พระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ)

เวลา 05.30 น.วันที่ 24 พ.ค. พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) สั่งการให้ พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง รองผู้บัญชาการสอบสวนกลาง (รองผบช.ก).พล.ต.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการปราบปราม (ผบก.ป.) นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ลุยค้นจับกุม 3 วัดดังในกรุงเทพฯ  ประกอบด้วย วัดสระเกศราชวรวิหาร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย วัดสัมพัธวงศารามวรวิหาร เขตสัมพันธวงศ์ และวัดสามพระยาวรวิหาร พัวพันเกี่ยวกับเรื่องเงินทอนวัด 
    
โดยการตรวจค้นวัดสระเกศฯ นำโดย พล.ต.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการปราบปราม (ผบก.ป ) พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผู้กำกับกองกำกับการ 1  กองบังคับการปราบปราม (ผกก.1.บก.ป) นำหมายจับศาลอาญารัชดา เข้าจับกุมพระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ) เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กรรมการ มส. และเจ้าคณะภาค 10 จากการตรวจค้นไม่อยู่ภายในวัด พบพระศรีคุณาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ และพระวิจิตรธรรมาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ กระทำความผิดอาญาคดีทุจริตเงินอุดหนุนการศึกษา โรงเรียนพระปริยัติธรรม ในข้อหาร่วมกันฟอกเงิน และนายทวิช สังข์อยู่ อายุ 42 ปี เจ้าหน้าที่ดูแลภายในวัด ในข้อหาร่วมกันฟอกเงิน อย่าง 

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดย้อนหลังพบว่าวันที่ 23 พ.ค. ที่ผ่านมาเวลาประมาณ 11.00 น.เจ้าอาวาสวัดสระเกศได้มาฉันเพลตามปกติ ก่อนที่ช่วงเย็นๆจะเดินทางออกจากวัดไป
       
จุดที่ 2 วัดสามพระยาวรวิหาร นำโดย พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง รองผู้บัญชาการสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย รองผู้บังคับการปราบปราม (รอง ผบก.ป.) พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผู้กำกับกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม (ผกก.2 ป.) นำกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมกำลังนำหมายจับศาลอาญารัชดา จับกุมพระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดสามพระยา กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) และเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร และพระอรรถกิจโสภณ เลขาเจ้าคณะกรุงเทพ ในข้อหา ร่วมกันฟอกเงิน พร้อมตรวจค้นหาเอกสารและหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดี 
       
จุดที่ 3 วัดสัมพันธวงศาราม วรวิหาร พ.ต.อ.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ รองผู้บังคับการปราบปราม (รอง ผบก.ป) พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผู้กำกับกองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม (ผกก.3.บก.ป.) นำหมายจับศาลอาญารัชดา เข้าตรวจค้นหาตัวพระพรหมเมธี (จำนงค์ ธมฺมจารี) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม กรรมการ มส. และเจ้าคณะภาค 4-7 ในข้อหาร่วมกันฟอกเงิน แต่ไม่พบตัว จึงได้ตรวจค้นหาเอกสารหลักฐานต่างๆ เกี่ยวกับการฟอกเงินเพื่อดำเนินคดีต่อไป 

ในการเข้าตรวจค้นทั้ง 3 วัด สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปราม ได้นำหมายค้นเข้าตรวจสอบที่บ้าน ร.ท.ฐิติทัศน์ นิพนธ์พิทยา นายทหารสังกัดศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) หลังพบเส้นทางการเงิน เจ้าอาวาสวัดสระเกศฯได้โอนเงินจำนวน 25 ล้านบาท เข้าบัญชี น.ส.นุชรา สิทธินอก แม่บ้านที่บ้าน ร.ท.ฐิติทัศน์ นอกจากนั้นยังพบปืนหลายชนิดกว่า 23 กระบอก จึงควบคุมตัวมาสอบสวนหาความเชื่อมโยง กระทั่งนำไปสู่การออกหมายศาลเข้าตรวจค้นครังนี้

นอกจากนี้ ยังมีวัดอ้อย จ.นครปฐม พล.ต.ต.อภิชาติ สิริสิทธิ์ รองผู้บัญชาการสอบสวนกลาง (รองผบช.ก.) พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้กำกับ กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม (ผกก.5.บก.ป.) นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจคอมานโด อาวุธครบมือ นำหมายจับศาลอาญารัชดา จับกุมพระสุวิทย์ ธีรธมฺโม หรือพระพุทธอิสระ ในข้อหาสนับสนุนให้มีการปล้นรัพย์ กรรโชกทรรัพย์ อั้งยี่ ทำร้ายร่างกาย กักขังหน่วงเหนี่ยว

ในการเข้าควบคุมตัวพระพุทธอิสระ ครั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ใช้ฆ้อนปอนด์ขนาดใหญ่พังประตูเข้าไป ในขณะที่พระพุทธอิสระ กำลังนอนอยู่จึงได้แสดงหมายศาลก่อนนำตัวมาสอบสวนที่กองปราบปราม

ต่อมาเวลา 10.30 น. ที่กองบังคับการปราบปราม. (บก.ป.) พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการสอบสวนกลาง(ผบช.ก.) ได้เดินทางมาติดตาม การสอบสวนพระสงฆ์รวมทั้งฆราวาสที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินทอนวัดพร้อมเปิดเผยว่า ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงาน เพราะยังมีเป้าหมายอีกหลายจุดที่ยังไม่บรรลุเป้าหมายที่อยู่ระหว่างการติดตามตัวผู้ที่เกี่ยวข้อง จากนี้เป็นขั้นตอนของการสอบสวนใครผิดก็ว่าไปตามผิดทั้งหมดขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน ตำรวจจะทำให้ดีที่สุดเข้าใจความรู้สึกของผู้ที่เป็นลูกศิษย์ลูกหาแต่ต้องขอให้แยกแยะระหว่างสถาบัน ศาสนากับบุคคล ตำรวจทำงานด้วยความรอบคอบละเอียด ถูกคือถูกผิดคือผิด คนทำงานไม่ดีก็จะเป็นบาปเอง เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน