ผบ.ทบ.แจงเหตุ "สตง." พบพิรุธโครงการพัฒนาแอปฯ กองทัพ ยันเคลียร์เรียบร้อยแล้ว ชี้หากจัดซื้อไม่โปร่งใสพร้อมให้ดำเนินการ ภาคประชาชนยื่นหลักฐานเพิ่มปมนาฬิกาหรู "บิ๊กป้อม" เพจดังแฉเรือนที่ 20 รวมทุกเรือนทะลุ 32 ล้านแล้ว

    ที่กองบัญชาการกองทัพบก เมื่อวันที่ 12 มกราคม พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างในหน่วยงานวิจัยหน่วยหนึ่งของกองทัพบก ที่พบความไม่ชอบมาพากล โดยเฉพาะโครงการพัฒนาแอปพลิเคชันระบบจัดการความรู้เฉลิมพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 9 ว่า โครงการนี้สำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหารกองทัพบก (สวพ.ทบ.) รับดำเนินการจากกรมวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี กระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นโครงการวิจัยเฉลิมพระเกียรติฯ วงเงิน 2.6 ล้านบาท ดำเนินการระยะเวลา 3 ปี 2559-2561 และในวันที่ 7 ธ.ค.2560 ทาง สตง.ได้เข้ามาตรวจสอบ โดยที่ไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า จากนั้นได้บันทึกข้อสังเกต 3 ประเด็น 1.ครุภัณฑ์จำนวนหนึ่ง ที่มีวงเงินประมาณ 2 แสนบาท แต่ไม่สามารถตรวจสอบได้ 2.การทำบัญชีการเบิกครุภัณฑ์ดังกล่าว ไม่มีบัญชีให้ตรวจสอบ และ 3.สตง.สงสัยการจัดซื้อจัดจ้าง
    พล.อ.เฉลิมชัยกล่าวว่า ตรวจสอบทราบว่านายทหารสังกัด สวพ.ทบ.ที่มีหน้าที่ดูแลการวิจัยทำหน้าที่ดูแลโครงการดังกล่าวเดินทางไปต่างประเทศในช่วงเวลาที่ สตง.มาตรวจสอบ จากนั้นได้ตรวจสอบการลา พบว่าลาถูกต้องตั้งแต่ปลายเดือน พ.ย. และกลับมาทำงานช่วงเดือน ธ.ค.2560 ดังนั้นครุภัณฑ์ที่นายทหารคนดังกล่าวรับผิดชอบ ที่มีคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง,  โทรศัพท์ 3 เครื่อง, เครื่องปรินเตอร์ และองค์ประกอบที่ใช้ทำงานวิจัย ซึ่งนายทหารคนดังกล่าวไม่ทราบว่าจะมีการตรวจสอบ จึงนำอุปกรณ์เหล่านั้นเก็บไว้ที่บ้าน จึงไม่สามารถให้ สตง.ตรวจสอบได้ แต่หลังจากที่กลับมา ทางสตง.ได้เดินทางมาตรวจสอบอีกครั้งเมื่อ 25 ธ.ค.2560 และนำเอาอุปกรณ์เหล่านั้นมาชี้แจง อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเข้าใจตรงกัน และไม่เป็นประเด็นแล้ว
          “ของเหล่านี้ หลังจากเสร็จโครงการก็ต้องส่งคืนให้กรมวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี กระทรวงกลาโหม เรียบร้อยแล้ว ซึ่งของทุกอย่างอยู่ครบ รวมถึงทาง สวพ.ทบ.ไม่ได้มีคลังเก็บครุภัณฑ์ ดังนั้นเมื่อไม่มีคลังก็ไม่ได้เบิกจ่าย ใครรับผิดชอบก็รับผิดชอบไป เพียงแต่มีการทำบัญชีเพื่อควบคุมไว้ ตอนนี้ตรวจสอบทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ส่วนการจัดซื้อจัดจ้างของดังกล่าวในวงเงิน 2 แสนบาท มีความโปร่งใสถูกต้องหรือไม่ ก็กำลังดำเนินการตรวจสอบอยู่” ผบ.ทบ.ระบุ
    อย่างไรก็ตาม โครงการนี้เป็นการทำวิจัยร่วมกัน ไม่ได้ขัดกฎของกองทัพบก ดังนั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องภายใน มีการทำบันทึกไว้ที่หน่วย แล้วตนมาตรวจสอบ ทราบว่า สตง.จะทำเรื่องมาที่ตน แต่ในขั้นตอนการชี้แจงได้ชี้แจงไปเรียบร้อยแล้ว หากมีข้อสังเกตใดๆ เพิ่มเติม หรือมีความผิดปกติ ที่ต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนตนจะดำเนินการ ถ้ามีความผิดก็ต้องลงโทษทางวินัย
    ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายปิยรัฐ จงเทพ นายกสมาคมเพื่อเพื่อน พร้อมตัวแทนภาคประชาชน ได้เดินทางมายื่นเอกสารเกี่ยวกับนาฬิกาของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เพิ่มเติมอีก 9 เรือน หลังจากที่นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน ได้ยื่นหนังสือถึง ป.ป.ช. เพื่อขอให้ไต่สวน พล.อ.ประวิตร กรณีจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ พร้อมหลักฐานเอกสารเกี่ยวกับนาฬิกาข้อมือราคาแพง 10 เรือน เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.2560 โดยนายปิยรัฐกล่าวว่า เอกสารที่ยื่นให้กับป.ป.ช.ของกลุ่มตนกับที่นายวีระยื่นไปแล้ว รวมเป็น 19 เรือน มูลค่ากว่า 29.66 ล้านบาท ซึ่งคิดว่า ป.ป.ช.จะได้ข้อมูลอย่างครบถ้วนเท่าที่ประชาชนจะสามารถทำได้ ต่อจากนี้เป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช. ที่จะดำเนินการสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป
     วันเดียวกัน เพจ CSI LA ได้เผยภาพ พล.อ.ประวิตร พร้อมนาฬิกาหรูบนข้อมือของ พล.อ.ประวิตร เรือนที่ 20 เป็นนาฬิกา Patek Philippe Classic Chronograph รุ่น 5170R-001 ทำจากทองคำ 18K Rose Gold ราคาตลาดอยู่ที่ 2.6 ล้านบาท โดยระบุว่า  "ภาพนี้ถ่ายวันที่วันที่ 4 ก.ย.2557 ถือเป็นภาพวันประวัติศาสตร์ เพราะเป็นวันที่ พล.อ.ประวิตรเดินทางไปมอบนโยบายในการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ณ สโมสรกองทัพบก นายพลเเต่ละคนที่ พล.อ.ประวิตรเลือกใน ครม.ประยุทธ์ 1 เป็นเครือข่าย “กลุ่มอำนาจใหม่” นำโดย 4 พี่น้องบูรพาพยัคฆ์ทั้งสิ้น ทำไมเรือนนี้พลเอกประวิตรถึงไม่เเจ้งตอนมาเป็นรัฐบาลประยุทธ์ 1?"
    เพจ CSI LA ยังโพสต์ข้อความหัวข้อ “กาลเวลาพิสูจน์ม้า นาฬิกาพิสูจน์คน" ว่า "นาฬิกาหรู 20 กว่าเรือนตอนนี้เกิน 32 ล้านเเล้วครับ Rolex 9 เรือน Patek Philippe 6 เรือน Richard Mille 3 เรือน Audemars Pigue 2 เรือน ผมอยากให้เพื่อนๆ เเละทุกคนช่วยกันตามล่าหานาฬิกาบิ๊กป้อมแบบ Thailand 4.0 เพราะเราพึ่ง ป.ป.ช.ไม่ได้ ผมได้สร้าง App ง่ายๆ ขึ้นมา อยากให้เพื่อนทุกคนช่วยกัน search google image หรือ YouTube แล้วส่งภาพนาฬิกาที่ พล.อ.ประวิตรใส่ในวันต่างๆ มาให้ผมผ่านทางโทรศัพท์มือถือหรือ Tablet ผ่านทาง link นี้
https://csila90210gmailcom.typeform.com/to/KQleQq ข้อมูลของคุณจะถูกเก็บไว้เป็นความลับ"
    ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะ เดินทางยื่นคำร้องขอศาลอาญาออกหมายจับนายเอกชัย หงส์กังวาน นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่ก่อนหน้านี้ไปทำกิจกรรมมอบนาฬิกาให้ พล.อ.ประวิตร ที่ทำเนียบรัฐบาล ต่อมาเวลาประมาณ 17.30 น. พล.ต.อ.ศรีวราห์ได้เดินทางกลับโดยกล่าวสั้นๆ ว่า "ศาลท่านไม่ให้กลับ"
    ทั้งนี้ มีรายงานว่า พล.ต.อ.ศรีวราห์เดินทางมายื่นคำร้องขออนุญาตให้ศาลออกหมายจับนายเอกชัย ในข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ จากการโพสต์เฟซบุ๊กที่มีเนื้อหาเข้าข่ายลามกอนาจาร ซึ่งศาลพิจารณาคำร้องแล้วเห็นควรยกคำร้องขอออกหมายจับ เนื่องจากเห็นว่าควรมีการออกหมายเรียกนายเอกชัยมารับทราบข้อกล่าวหาตามขั้นตอนก่อนที่จะมีการออกหมายจับ.