ระบาดหนัก10เท่า! รอบใหม่พันธ์อังกฤษลามทั่วปท./ข้องใจไทม์ไลน์ศักดิ์สยาม


เพิ่มเพื่อน    

  โควิดลามทั่วประเทศ ยอดพุ่ง 334 ราย โยงสถานบันเทิง 291 ราย "ศบค." ยังไม่ปรับระดับสีพื้นที่ รอ "สธ.-มท."  หารือ 1-2 วัน เปิดช่องผู้ว่าฯ สั่งคุมเข้มเองได้ "หมอยง" ชี้คลัสเตอร์ทองหล่อสายพันธุ์อังกฤษ แพร่กระจายเร็วถึง 1.7 เท่า "อธิบดีควบคุมโรค" ชงโมเดลสงกรานต์ปี 62 ข้ามจังหวัดเท่าที่จำเป็น หวั่นแพร่เชื้อเพิ่ม "ครม." เงียบเหงา รมต.กลุ่มเสี่ยงลากักตัว "บิ๊กตู่" เครียดห่วงสถานการณ์ ยันไม่ล็อกดาวน์ สั่งเตรียมตั้ง รพ.สนามในกรุงเทพฯ "ศักดิ์สยาม" ไม่รอดติดโควิดพร้อมลูกน้องอีก 3 ราย "มาดามเดียร์" จี้เปิดไทม์ไลน์

    ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 7 เม.ย. พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวันว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 334 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 327 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 174 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 153 ราย นอกจากนี้เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 7 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 29,905 ราย หายป่วยสะสม 28,096 ราย อยู่ระหว่างรักษา 1,741 ราย ซึ่งตัวเลขดังกล่าวยังไม่นับรวมกรณีของนายอภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข หรือแสตมป์ ศิลปิน และบุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลราชวิถี
     พญ.อภิสมัยกล่าวว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อวันนี้เป็นในส่วน กทม. 216 ราย ในจำนวนนี้มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 83 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 133 ราย นอกจากนี้ยังมีการสรุปผู้ติดเชื้อที่เชื่อมโยงกับคลัสเตอร์สถานบันเทิง กทม.และปริมณฑล ตั้งแต่วันที่ 22 มี.ค.-6 เม.ย. รวมทั้งสิ้น 291 ราย แบ่งเป็น กทม. 200 ราย, ชลบุรี 23 ราย, สมุทรปราการ 18 ราย, สุพรรณบุรี 14 ราย, นนทบุรี 13 ราย, นครปฐม 7 ราย, ปทุมธานี 5 ราย, เชียงใหม่ ชุมพร สมุทรสาคร จังหวัดละ 2 ราย, เลย กาญจนบุรี ตาก ลพบุรี สระแก้ว จังหวัดละ 1 ราย ยังไม่รวมกับผู้ติดเชื้อในจังหวัดยโสธร,เพชรบูรณ์, เชียงราย ที่เพิ่งมีการรายงานเข้ามาว่าเชื่อมโยงกับคลัสเตอร์สถานบันเทิง กทม.    
    "รอง ผบช.น.ได้หารือร่วมกับ กทม.ในการออกคำสั่งปิดสถานบันเทิงใน 3 เขต ได้แก่ วัฒนา, คลองเตย และบางแค ระหว่างวันที่ 6-19 เม.ย. รวมทั้งได้มีการทบทวนเพิ่มความเข้มข้นมาตรการในการกำกับดูแล และเพิ่มความถี่ในการตรวจสถานบันเทิง" พญ.อภิสมัยกล่าว
    รองโฆษก ศบค.กล่าวว่า สืบเนื่องจากข้อเสนอจากที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข (อีโอซี) เมื่อวันที่ 5 เม.ย. ที่หารือถึงการทบทวนปรับระดับพื้นที่ กำหนดพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร โดยเสนอให้ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กพิจารณา ซึ่งที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กเห็นว่า ตามมาตรการเดิมได้ให้อำนาจ สธ.และมหาดไทยในการหาข้อสรุปที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมการแพร่ระบาด ดังนั้นจะยังไม่มีการปรับพื้นที่หรือปรับสี ขอให้ทั้งสองกระทรวงหารือในรายละเอียดกันก่อน ซึ่งจะมีการหารือกันใน 1-2 วันนี้
    "ตามประกาศ ศบค.ฉบับที่ 18 และ 15 ซึ่งออกตามมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ได้ระบุชัดเจนว่า ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าตรวจสอบสถานที่ให้เป็นไปตามแนวทางป้องกันโรค ให้คำแนะนำ ตักเตือน ห้ามปราม กำหนดช่วงเวลาให้มีการแก้ไขปรับปรุงเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด และมีอำนาจเสนอให้สั่งปิดชั่วคราว นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าฯ กทม.สามารถพิจารณาปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ย่อยในเขตพื้นที่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดในห้วงต่างๆ ได้ และเมื่อในแต่ละพื้นที่มีความเห็นอย่างไร สามารถดำเนินการได้ ส่วนการใช้ยาแรงปิดประเทศไม่ถือว่ามีประสิทธิภาพ เพราะพื้นที่จะเข้าใจปัญหาของตัวเองและสามารถกำหนดมาตรการได้ดีที่สุด" รองโฆษก ศบค.กล่าว
    มีรายงานว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหาร สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (ศปก.ศบค.) ได้มอบหมายให้ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) แถลงข่าวในเวลา 11.30 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ในวันพฤหัสบดีที่ 8 เม.ย.นี้ ทั้งที่เดิม ศบค.มีกำหนดแถลงข่าวตามปกติในวันศุกร์ที่ 9 เม.ย.
โควิดพันธุ์อังกฤษ
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปรับให้ นพ.ทวีศิลป์มาแถลงข่าว คาดว่ามาจากกรณีที่ ศบค.ชุดเล็กหารือและเตรียมออกมาตรการให้มีการปรับพื้นที่โซนสีให้สอดคล้องเหมาะสมต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่มีตัวเลขสูงขึ้นมากในขณะนี้ เพื่อปรับมาตรการให้สอดคล้องกับพื้นที่ ที่ดูแนวโน้มการแบ่งโซนพื้นที่สีอาจมีมากขึ้นกว่าเดิม และอาจมีมาตรการให้เดินทางข้ามจังหวัดยากขึ้น
    ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และ นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมแถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19
    นพ.โอภาสกล่าวว่า การระบาดรอบนี้เชื้อได้กระจายไปในหลายพื้นที่ทั่วประเทศไทย เหมือนสะเก็ดไฟ จึงขอเสนอแบบจำลองโมเดลลิงในช่วงสงกรานต์ ซึ่งเป็นการศึกษาจากปีที่แล้ว เพราะการระบาดคล้ายกับครั้งนี้มาก คือเริ่มตั้งแต่เดือน มี.ค.ก่อนเม.ย. พบผู้ป่วยมากขึ้น เราคาดการณ์ว่าทุกคนจะมีกิจกรรม รวมถึงการเดินทางที่มากขึ้น ดังนั้นจากสมมติฐานช่วงเทศกาลสงกรานต์ จะมีการพบปะผู้คนเพิ่มมากกว่าภาวะปกติ 2, 4, 6, 8 เท่า และกรณีที่เป็นการระบาดของเชื้อกลายพันธุ์ การแพร่เชื้อจะเร็วขึ้นกว่าปกติ 1.7 เท่า ซึ่งอาจพบผู้ติดเชื้อได้วันละ 1,000 คน และหากไม่มีการควบคุม หยุดยั้ง หรือพยายามทำให้กิจกรรมต่างๆ ลดลง แต่ละวันอาจพบผู้ป่วยวันละหลายพันคนหรือหลายหมื่นคนได้ หากการเดินทางข้ามจังหวัดมากขึ้น อาจส่งผลให้มีผู้แพร่เชื้อโควิดเพิ่ม 1.3-100 เท่า
    ศ.นพ.ยงกล่าวว่า สาเหตุการติดเชื้อที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็วจากสถานบันเทิงขณะนี้เป็นการติดเชื้อสายพันธุ์อังกฤษ ซึ่งเร็วกว่าสายพันธุ์เดิมถึง 1.7 เท่า ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อในปีนี้มากกว่าปีที่แล้วถึง 10 เท่า ประกอบกับเชื้อเป็นสายพันธุ์อังกฤษด้วย ทำให้การแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นเป็น 170 เท่า ซึ่งการตรวจหาเชื้อด้วยวิธีการสวอป (SWAB) จากผู้ป่วย 24 คน จากสถานบันเทิงย่านทองหล่อ เป็นสายพันธุ์อังกฤษทั้งหมด และพบปริมาณไวรัสในลำคอเป็นจำนวนมาก
    "แม้ผู้ป่วยจะไม่มีอาการก็ตาม แต่ปริมาณไวรัสก็มีมาก ทำให้การติดเชื้อแพร่ได้เร็วมากขึ้น ในส่วนตัวแล้วยอมรับว่าเป็นห่วงการเดินทางช่วงสงกรานต์ที่คนหนุ่มสาวนำเชื้อไปติดผู้สูงอายุ ที่มีโอกาสป่วยและเสียชีวิตได้ง่ายตามวัย ขณะเดียวกันสถานบันเทิงเป็นสถานที่อับ ถึงแม้จะไม่มีการสัมผัสกัน แต่การร้องเพลง การเล่นดนตรี หรือการพูดเสียงดัง เชื้อก็กระจายในอากาศ สามารถติดเชื้อได้" ศ.นพ.ยงกล่าว
    ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 06.50 น. น.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำด้านประสานกิจการภายในประเทศ และผู้อำนวยการสำนักโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แจ้งผ่านไลน์กลุ่มผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาล ถึงรัฐมนตรีที่ลาประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ โดยแจ้งว่าเป็นข้อมูลที่ได้รับทราบเมื่อเที่ยงคืนที่ผ่านมา แบ่งเป็นรัฐมนตรีที่ลาการประชุม เนื่องจากอยู่ใกล้ชิดกับบุคคลที่มีความเสี่ยง ประกอบด้วย 1.นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี 2.นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา 3.นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม 4.นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ 5.น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ 6.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ 7.น.ส.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ 8.น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ซึ่งรัฐมนตรีที่ลาการประชุมบางส่วนจะวิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากที่บ้าน 9.ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ และ 10.นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน ลาการประชุมเนื่องจากติดภารกิจตรวจราชการที่ จ.กระบี่
'ศักดิ์สยาม'ติดไวรัส
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของรัฐมนตรีที่ไม่ได้เดินทางมาร่วมประชุมที่ทำเนียบฯ แต่จะประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ อาทิ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข, นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การต่างประเทศ และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ทำให้วันนี้มีรัฐมนตรีที่เข้าประชุมที่ทำเนียบฯ ประกอบด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม,  พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี, นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน, นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน, นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดีอีเอส และนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
    นอกจากนี้ ก่อนการประชุม ครม.ที่ห้องเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า เจ้าหน้าที่จากสถาบันบำราศนราดูรได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ซิโนแวคให้กับรัฐมนตรี อาทิ นายชัยวุฒิ ได้รับการฉีดเข็มแรก, นายสุชาติ ได้รับการฉีดเป็นเข็มที่สอง รวมถึงนายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นต้น ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์จะยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มที่สอง เนื่องจากนายกฯ ได้รับวัคซีนของแอสตราเซเนกา ซึ่งเข็มที่สองจะต้องใช้ระยะเวลาห่างกัน 10-12 สัปดาห์ โดยนายกฯ จะเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่สองอีกครั้งตามใบนัดแพทย์
    ส่วนนายวิษณุที่ลาประชุม ครม.และกักตัว 14 วัน ได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เพื่อฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาเข็มแรกแล้ว รวมถึงนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ฉีดวัคซีนเป็นเข็มที่สองที่โรงพยาบาลบำราศนราดูร
    พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุม ครม.ถึงความกังวลจากสถานการณ์โควิดหลังรัฐมนตรีหลายคนต้องกักตัวว่า ก็กังวล ซึ่งวันนี้การประชุม ครม.ก็เปลี่ยนเป็นระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ในส่วนของตนก็ตรวจแบบสวอปไปแล้ว ยังไม่พบอะไร ก็ยังโอเคอยู่
    จากนั้นในการประชุม ครม.ได้มีการหารือถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19? โดย พล.อ.ณัฐพล? เลขาฯ สมช. ในฐานะผอ.ศปก.ศบค.? ได้รายงานว่า ขณะนี้สถานการณ์ยังทรงๆ อยู่ คงยังไม่มีมาตรการอะไรออกมาเพิ่มเติม แต่ขอประเมินสถานการณ์อีก 2-3 วันข้างหน้าก่อน ส่วน? พล.อ.ประยุทธ์ได้กำชับ ครม.ตอนหนึ่ง ว่าให้รักษาเนื้อรักษาตัวให้ดี อย่าให้ไปติดโควิด-19 มาอีก
    ทั้งนี้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวยอมรับว่า ในวันนี้เริ่มมีอาการไข้สูงถึง 38 องศาเซลเซียส แพทย์จึงแนะนำให้เดินทางเข้ามารับการรักษาและเฝ้าสังเกตอาการที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ โดยตนได้แอดมิตที่โรงพยาบาลเมื่อช่วงเช้า และได้เจาะเลือดไปตรวจอีกครั้ง ผลออกมาเป็นบวก ดังนั้นจะเข้ารับการรักษาตามขั้นตอนต่อไป
    นายอนุทินกล่าวว่า ตามกำหนดเดิมนายศักดิ์สยามมีกำหนดรับวัคซีนเข็มที่ 2 ในวันนี้ ก็ต้องงดไปก่อน ส่วนตนเองผลจากการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา มีผลเป็นลบ พร้อมเจาะเลือดเพื่อตรวจหาระดับภูมิคุ้มกันโรคหลังการรับวัคซีนซิโนแวคเข็มที่ 2 ครบ 14 วัน ซึ่งร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่อโรคในระดับสูง
    "วันนี้ได้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ซ้ำเป็นครั้งที่ 2 มีผลเป็นลบเช่นเดิม และเตรียมเข้ารับการตรวจหาภูมิคุ้มกันต่อโรคอีกครั้งในวันที่ 8 เม.ย. ส่วนที่ผมใกล้ชิดกับนายศักดิ์สยามในงานเลี้ยงทำบุญพรรคภูมิใจไทย รวมถึงการพบปะเจอกันในโอกาสต่างๆ ก่อนหน้านั้น ผมและนายศักดิ์สยามสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา พูดคุยกันไม่เกิน 5 นาที รวมถึงได้รับวัคซีนป้องกันครบ 2 เข็มแล้ว ซึ่งประสิทธิภาพของวัคซีนสามารถลดโอกาสเสี่ยงในการรับเชื้อได้ในระดับหนึ่ง" นายอนุทินกล่าว
    นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ที่ปรึกษาและผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สำหรับคนที่ได้รับวัคซีนเข็มแรกแล้วเกิดติดเชื้อ ก็หมายความว่าวัคซีนยังไม่ได้ตอบสนองหรือแสดงประสิทธิภาพทันที ส่วนใหญ่วัคซีนจะเริ่มตอบสนอง 14 วันขึ้นไป บางชนิดของวัคซีนก็ต้องรับครบถึง 2 เข็ม อย่างวัคซีนซิโนแวค จึงเป็นเหตุให้ต้องยังสวมหน้ากากอนามัย มีระยะห่าง ล้างมือ และลดปัจจัยเสี่ยง คนได้รับวัคซีนเข็มแรกยังต้องระวังตัว สำหรับคนที่ติดเชื้อจากการรับวัคซีนแค่เพียง 1 เข็ม ยังต้องรอให้พ้น 3 เดือนก่อน จึงจะกลับมารับเข็ม 2 ต่อได้
เดียร์ทวงไทม์ไลน์ รมต.
    ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์แถลงหลังประชุม ครม.ว่า ขณะนี้รัฐบาลห่วงใยและจำเป็นต้องหามาตรการเหมาะสมที่เป็นมาตรการในการดำเนินการ เราต้องบริหารในหลายเรื่องด้วยกัน ทั้งโควิด เศรษฐกิจ การบริหารความรู้สึกประชาชน ซึ่งตนไม่สบายใจหลายเรื่องขณะนี้ด้วยกัน แต่อย่าท้อแท้ ต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน และสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน ไม่ว่าการแพร่ระบาดจะระดับใดก็ตาม หรือโควิด-19 จะกลายพันธุ์หรือไม่กลายพันธุ์ เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องมาตรการด้านสาธารณสุข ซึ่งคณะแพทย์ได้หารือกันขณะนี้
    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ต้องเร่งรัดฉีดวัคซีนให้มากยิ่งขึ้น สอดคล้องกับวัคซีนที่กำลังทยอยเข้ามาในประเทศเวลานี้ และขอความร่วมมือจากทุกคนให้ความร่วมมือกับภาครัฐ และทุกคนต้องมีมาตรการของตัวเอง ใส่หน้ากากอนามัย รักษาระยะห่าง ไม่เข้าไปอยู่สถานที่เสี่ยง สถานที่ท่องเที่ยว สถานบันเทิง ซึ่งรัฐบาลจำเป็นจะต้องปิดสถานบริการบางแห่ง บางพื้นที่หากมีการตรวจสอบพบว่าจัดทำมาตรการควบคุมโควิดไม่พร้อมก็จะสั่งปิดโดยทันที
    "ผมไม่อยากสั่งปิดทั่วประเทศ เพราะผมเข้าใจ แต่ทุกคนจะต้องเรียนรู้ดูแลตัวเองและครอบครัวอย่างไร ความสนุกสนาน ความบันเทิง ขอทุกคนระงับยับยั้งและชั่งใจด้วย เพราะผลมันกระทบต่อครอบครัวตัวเองและสังคม ทั้งนี้ ไม่ว่าเป็นใครก็ตาม ผมก็ห่วงใยทั้งสิ้น” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
    นายกฯ กล่าวว่า ได้สั่งการกระทรวงสาธารณสุขให้มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด การรักษา ยืนยันทุกอย่างในขณะนี้เรายังรับได้อยู่ ขณะเดียวกันได้สั่งการให้เตรียมการโรงพยาบาลสนามในพื้นที่กรุงเทพฯ โดย กทม.ร่วมกับกระทรวงมหาดไทยจัดเตรียมพื้นที่สำหรับทำโรงพยาบาลสนามในกรณีสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดจำนวนมาก ให้พร้อมตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป หากไม่เพียงพอให้กระทรวงกลาโหมจัดหาพื้นที่เพิ่มเติม
    มีรายงานว่า พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ติดเชื้อโควิด-19 จากการไปร่วมเล่นกีฬาฟุตบอลกับเพื่อน ซึ่งต่อมาได้รับแจ้งว่ามีหนึ่งในนั้นติดเชื้อดังกล่าว โดยตอนนี้กำลังเข้ารับรักษาตัวที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
    ที่ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข จ.บุรีรัมย์ นายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ พร้อมด้วย นพ.วิทิต สฤษฎีชัยกุล นายแพทย์สาธารณสุข จ.บุรีรัมย์, นพ.ยุทธนา สุริยะ นายแพทย์เชี่ยวชาญ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) และ นพ.ภูวดล กิตติวัฒนาสาร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบุรีรัมย์ ร่วมกันแถลงข่าวสถานการณ์โควิด จ.บุรีรัมย์ ว่าพบผู้ป่วยรายใหม่จำนวน 4 ราย ซึ่ง 1 ใน 4 คือนายศักดิ์สยาม นอกจากนี้ ล่าสุดยังพบผู้ใกล้ชิดนายศักดิ์สยามอีก 3 รายคือ เลขาฯ, ผู้ติดตาม และตำรวจ ติดเชื้อโควิด รวมทั้งผู้ติดเชื้อโควิดทั้งสิ้น 7 ราย มีการกักตัวและตรวจหาเชื้อผู้ที่มีความเสี่ยงสูงกว่า 10 ราย ซึ่งมีความใกล้ชิดกับนายศักดิ์สยาม ช่วงที่เดินทางมา จ.บุรีรัมย์
    นพ.วิทิตกล่าวว่า จากการสอบสวนโรค นายศักดิ์สยามเดินทางไปปฏิบัติงานที่จังหวัดบุรีรัมย์ช่วงบ่ายของวันที่ 6 เม.ย. ยังไม่ได้เดินทางไปร่วมงานที่ไหน มีไข้ และท้องเสีย เข้ารับการตรวจในครั้งแรกผลเป็นลบ ในระหว่างนั้นได้ทราบว่าทีมงานเลขานุการได้ไปพื้นที่เสี่ยง ได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโควิด-19 เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ จึงมีการตรวจซ้ำอีกครั้ง พบผลเป็นบวก และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์อยู่ในขณะนี้ อาการไม่รุนแรง
    "จากการสอบสวนทางระบาดวิทยา ทราบว่าก่อนหน้านี้ 1 อาทิตย์ท่านได้ปฏิบัติงานที่กระทรวงโดยตลอด ความเสี่ยงก็คือทีมเลขานุการหน้าห้องได้ไปสถานที่ที่มีการระบาดของเชื้อโควิด-19 และปฏิบัติงาน ท่านทานข้าวร่วมกับเพื่อนร่วมงาน และได้มีการตรวจหาเชื้อกับผู้ที่เกี่ยวข้องก็ติดเชื้อโควิด" นายแพทย์สาธารณสุข จ.บุรีรัมย์กล่าว  
    วันเดียวกัน เฟซบุ๊ก เดียร์ วทันยา วงษ์โอภาสี ของ น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ในฐานะผู้แทนประชาชน และเป็นหนึ่งในทีมผู้บริหารประเทศ การแสดงตนเป็นตัวอย่างโดยการเปิดเผยไทม์ไลน์อย่างละเอียดถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งในการปฏิบัติตามกฎหมาย และจิตสำนึกต่อสังคม
    ต่อมานายศุภชัย ใจสมุทร  ส.ส.บัญชีรายชื่อและนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย ชี้แจงการเรียกร้องให้เปิดไทม์ไลน์ของนายศักดิ์สยามว่า การเปิดไทม์ไลน์เป็นเรื่องระหว่างคนไข้กับแพทย์ เพื่อประโยชน์ในการสอบสวนโรค เป็นหน้าที่ของแพทย์ เรื่องการสอบสวนโรค ซึ่งกรณีนี้เจ้าตัวบอกแล้วว่าติดมาจากทีมงานหน้าห้อง ซึ่งทางทีมสอบสวนโรคจะไปดำเนินการตามกระบวนการต่อไป การติดโรคไม่ใช่อาชญากรรม
    "ความพยายามขยายผล ให้ความจริงเพียงครึ่งเดียว หรือนำภาพภาพเดียวมาใช้ทำลายกันแบบนี้ สังคมรู้ว่าเขาทำเพราะเรื่องอะไร มีอะไรขัดแย้งทางการเมืองซ่อนอยู่หรือไม่" นายศุภชัยระบุ
    ที่รัฐสภา นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า กมธ.เตรียมเชิญผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ตำรวจ เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตฯ ผู้ประกอบการ และรัฐมนตรีที่ปรากฏตามข่าวมาชี้แจงต่อ กมธ. เนื่องจากหลายประเด็นที่สังคมสงสัย เช่น สถานบันเทิงดังกล่าวเปิดเกินเวลาหรือไม่ ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการสถานบันเทิงประเภทใด หรือมีใบอนุญาตประกอบกิจการหรือไม่ รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ เหตุใดจึงมีการปล่อยปละละเลยให้เปิดเกินเวลา เป็นต้น
    “รัฐมนตรีที่เป็นข่าวต้องตอบสังคมว่าท่านไปเที่ยวผับเที่ยวเลานจ์จริงหรือไม่ และท่านไปไหนมาบ้าง ท่านต้องชี้แจงไทม์ไลน์ เพราะหากไม่ชี้แจง จะถือว่าผิดกฎหมาย เนื่องจากกฎหมายบังคับใช้กับประชาชนทั่วไป ดังนั้นคนที่มีชื่อเสียงยิ่งต้องชี้แจงยิ่งกว่าคนธรรมดา” นายสิระกล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"