6 เมษายน 2564  นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.)เปิดเผยว่า ปัจจุบันการก่อสร้างมอเตอร์เวย์สายบางปะอิน-นครราชสีมาสาย6 หรือ M6 มีความคืบหน้าประมาณ 98% ซึ่งทันทีที่ คณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติวงเงินที่เพิ่มขึ้นจากการปรับแบบ จะต้องเร่งจัดทำแผนการก่อสร้างใหม่ คาดว่าบางส่วนอาจต้องใช้งบประมาณของ ทล. มีเหลือ และอาจต้องของบประมาณปี 2566

อย่างไรก็ตามเดิมทีคาดว่าจะได้ข้อสรุปเรื่องการปรับแบบภายในเดือน เม.ย.นี้ แต่เมื่อมีความล่าช้าออกไปอีกประมาณ 2 เดือน ตนก็จะเร่งรัดขั้นตอนการก่อสร้างทั้ง 17 ตอนจากทั้งหมด40 ตอนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อให้สามารถเปิดให้บริการครบตลอดทั้งเส้นได้ภายในปลายปี 65 ตามเป้าหมายที่วางไว้

นายสราวุธ กล่าวถึงความคืบหน้าการลงนามสัญญาการก่อสร้างงานระบบ พร้อมการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) ของโครงการมอเตอร์เวย์บางปะอิน-นครราชสีมา M6 และมอเตอร์เวย์บางใหญ่-กาญจนบุรี M9 ซึ่งกลุ่มกิจการร่วมค้าบีจีเอสอาร์ นำโดยบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ชนะการประมูลด้วยว่า คาดว่าะสามารถลงนาม O&M ของมอเตอร์เวย์บางใหญ่-กาญจนบุรี ได้ปลายเดือน พ.ค.นี้ ส่วนมอเตอร์เวย์บางปะอิน-นครราชสีมา จะลงนามได้ไม่เกินเดือน มิ.ย.นี้

อย่างไรก็ตาม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม มีความเป็นห่วงว่า หากครม.อนุมัติวงเงินเพิ่มในการปรับแบบล่าช้า ในขณะที่ลงนาม O&M มอเตอร์เวย์บางปะอิน-นครราชสีมาไปแล้ว อาจจะถูกเอกชนเรียกค่าเสียหาย และเกิดเป็นค่าโง่ ซึ่งกำชับให้ ทล.พิจารณาให้ดีเพราะไม่อยากให้มีเรื่องค่าโง่เกิดขึ้น

รายงานข่าวจาก ทล. แจ้งว่า หากครม.อนุมัติวงเงินเพิ่มในการปรับแบบล่าช้า ในขณะที่ลงนาม O&M มอเตอร์เวย์บางปะอิน-นครราชสีมากับเอกชนไปแล้ว จะไม่มีความเสี่ยงเรื่องค่าโง่ที่ต้องจ่ายเพิ่มให้ผู้รับจ้างแน่นอน ซึ่งผู้รับจ้างจะสามารถทำได้เพียงขอขยายเวลาการก่อสร้างเพิ่มเติมได้เท่านั้น จะเรียกเป็นเงินค่าเสียหายไม่ได้