จี้‘ศักดิ์สยาม’ลาออก รุมเฉ่งรมต.ติดโควิดแสดงสปิริตบี้เปิดไทม์ไลน์‘ป้อม’โดดป้อง


เพิ่มเพื่อน    

 "บิ๊กป้อม" โดดป้อง "ศักดิ์สยาม" เปิดไทม์ไลน์ติดโควิด บอกพูดชัดแล้วมาจากหน้าห้อง "เสี่ยโอ๋" โผล่เซลฟีส่งรูปให้นักข่าว เล่าอาการป่วยแต่ไร้แจงต้นตอติดเชื้อ "กิตติชัย" ส.ส.ภูมิใจไทยรับติดไวรัสจากเพื่อนใน กทม. "เด็ก ปชป.-ก้าวไกล" ไล่บี้ "รมว.คมนาคม" รับไม่ได้ปกปิดข้อมูล จี้แสดงสปิริตลาออก "พท.-กลุ่มสามัคคี ปชช." ร้องนายกฯ รับผิดชอบระบาดรอบ 3

    ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 8 เม.ย. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีรัฐมนตรีติดไวรัสโควิด-19 แล้วไม่เปิดไทม์ไลน์ทั้งหมดว่า ไม่มี นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ก็บอกมาว่าติดจากลูกน้อง เขาติดจากหน้าห้อง จะต้องถามไทม์ไลน์อะไร เพราะท่านก็ไม่ได้ไปไหน แค่ไปประชุม การติดก็ติดมาจากหน้าห้องซึ่งเป็นคนใกล้ชิด
    "ไทม์ไลน์เขาก็เปิดแล้วไงว่าไปประชุมที่ไหน ผมก็อ่านดูแล้ว เขาก็มีความจริงใจอยู่แล้วที่จะเปิดเผย เขาไม่ได้ติดจากใคร แต่มาจากหน้าห้อง" พล.อ.ประวิตรกล่าว
    ถามว่า โซเชียลมีเดียมีการตั้งข้อสงสัยอาจติดมาจากการไปเที่ยวสถานบันเทิง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า โซเชียลฯ จะเชื่อได้หรือไม่ แล้วใครเป็นคนเขียน
    ซักว่านายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตนักการเมือง ระบุคริสตัลคลับเป็นสถานที่คุยงานของรัฐมนตรี เปรียบเหมือนไทยคู่ฟ้า 2 รองนายกฯ กล่าวว่า “ผมไม่รู้ ผมก็เชื่อจากที่รัฐมนตรีท่านพูดอย่างงั้น"
    ต่อมาเวลา 10.33 น. นายศักดิ์สยามได้ถ่ายเซลฟี พร้อมข้อความรายงานอาการล่าสุดของตัวเอง โดยส่งมายังไลน์กรุ๊ปนักข่าวกระทรวงคมนาคม ระบุว่า "ตามที่เมื่อวานนี้ผมได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ หลังจากมีไข้สูงถึง 38 องศาเซลเซียส ล่าสุด เช้าวันนี้ อุณหภูมิร่างกายปกติ 36.6 องศาเซลเซียส ออกซิเจน 96% และไม่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ซึ่งในระหว่างนี้จะต้องรักษาดูอาการต่อไป และมีการเจาะเลือดทุกวัน เพื่อตรวจว่าปลอดเชื้อแล้วหรือไม่ต่อไป"
    นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ในฐานะโฆษก ภท. กล่าวถึงผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ของ ส.ส.ของพรรคและเจ้าหน้าที่พรรคที่ไปร่วมงานวันเกิดครบรอบ 13 ปีพรรคภูมิใจไทย ที่มีนายศักดิ์สยามร่วมงานว่า ส.ส.และเจ้าหน้าที่ของพรรคที่เข้าตรวจในสถาบันบำราศนราดูรเมื่อวันที่ 7 เม.ย. ทั้งหมดไม่พบเชื้อ และจะนัดหมายเพื่อไปตรวจอีกครั้งใน 7-10 วันข้างหน้า ซึ่งระหว่างนี้ทุกท่านก็กักตัวอยู่บ้าน เพื่อรับผิดชอบต่อสังคม   
    ถามว่ามีข่าวลือนายกิตติชัย เรืองสวัสดิ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคภูมิใจไทย อาจติดโควิด-19 เพราะไข้ขึ้นสูง โฆษกพรรค ภท.กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เพราะไม่ได้เจอกับเจ้าตัวที่สถาบันบำราศนราดูร
    อย่างไรก็ดี นายกิตติชัยได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า "เรียนทุกท่าน และกราบขออภัยทุกท่านครับ เมื่อวานช่วงค่ำ ผมได้ทราบผลตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นบวก (คือติดเชื้อครับ) การสอบสวนโรค ผมน่าจะได้รับเชื้อจากการทานอาหารร่วมกับกลุ่มเพื่อน (กลุ่มเพื่อนมีความใกล้ชิดกับร้านอาหารที่พบเชื้อใน กทม.) เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 4 เมษายน ที่ผ่านมาครับ การพบกันในก่อนวันอาทิตย์ที่ 4 เมษายน ทุกๆ งาน #ทุกท่านปลอดภัยแน่นอนครับ เบื้องต้นไม่มีไข้ และไม่แสดงอาการใดๆ ขณะนี้เข้ารับการรักษาที่ รพ.โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ผมกราบขออภัยทุกท่าน กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ"
    นอกจากนี้ นายกิตติชัยได้แจ้งไทม์ไลน์ตั้งแต่วันที่ 1-8 เม.ย. โดยในช่วงวันที่ 1-4 เม.ย. จะอยู่ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา และวันที่ 5-7 เม.ย.อยู่ใน กทม. พร้อมยืนยันตลอดเวลาที่อยู่นอกสถานที่ใส่หน้ากากอนามัยอย่างสม่ำเสมอ
ไล่บี้'เสี่ยโอ๋'เปิดไทม์ไลน์
    ด้าน น.ส.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การติดเชื้อโควิดของรัฐมนตรีและ ส.ส. ถ้ามีการติดจากเหตุทำงาน ลงพื้นที่แก้ปัญหาให้ประชาชน เหมือนกรณีนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ถือเป็นเรื่องที่น่ายกย่องว่ามีความเสียสละในการปฏิบัติหน้าที่ แต่หากการติดเชื้อโควิด-19 เกิดจากการไปเที่ยวสถานบันเทิง เป็นเรื่องที่รับไม่ได้ เพราะถือว่าขาดจิตสำนึก เป็นผู้แทนปวงชาวไทย กลับกระทำการละเมิดกฎเกณฑ์ที่ตัวเองสร้างขึ้นเพื่อให้ประชาชนปฏิบัติ  
     “อยากให้ย้อนกลับไปดูข่าวต่างประเทศเมื่อวันที่ 2 ก.ค.ปีที่แล้ว รมว.สาธารณสุขนิวซีแลนด์ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง เพียงแค่เพราะเขาถูกวิจารณ์จากการพาครอบครัวไปเที่ยวทะเล และขี่จักรยานบนภูเขา ในช่วงที่นิวซีแลนด์ยังอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ แต่ของประเทศไทย เราพบชนชั้นนำในทางสังคมและภาคการเมืองมีการ์ดตกกันต่อเนื่อง โดยไม่เคยเห็นการแสดงสปิริตใดๆ ปัญหาใหญ่ตอนนี้คือ คนเริ่มขาดความเชื่อมั่นว่าจะมีการปกปิดข้อมูลเพื่อปกป้องใครหรือไม่ เรื่องนี้สำคัญต้องให้ข้อมูลเป็นจริงต่อสังคม การปฏิบัติต้องเท่าเทียม เพราะหากประชาชนไม่ไว้วางใจในยามวิกฤติ อาจจะเกิดความโกลาหลตามมาได้” ส.ส.ปชป.รายนี้ระบุ
    ขณะที่นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย ตอบโต้ น.ส.พิมพ์รพี ว่าการที่รัฐมนตรีติดโควิดนั้นไม่ใช่จะต้องลาออก เพราะเรื่องนี้มีความชัดเจนว่าติดจากทีมงานใกล้ชิด การกล่าวอ้างในทางที่เสียหายจึงเข้าข่ายเป็นเรื่องหมิ่นประมาทการถามหาสปิริตรัฐมนตรีติดโควิด-19 กับรัฐมนตรีทุจริต ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช.ตัดสินแล้ว อย่างนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย มันต่างกันเยอะ อะไรเสียหายมากกว่ากัน ทำไมคุณไม่ไปทวงถามสปิริตตรงนั้นบ้าง
    "การออกมาวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่มีพื้นฐานความจริงเช่นนี้ เป็นการไร้มารยาททางการเมืองในการร่วมรัฐบาลอย่างมาก ซึ่งน่าจะมาจากความอ่อนพรรษาทางการเมืองมากกว่า ผมรู้มาว่านายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความห่วงใยมาถึงนายศักดิ์สยาม แต่ทำไมลูกพรรคกลับทำสวนทางอย่างสิ้นเชิงแบบนี้ หากกรณีเป็นรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ น.ส.พิมพ์รพีจะออกมาเรียกร้องสปิริตแบบนี้หรือไม่ หลายๆ เรื่อง ทั้งถุงมือยาง หน้ากากอนามัย ที่ก่อนหน้านี้สังคมเคลือบแคลงสงสัย ก็ไม่เห็นออกมาทวงถามสปิริตทางการเมืองเลย" นายสฤษฏ์พงษ์กล่าว
    นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า การป้องกันการระบาดโควิด-19 ของรัฐบาลล้มเหลว ที่ผ่านมารัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ระยะเวลานานกว่า 1 ปี กลับไม่สามารถที่จะแก้ไขการระบาดของโควิดได้ ชัดเจนว่าการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินมีนัยแอบแฝงทางการเมืองและการจัดซื้อจัดจ้างมากกว่า
    นพ.ชลน่านกล่าวว่า กรณีที่รัฐมนตรีในคณะรัฐบาลหลายคนติดเชื้อโควิด-19 สะท้อนชัดเจนว่าตัวคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้ปล่อยปละละเลย แสดงให้เห็นถึงความไร้ประสิทธิภาพ กระทบไปถึงการบริหารจัดการวัคซีนรัฐบาลยิ่งช้า ยิ่งเสียโอกาส รวมทั้งไปมุ่งในวัคซีนยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่ง ส่งผลให้มาตรการการควบคุมโรคจากวัคซีนไม่ประสบความสำเร็จ และวัคซีนที่ฉีดก็ไม่มีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อได้ 100% เห็นได้จากรัฐมนตรีที่ฉีดวัคซีนครบ 2 โดสก็ยังติดเชื้อได้อีก
    ส.ส.น่าน พรรค พท.กล่าวว่า รัฐบาลควรเปิดทางเลือกให้กับภาคเอกชนจนถึงประชาชนเกี่ยวกับหาจัดหาวัคซีนโควิด ไม่จำกัดเพียงแค่ยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่ง รัฐต้องสนับสนุนภาคเอกชนในการจัดหาวัคซีน ไม่ควรปิดกั้น หากโรงพยาบาลเอกชนใดมีความพร้อมและความสามารถในการจัดหาวัคซีน รัฐบาลต้องเปิดโอกาสให้กับเขานำเข้าวัคซีนที่ดีที่สุดเพื่อบริการประชาชน กรณีที่พลเอกประยุทธ์ออกมาระบุว่าการระบาดของไวรัสโควิดรอบนี้ อะไรจะเกิดก็เกิด การพูดเช่นนี้คือการสารภาพกับประชาชนว่าหมดปัญญาแล้ว คนเป็นผู้บริหารประเทศจะพูดเช่นนี้ไม่ได้ เพราะเป็นความรับผิดชอบที่จะต้องดูแลพี่น้องประชาชน การพูดเช่นนี้หมายถึงการปฏิเสธความรับผิดชอบต่อชีวิตประชาชน
    "วิกฤติโควิด-19 จะหนักขึ้นหากพลเอกประยุทธ์หมดปัญญาแก้ปัญหา และไร้ความสามารถ ก็ควรที่จะลาออกหรือหาคนที่มีความสามารถเข้ามาช่วยทำงาน อย่าดื้อดึง เพราะประเทศจะเสียหายมากกว่านี้” ส.ส.พรรค พท.ผู้นี้ระบุ
    ทั้งนี้ นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาตอบโต้ นพ.ชลน่านทันที ว่ารัฐบาลบริหารจัดการอย่างเต็มที่ ขอให้เชื่อมั่นในระบบสาธารณสุขของไทย พล.อ.ประยุทธ์บริหารจัดการโควิด-19 ด้วยสมองและหัวใจ ไม่เหมือน นพ.ชลน่าน ที่เป็นหมอเสียเปล่า การเรียกร้องให้นายกฯ ลาออกก็เพื่อหวังผลทางการเมืองเท่านั้น ถือว่าเป็นนักการเมืองสายพันธุ์เพื่อไทยขนานแท้ น่าเสียดายความรู้ความสามารถ
    ด้าน น.ส.เกณิกา ตาปสนันทน์ สมาชิกพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้บุคคลสำคัญในรัฐบาล นายศักดิ์สยาม และ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เปิดเผยไทม์ไลน์ของตัวเองอย่างละเอียด ตามเงื่อนไขที่กำหนดใน พ.ร.บ.โรคติดต่อ หลังสังคมข้องใจว่าอาจมีการปกปิดข้อมูลในบางช่วง โดยเฉพาะข้อมูลของนายศักดิ์สยาม ที่ไม่ตรงกับที่มีการเปิดเผยจากสื่อมวลชน
    "ในฐานะรัฐมนตรีซึ่งเป็นบุคคลสำคัญระดับประเทศ สมควรจะต้องมีการตรวจสอบเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดี การที่ท่านไม่เปิดเผยอย่างละเอียด เป็นเพราะไปพื้นที่เสี่ยงที่ไม่สามารถเปิดเผยให้ประชาชนรู้ได้ใช่หรือไม่ เป็นถึงรัฐมนตรีและผู้มีอำนาจในรัฐบาล ยิ่งต้องเปิดเผย และยิ่งต้องป้องกันโควิดไม่ให้เผยแพร่ เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ประชาชน อยากฝากถามท่านว่า ได้ลงทะเบียนหรือสแกนเช็กอินหมอชนะเหมือนประชาชนทั่วไปหรือไม่ ในเมื่อแอปฯ นี้เป็นที่ภาคภูมิใจของรัฐบาล แต่ท่านกลับไม่ได้ใช้ ขนาดรัฐมนตรียังไม่ทำ แล้วจะให้ประชาชนทำตามได้อย่างไร" สมาชิกพรรคไทยสร้างไทยระบุ  
ซัดบิ๊กตู่ต้องรับผิดชอบ
    เช่นเดียวกับ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกพรรคก้าวไกล แถลงเรียกร้องให้นายศักดิ์สยามออกมาเปิดเผยไทม์ไลน์การติดเชื้อโควิด-19 เนื่องจากก่อนหน้านี้ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ให้มีการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันหมอชนะ จึงเชื่อว่านายศักดิ์สยามก็น่าจะใช้แอปพลิเคชันดังกล่าว และไม่ว่าจะไปในสถานที่ใด ก็จะต้องมีการเช็กอินเข้าและออกสถานที่นั้น โดยใช้แอปพลิเคชันไทยชนะ เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีของประชาชน ให้สมกับที่นายศักดิ์สยามอยู่ในพรรคที่มีหัวหน้าพรรคเป็น รมว.สาธารณสุข หรืออย่างน้อยเวลาไปไหนมาไหนก็มีการใช้กูเกิลแมป เพื่อบันทึกเส้นทางในการเดินทาง
    "ในนามพรรคก้าวไกล จึงอยากเรียกร้องให้นายศักดิ์สยามออกมาเปิดเผยไทม์ไลน์อย่างละเอียด เพื่อประโยชน์ในการสอบสวนโรคและควบคุมโรค และหากนายศักดิ์สยามไม่ดำเนินการตามข้อเรียกร้องดังกล่าวในฐานะรัฐมนตรี ควรจะต้องแสดงความรับผิดชอบโดยการลาออก" นายวิโรจน์กล่าว
    โฆษกพรรคก้าวไกลกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ศบค.เคยออกมาระบุว่าผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 แล้วปกปิดไทม์ไลน์ มีความผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โรคติดต่อ พ.ศ.2558 และผิดกฎหมายอาญามาตรา 137 กรณีให้ข้อมูลเท็จ ทั้งนี้ ผู้ที่ออก พ.ร.ก.ฉุกเฉินคือ นายกรัฐมนตรี และมีการบังคับใช้กับประชาชนโดยอ้างว่าเพื่อควบคุมการระบาดของโรค แต่วันนี้การระบาดมาอยู่ใกล้จมูกใน ครม.จึงอยากเรียกร้องให้มีการบังคับใช้กับคนในบังคับบัญชาอย่างเสมอภาค เพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่าประเทศนี้ให้ความสำคัญ
    "ตอนนี้มี 3 คนที่ติดโควิด แต่ยังไม่เปิดเผยไทม์ไลน์อย่างละเอียด คือข้าราชการตุลาการคนหนึ่งที่ จ.นนทบุรี พล.ท.สรรเสริญ และนายศักดิ์สยาม ไม่ต้องกังวลว่าจะทำไม่ได้ เพราะผังล้มเจ้ากำมะลอที่ไปสารภาพกลางศาลว่าสร้างมาเองยังทำได้ ไทม์ไลน์เป็นเรื่องของตัวเอง ทำไมจะออกมาเปิดเผยไม่ได้" โฆษกพรรคก้าวไกลกล่าว
    น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ  โพสต์ข้อความว่า โควิด-19 ไม่มีใครอยากให้เกิด และไม่ใช่ความผิด แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วไม่ว่าจะรัฐมนตรี อธิบดี ผู้บริหารองค์กรภาครัฐหรือเอกชน บุคคลที่เป็นผู้นำทางความคิดของสังคม ควรเปิดเผยไทม์ไลน์อย่างโปร่งใสโดยละเอียด เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีในการปฏิบัติตามกฎหมายที่พลเมืองทุกคนต้องปฏิบัติบนบรรทัดฐานเดียวกัน ไม่ควรมีอภิสิทธิ์ชนใดได้รับการยกเว้น เพื่อรักษาเจตนารมณ์ของกฎหมายในการควบคุมการระบาด ปกป้องให้ผู้อื่นปลอดภัยจากการติดเชื้อ   
    วันนี้ศิลปินดารา หรือกระทั่งประชาชนทั่วไป เมื่อพบว่าตนเองติดเชื้อโควิด-19 ต่างก็ออกมาเปิดเผยไทม์ไลน์โดยละเอียด ด้วยจิตสำนึกที่ซื่อสัตย์ และรับผิดชอบต่อสังคม นั่นคือสิ่งสำคัญที่สุด   สุดท้ายขอส่งกำลังใจให้ผู้ที่กำลังต่อสู้กับเชื้อโควิด-19 อยู่ทุกท่าน ให้หายจากอาการป่วยโดยไว และรวมถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ ให้พวกเราทุกคนเข้มแข็งและผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปได้ด้วยดีค่ะ #ไม่เปิดเผยไทม์ไลน์โทษถึงติดคุก
    นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35 และแกนนำกลุ่ม "ไทยไม่ทน สามัคคีประชาชน เพื่อประเทศไทย" กล่าวว่า ต้นเหตุโควิดระบาดทั้ง 3 รอบ มาจากความบกพร่องของ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ซึ่งเมื่อครั้งระบาดรอบสองเคยเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์แสดงความรับผิดชอบด้วยการขอโทษประชาชนและปลด ผบ.ตร. แต่ก็ไม่ได้รับผิดชอบอะไร รอบสามนี้ถือว่าเลวร้ายที่สุด เพราะมีรัฐมนตรีและ ส.ส.รัฐบาลเข้าไปใช้บริการในสถานบันเทิง ถือว่าการ์ดตก เป็นการฝ่าฝืนนโยบายรัฐบาลและฝ่าฝืน พ.ร.บ.ควบคุมโรค ซึ่งจะต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก หรือไม่นายกฯ ก็ต้องสั่งปลด
    "นายกฯ ก็หนีไม่พ้นความผิดเช่นกัน ฐานปล่อยปละละเลยให้เกิดการระบาดทั้ง 3 รอบ สร้างความหายนะต่อระบบเศรษฐกิจมหาศาล ทำให้ประชาชนทุกสาขาอาชีพเดือดร้อนไปทั่วประเทศ และยังมีคนติดโควิดเสียชีวิตอีกด้วย เป็นความเสียหายต่อประเทศชาติ มากกว่าโครงการจำนำข้าวยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์เสียอีก แต่นายกฯ กลับด่าประชาชนว่าขาดจิตสำนึก แล้วนายกฯ กับ ครม.ยังมีสำนึกเหลืออยู่หรือไม่" นายอดุลย์กล่าว
    แกนนำกลุ่มสามัคคีประชาชนกล่าวว่า หากใช้บรรทัดฐานเดียวกับคดีโครงการระบายข้าวแบบจีทูจี ที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์กล่าวหาว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์มีความผิดตาม ป.อาญามาตรา 157 ฐานละเว้นหน้าที่ปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริต จนศาลฎีกาสั่งจำคุก 5 ปี แม้ศาลปกครองกลางจะยกฟ้องไม่ต้องชดเชยความเสียหายทางแพ่ง 3.5 หมื่นล้านบาท แต่ พล.อ.ประยุทธ์ก็จะต้องมีความรับผิดชอบกับความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการปล่อยปละละเลยให้โควิดระบาดทั้ง 3 ครั้ง
    "หากผู้นำรัฐบาลมีการบังคับใช้นโยบายและกฎหมายอย่างเคร่งครัด มีการปฏิรูปตำรวจตามสัญญาไม่ใช่ซื้อเวลาหมกเม็ดอย่างที่เป็นอยู่ ส่วยบ่อนการพนันแรงงานเถื่อนสถานบันเทิงก็จะหมดไปก็จะไม่เป็นเงื่อนไขให้เกิดการระบาดโควิด  ดังนั้น ทางกลุ่มสามัคคีประชาชนฯ จะให้ฝ่ายกฎหมายไปดำเนินคดีกับ พล.อ.ประยุทธ์ในเร็วๆ นี้" แกนนำกลุ่มสามัคคีประชาชนกล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"