสวน 48 คดี อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนจะต้องดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน หากปรากฏว่าผู้หนึ่งผู้ใด หรือประการใด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้านนายอดุลย์เปิดเผยว่า ไม่ได้สนใจว่าจะถูกดำเนินคดีอะไร แต่ต้องย้อนถามว่าใครเป็นต้นเหตุให้ต้องประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินกับ พ.ร.บ.ควบคุมโรค การระบาดทั้ง 3 ครั้งมาจากแหล่งอบายมุขและธุรกิจสีเทาที่ต้องจ่ายส่วยให้ผู้มีอำนาจในรัฐบาลหรือไม่ ไม่ได้ระบาดจากประชาชนทั่วไปหรือจากผู้ชุมนุม แต่กลับใช้กฎหมายมาเล่นงานผู้ชุมนุม เพื่อปิดปากประชาชนไม่ให้ตรวจสอบความผิดพลาดล้มเหลวของตัวเอง ซึ่งหากไม่มีการระบาดมาจากแหล่งอบายมุขดังกล่าว ก็ไม่จำเป็นต้องใช้กฎหมายมาบังคับใช้กับประชาชนแต่อย่างใดเลย
"เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม เวทีสามัคคีประชาชนฯ จึงยุติชั่วคราว แล้วใช้เวทีทางโซเชียลมีเดียแทน โดยจะเชิญชวนประชาชนทุกเสื้อสีและผู้เชี่ยวชาญจากทุกภาคส่วนของสังคม มาร่วมชำแหละความผิดพลาดล้มเหลวของระบอบประยุทธ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนรับรู้และเข้าใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ตระบัดสัตย์ หลอกลวง ไม่ได้สร้างความปรองดอง ไม่ได้ทำให้บ้านเมืองสงบอย่างที่โฆษณา และยิ่งทำให้เกิดความแตกแยกร้าวลึกกระทบถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่มีการปฏิรูปประเทศ เกิดความเหลื่อมล้ำทางสังคมมากขึ้น หากปล่อยให้มีอำนาจอีกต่อไปประเทศชาติจะเสียหาย เกิดกลียุคเกินเยียวยาอย่างแน่นอน" นายอดลุย์กล่าว
ที่ สน.ลุมพินี น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือมายด์ แกนนำคณะราษฎร และแกนนำการชุมนุมวันที่ 24 มี.ค. พร้อมด้วยนายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่ นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือ ไบร์ท, นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์, น.ส.ธนพร วิจันทร์ หรือไหม, น.ส.เบนจา อะปัญ, น.ส.ชุมาพร แต่งเกลี้ยง, นายคณพศ แย้มสงวนศักดิ์, นายชาติชาย แกดำ และเยาวชนอีก 1 คน รวม 10 คน เข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกของพนักงานสอบสวน ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน (มาตรการควบคุมโรค) และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ ทั้งนี้เฉพาะ น.ส.ภัสราวลี ถูกแจ้งข้อหาหมิ่นเบื้องสูง ตามกฎหมายอาญามาตรา 112 ด้วย อย่างไรก็ตาม ภายหลังสอบปากคำเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ได้ปล่อยตัวแกนนำและแนวร่วมกลับ โดยไม่ได้ควบคุมตัวไว้ ก่อนนัดวันส่งสำนวนคดีอีกครั้ง
วัะนเดียวกันที่ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดตรวจหลักฐานเพื่อกำหนดวันนัดสืบพยาน คดีหมายเลขดำ อ 287/2564 ที่พนักงานอัยการพิเศษคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ ฟ้องนายพริษฐ์ หรือเพนกวิน ชิวารักษ์ กับพวกรวม 22 คน แกนนำและแนวร่วมกลุ่มราษฎร เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ ป.อาญา มาตรา 112, ยุยงปลุกปั่นฯ มาตรา 116, ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปฯ และอื่นๆ จากกรณีชุมนุมเมื่อวันที่ 19-20 ก.ย.2563 ที่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์-สนามหลวง
นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ให้สัมภาษณ์ก่อนการพิจารณาเกี่ยวกับการสู้คดีว่า คดีมีการกล่าวหาค่อนข้างลอยๆ จำเลยบางคนไม่ได้พูดพาดพิงก็โดน มาตรา 112 ส่วนมาตรา 116 เป็นมาตราปราบผู้ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล ไม่มีปัญหาในการต่อสู้คดี ปัญหาอย่างเดียวคือการถูกขัง เสียโอกาส เสียอิสรภาพในการต่อสู้คดี ซึ่งไม่รู้ว่าพยานโจทก์มีเท่าไหร่ ทราบว่าจำนวนหลายสิบคน อาจใช้เวลาเป็นปี
ส่วนเรื่องการประกันตัวนั้น ให้รอฟังวันที่ 9 เม.ย. ที่ศาลจะมีคำสั่งกรณีร้องขอปล่อยชั่วคราว 3 คน (นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน, นายปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม หรือหมอลำแบงค์ และนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข) สำหรับการสืบพยานมีปัญหาอยู่แล้ว หากไม่ปล่อยตัวยิ่งยุ่ง จากประสบการณ์คดีแบบนี้ อัยการโจทก์มักจะขอพิจารณาลับ ทั้งที่ความจริงการพิจารณาเปิดเผยเป็นสิ่งสำคัญ อีกทั้งวันนี้ศาลอ้างเรื่องโควิด พ่อแม่จำเลยไปที่เรือนจำ ราชทัณฑ์ไม่ให้เยี่ยม พอมาศาลก็ไม่ได้เจอ น่าจะอนุญาตให้พ่อแม่เข้าไปเยี่ยมลูกไม่ดีกว่าหรือ เชื่อว่าหากต่อไปมีการพิจารณาลับก็ยุ่ง ไม่มีโอกาสให้ใครรู้ว่าข้อเท็จจริงคืออะไร ถูกกล่าวหาเลื่อนลอยแค่ไหน
สำหรับบรรยากาศการพิจารณาคดีในช่วงเช้า ขณะที่ในการเบิกตัวจำเลยเข้ามาในห้องพิจารณา นายพริษฐ์ที่อดอาหารประท้วงมา 24 วัน ยังคงนั่งรถเข็นพร้อมสายน้ำเกลือและทีมแพทย์คอยดูแลเข้ามาดังเดิม ส่วน น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง ที่เพิ่งเริ่มอดอาหารประท้วงยังเดินได้โดยปกติ สำหรับ นายอานนท์ นำภา เมื่อเข้ามาในห้องพิจารณา ปรากฏมีบุตรสาวของนายอานนท์ อายุประมาณ 4-5 ขวบ เข้าไปสวมกอดและนั่งเล่นโดยตลอด โดยในบางช่วงนายพริษฐ์ยังมีแรงพูดคุยกับนายอานนท์และ น.ส.ปนัสยา
ภายหลังการพิจารณาตลอดทั้งช่วงเช้าและบ่ายแล้ว ได้กำหนดสืบพยานนัดแรกเป็นวันที่ 19 พ.ค.เวลา 9.00 น. โดยโจทก์นำพยานเข้าสืบจำนวน 77 ปาก ใช้เวลา 24 นัด จำเลยนำพยานเข้าสืบจำนวน 40 ปาก ใช้เวลา 21 นัด
นางสุรีรัตน์ ชิวารักษ์ มารดาของนายพริษฐ์ เปิดเผยว่า เราอยากเข้าไปเจอลูก แต่เจ้าหน้าที่ไม่ให้เข้า จึงไปอยู่หน้าห้อง 704 และมีตำรวจจาก จ.ขอนแก่น มาแจ้งเพิ่มคดีตาม ป.อาญา ม.116 ให้เพนกวินกับนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ตอนระหว่างการนำตัวเพนกวินออกมา ตนจับตัวเพนกวินได้นิดหนึ่ง รู้สึกว่ามือเย็นถึงแขน เรามองหน้าเห็นตาดำๆ ไม่สดชื่น อาการหนักลง ส่วนในห้องพิจารณาเหมือนมีปัญหา ไม่ได้รับความยุติธรรม เพนกวินบอกเพื่อนว่าถ้าพรุ่งนี้ (9 เม.ย.) ยื่นประกันแล้วไม่ได้ออก จะลาเพื่อน ลาครอบครัว ไม่เจอกันอีก อีกทั้งเพนกวินน้ำหนักลดลงมาก รูปหน้าเปลี่ยน ตนก็ร้องไห้ รับไม่ได้
ด้านเพจแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม อัปเดตสถานการณ์ เพนกวิน-พริษฐ์ อดอาหารมาเป็นวันที่ 24 และ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง อดอาหารเป็นวันที่ 10 แล้ว พร้อมระบุว่า เพื่อนของเรายอมอดอาหารเพียงเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมจากศาล ขอให้ศาลตอบ 3 คำถามที่เพื่อนเราทวงถาม และขอศาลจงตัดสินโดยยึดสถาบันประชาชนเป็นหลัก
ในช่วงเย็นเวลา 17.00 น. แนวร่วมเครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย ได้จัดกิจกรรม "เรียกร้องความยุติธรรมให้เพื่อนของเรา" ที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร โดยมีแกนนำ อาทิ นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่, นายนันทพงศ์ ปานมาศ หรือกุ๊ก, นายกฤษณะ ไก่แก้ว หรือฟรอยด์, นายปาริชาต เลิศอัคระรัตน์ หรือพลอย ปราศรัย โดยมีการแสดงดนตรีของวงกวีศิลป์ด้วย.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |