อดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ของมาเลเซีย โดนสรรพากรส่งหนังสือแจ้งเตือนการล้มละลายจากการค้างจ่ายภาษีมากกว่า 12,800 ล้านบาทตามคำสั่งศาลเมื่อปีที่แล้ว เจ้าตัวโวยเป็นความพยายามทำลายอาชีพนักการเมืองของเขา
อดีตนายกฯ นาจิบ ราซัค มาขึ้นศาลอุทธรณ์ในกรุงปุตราจายา เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2564 (Photo by Zahim Mohd/NurPhoto via Getty Images)
รายงานรอยเตอร์และเอเอฟพีเมื่อวันพุธที่ 7 เมษายน กล่าวว่า อดีตผู้นำมาเลเซียวัย 67 ปีสูญเสียอำนาจภายหลังพรรคองค์การสหมาเลย์แห่งชาติ (อัมโน) ของเขาพ่ายแพ้การเลือกตั้งเมื่อปี 2561 ยุติการเป็นพรรคแกนนำรัฐบาลผสมที่ครองอำนาจบริหารประเทศนี้มานาน 6 ทศวรรษ หลังจากนั้น นาจิบก็ถูกตั้งข้อหาดำเนินคดีคอร์รัปชันและฟอกเงินหลายสิบคดี ที่เกี่ยวเนื่องกับข้อกล่าวหาทุจริตยักยอกเงินหลายพันล้านดอลลาร์จากกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ วันมาเลเซียดีเวลอปเมนต์เบอร์ฮัด (วันเอ็มดีบี) ที่เขาเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง นาจิบปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เขาเพิ่งให้ทนายยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาต่อศาลอุทธรณ์ ในคดีที่เขาถูกตัดสินเมื่อปีที่แล้วว่ามีความผิดฐานใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ, ฟอกเงิน และความผิดอาญาฐานละเมิดหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย จากการโอนเงิน 42 ล้านริงกิต (318.42 ล้านบาท) จากอดีตบริษัทย่อยแห่งหนึ่งของวันเอ็มดีบี เข้าบัญชีธนาคารส่วนตัวของเขาหลายบัญชี ศาลพิพากษาจำคุกเขา 12 ปี และปรับเกือบ 50 ล้านดอลลาร์ (1,566 ล้านบาท)
นอกจากนี้ยังมีอีกคดีในปีที่แล้ว ที่ศาลสั่งให้นาจิบ ซึ่งได้รับอนุญาตให้ประกันตัวและยังคงทำหน้าที่ ส.ส.อยู่ต่อไป จ่ายเงินภาษีจำนวน 1,690 ล้านริงกิต (12,813 ล้านบาท) ที่เขาค้างจ่ายจากช่วงที่ยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีระหว่างปี 2554-2560 ซึ่งรวมถึงค่าปรับและดอกเบี้ย
เมื่อคืนวันอังคาร นาจิบโพสต์เฟซบุ๊กว่า เจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการจัดเก็บภาษีได้มีหนังสือบอกกล่าวการล้มละลายส่งถึงเขาเมื่อวันจันทร์ เพื่อแจ้งเกี่ยวกับภาษีที่ค้างจ่าย หนังสือส่งมาถึงไม่นานหลังจากเขายื่นอุทธรณ์คำพิพากษาคดีข้างต้น
อดีตนายกฯ ผู้นี้กล่าวว่า เขาเชื่อว่าจังหวะเวลาของการส่งหนังสือเตือนนั้นเกี่ยวโยงกับการตัดสินใจของพรรคอัมโนเมื่อเดือนที่แล้ว ที่จะยุติความร่วมมือกับรัฐบาลของนายกฯ มูห์ยิดดิน ยัสซิน ในการเลือกตั้งครั้งหน้า
หากเขาถูกตัดสินว่าล้มละลาย เขาจะสูญเสียเก้าอี้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและจะไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้
นาจิบยืนกรานว่าเขาจ่ายภาษีมาโดยตลอด และการดำเนินคดีกับเขานั้นมีแรงจูงใจทางการเมือง "ผมจะยังคงยืนหยัดต่อสู้กับความพยายามรังแกและข่มขู่ผมทุกอย่างโดยพวกที่มีอำนาจ" เขาเขียนลงเฟซบุ๊ก และว่าไ ด้ขอให้ทนายความยื่นต่อศาลขอระงับหนังสือบอกกล่าวล้มละลายฉบับนี้ โดยบอกว่าจะไม่ยอมอ่อนข้อให้พวกที่ใช้กฎหมายในทางที่ผิด เพื่อกดขี่เขาด้วยเหตุผลทางการเมืองและความละโมบอำนาจ
พรรคอัมโนได้กลับมามีอำนาจอย่างไม่คาดคิดในปีที่แล้วในฐานะกลุ่มพันธมิตรที่เสนอชื่อมูห์ยิดดินเป็นนายกรัฐมนตรีแทนที่มหาเธร์ โมฮัมหมัด จากการชิงอำนาจทางการเมืองภายในรัฐบาลผสมกับอันวาร์ อิบราฮิม หลังจากมหาเธร์ลาออกจากตำแหน่ง
แม้จะเผชิญข้อกล่าวหาทุจริตมากมายและไม่ได้เป็นผู้นำพรรคอัมโนอีกต่อไปแล้ว แต่นาจิบยังคงได้รับความนิยมทั้งในพรรคและในการเมืองมาเลเซีย เขามีผู้ติดตามทางเฟซบุ๊กเกิน 4 ล้านคน มากกว่านักการเมืองมาเลเซียทุกคน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |