ปัดยึดอำนาจจนตายฟันม็อบ2ข้อหา


เพิ่มเพื่อน    

 “ประยุทธ์” รับถึงกับอึ้ง “ผู้นำ-ทูต” ต่างชาติถามทำไมไทยชอบสร้างเรื่องสร้างราว กลัวเงียบเหงาเกินไปหรือ ลั่นไม่ใช่คนใจร้ายใจดำยึดครองอำนาจไปจนตาย  เตือนอย่าชักศึกเข้าบ้าน “บิ๊กปั๊ด” ลั่นตอนนี้ตุ๊ดตู่ผิดแล้ว 2  ข้อหา บช.น.สั่งถอดเทปคำปราศรัย ชี้ชุมนุมแต่ละวันก็เพิ่มความผิดแต่ละกรรมตาม “เสกสกล-อานนท์” เดือดสวนหมัด “ตู่-เต้น” คือผู้มากบารมีชี้นิ้วบีบ “แม้ว-ปู” จตุพรฟุ้งของจริงรอหลังสงกรานต์ พิโธ่! ม็อบสามัคคีสั่งห้ามชู 3 นิ้วทำอาชีวะถอนตัว สุดท้ายต้องรีบขอโทษกลัวคนหาย

    เมื่อวันที่ 5 เม.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่ากระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายสำคัญของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยแก่ผู้ว่าราชการจังหวัด (ผวจ.) และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) ที่ได้รับการเลือกตั้งใหม่ โดยกล่าวช่วงหนึ่งว่า ตนได้เจอเอกอัครราชทูต เจอผู้นำหลายระดับ หลายประเทศ เขารักประเทศไทยทั้งสิ้น  ซึ่งตนเองสงสัยอยู่เหมือนกันว่าทำไมในประเทศไทยมันยุ่งกันนักหนา และต่างประเทศก็สงสัยมาตลอด ซึ่งก็บอกว่าไม่เป็นอะไร ประเทศไทยก็เป็นแบบนี้แหละ
นายกฯ กล่าวพร้อมกับถอนหายใจอีกว่า "ก็เป็นแบบนี้ ว่างๆ ก็ต่อยตีกันสักหน่อย ไม่งั้นมันเงียบเหงาเกินไป  ผมก็ไม่รู้จะตอบเขาว่าอย่างไร เขาเห็นว่าเราสนใจแต่ปัญหาที่มันจุกๆ จิกๆ จนทำให้เราเดินไปไม่ได้ หรือเดินไปได้ช้า ผมไม่โทษใคร จะโทษใครไม่ได้ เราต้องไปด้วยกัน  อย่างดีผมก็โทษตัวเอง"
    ในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่า ไม่ได้ต้องการอะไรเลยสักอย่าง ต้องการให้ประเทศเจริญไปข้างหน้า มันหยุดไม่ได้ อยากให้เข้าใจเท่านั้นเอง เพราะวิกฤติของโลกยังมีอยู่ พยายามประคับประคองตรงนี้ให้ดีที่สุด จะเห็นว่าต่างคนต่างพูด ต่างคนต่างคิด แต่พอมีปัญหาก็ไม่รับผิดชอบซักคน ท่านไม่รู้หรอกว่าอันตรายอะไรเกิดขึ้นบ้าง ต้องระมัดระวัง
“ผมก็ไม่ใช่คนใจร้ายใจดำอยู่แล้ว ผมคงไม่ต้องพูดนะว่าเป็นเรื่องอะไร ขยายให้มันครึกโครมอยู่ได้ แล้วก็ชักศึกเข้าบ้านมาเรื่อยๆ ทำไปก็แล้วกัน ถึงเวลาก็ไม่รู้ไม่รับผิดชอบ เป็นเรื่องของนายกฯ ของรัฐบาล มันถูกหรือเปล่าทำแบบนี้ ผมว่าไม่ถูก” นายกฯ กล่าว
    ต่อมาในช่วงบ่าย พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการบ้านเช่าสำหรับผู้มีรายได้น้อย ”โครงการบ้านเคหะสุขประชา” ฉลองกรุงและร่มเกล้า โดยกล่าวช่วงหนึ่งว่า "สังคมคนไทยมีความรักความสามัคคี เคารพนับถือกัน  ไม่มีใครทำลายตรงนี้ได้ ถ้าทำลายตรงนี้ไป ประเทศไทยหมดสิ้นความเป็นประเทศไทยทันที วันนี้หลายเรื่องวุ่นวายโดยใช่เหตุหรือเกินเหตุไป ในขณะที่บ้านเมืองกำลังมีปัญหาเยอะแยะไปหมด ยืนยันรัฐบาลจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังและไม่ทิ้งงานอะไรเลย ถ้าไม่มีตรงนี้ก็ไปต่อไม่ได้ ไม่ได้ให้ยึดครองอำนาจไปจนตาย จะครองไปทำไม แต่ยืนยันจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุดในรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตยที่เลือกตั้งเข้ามาแบบนี้ เราจะทำเพื่อประชาชนให้มากที่สุด  ต้องเปลี่ยนแปลงประเทศไทยในระยะเวลาอันสั้น ด้วยการลดความขัดแย้ง มีเสถียรภาพ ทำทุกอย่างแบบคิดนอกกรอบ แต่ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย"
บิ๊กตู่วอนสังคมเลิกขัดแย้ง
    “เราคือประเทศไทย เกิดที่นี่ เราต้องไม่ให้ใครมาทำลายประเทศของเรา ไม่ว่าใครก็ตามต้องดูแล ซึ่งเรามีมาตรการทางสังคมอยู่แล้ว อีกทั้งเรามีหลักชัยของประเทศ  ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ดังนั้นทำอย่างไรให้สงบเรียบร้อย ไม่บังคับใคร แต่ทุกคนต้องช่วยกัน” นายกฯ  กล่าว
    นายกฯ กล่าวอีกว่า "วันนี้ขอให้คิดมีเหตุมีผล อย่าเชื่อการบิดเบือน ซึ่งต้องการแก้ปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้นในประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมาให้เร็วที่สุด เราต้องมีความหวัง  ศรัทธา และร่วมมือร่วมแรงร่วมใจ ไม่แบ่งแยก ขัดแย้ง  ความวุ่นวาย สับสนอลหม่าน เป็นต้นตอทำให้เราแก้ปัญหาไม่ได้ ดังนั้นความขัดแย้งต้องไม่เกิดขึ้นอีก ซึ่งทั้งหมดคือประเทศไทย ไม่ว่ารัฐบาล นายกฯ หรือใคร เป็นคนไทยทั้งสิ้น เราคือครอบครัวประเทศ ผมเองเป็นครอบครัวของท่าน  ไม่มีใครทำให้ประเทศไทยได้นอกจากคนไทยด้วยกัน ทุกปัญหาทนรับไว้หมด และจะพยายามแก้ไขให้ได้จนกว่าหมดหน้าที่
ประเทศไทยเดินหน้าโดยใครคนหนึ่งไม่ได้ ขอให้กำลังใจทุกคนและขอให้บ้านนี้จงมีแต่ความสุข วันนี้มีความสุขได้เจอหน้าเห็นรอยยิ้มพวกเรา ไม่เช่นนั้นเห็นแต่โทรทัศน์หน้าตาบึ้งตึงกันเหลือเกิน อยากให้ประเทศไทยเป็นแบบนั้นเหรอ โกรธเกลียดกันตลอดเวลา” นายกฯ ย้ำในช่วงท้าย
    ทั้งนี้ ภายหลังเป็นประธานเปิดโครงการ นายกฯ ได้เยี่ยมชมนิทรรศการ โดยก่อนกลับ พล.อ.ประยุทธ์ได้โบกมือและกล่าวอวยพรประชาชน "ขอให้ทุกคนโชคดีปีใหม่ไทย" พร้อมหันหน้ามาหาสื่อมวลชนและกล่าวว่า "สวัสดีปีใหม่ไทย วันนี้ฉันมีความสุข อย่าทำลายความสุขของฉันในวันนี้ อย่าทำลายขวัญของฉัน เพราะฉันมีความสุขอยู่"
          ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ กล่าวถึงกรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ประกาศจัดชุมนุมต่อเนื่องเพื่อขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ว่า ต้องดูว่าการชุมนุมขัดขวางการจราจรหรือผิดกฎหมายหรือไม่ ส่วนการประกาศจะชุมนุมจนกว่าจะไล่ พล.อ.ประยุทธ์ออกไปได้  ถือเป็นเรื่องที่ใกล้หรือไกลความจริงนั้น จะไปรู้ได้อย่างไร ประชาชนว่าอย่างไร แต่เรื่องนี้คงไม่กดดันอะไร หรือทำให้รัฐบาลทำงานลำบาก
    เมื่อถามว่า จะดูแลความสงบเรียบร้อยให้ประชาชน โดยไม่มีปัญหาอะไรใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เรื่องความปลอดภัยของประชาชนเราดูแลอยู่แล้ว
    นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ  (พปชร.) กล่าวถึงกรณีการชุมนุมของนายจตุพรว่า มีคนหลงเชื่อมาร่วมฟังคำโกหกของนายจตุพรเพียงแค่กระจุกหนึ่ง น้อยกว่าขนรักแร้ของตนด้วยซ้ำ ถ้าภาษาชาวบ้านจะพูดกันว่าถุย กระจอก ไม่สมราคาคุย เป็นพฤติกรรมมวยล้มต้มคนดูหรือไม่ ให้สังคมจับตามองกันต่อไปว่า ม็อบที่ก่อรายวันแบบนี้คือม็อบขอทาน และนายจตุพรกำลังรับผลประโยชน์ 2 ทางหรือไม่
ประเดิมฟัน 2 ข้อหาตุ๊ดตู่
“ผมว่านายจตุพรอย่าเพิ่งประกาศว่าจะชุมนุมจนกว่า  พล.อ.ประยุทธ์ลาออก ผมเป็นห่วงว่าสุดท้ายจะหน้าแหก  วันแรกยังมีคนเท่านี้ แถมนายจตุพรยังหมดมุก ไม่สมกับเป็นนักไฮด์ปาร์กมือทอง ถ้าบอกว่ามาไล่เพราะนายกฯ  เป็นตัวปัญหา แล้วนายจตุพรมีคุณสมบัติด้านใดที่เทียบเท่านายกฯ ได้ เท่าที่เห็นมีแต่สร้างความฉิบหายให้บ้านเมือง" นายสิระกล่าวและว่า ขอฝากไปถึงนายวีระ สมความคิด  เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชันว่า ถ้ากล้าจะด่าคนอื่นก็อย่าคลานเข่ามาขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์แบบตอนไปช่วยชีวิตมาจากคุกที่เขมร ถ้ารู้ว่าช่วยแล้วออกมาทำตัวแบบนี้น่าจะปล่อยให้ตายอยู่ในคุกที่เขมร จากนี้ก็ขอให้สังคมตัดสินการกระทำของนายวีระว่าเป็นคนแบบไหน
    พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงการชุมนุมของนายจตุพรเมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 เม.ย.ว่า ไม่มีเหตุความรุนแรงอะไรเกิดขึ้น โดยตำรวจนครบาล สน.ชนะสงครามได้ดำเนินการตามข้อกฎหมาย มีการเข้าไปแจ้งว่าการชุมนุมขัดพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และพระราชบัญญัติควบคุมโรค ซึ่งจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนที่ กทม.แจ้งว่าไม่อนุญาตให้ใช้สถานที่ชุมนุมนั้น ได้เข้ามาแจ้งความตำรวจหรือยังนั้น ยังอยู่ระหว่างดำเนินการแต่ละหน่วยก็มีการตรวจสอบสอบสวนอยู่แล้ว
พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล  (รอง ผบช.น.) กล่าวว่า บช.น.ได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายและฝ่ายสืบสวนสอบสวนถอดเทปคำปราศรัยนายจตุพร พร้อมพิจารณาดูว่าการชุมนุมผิดกฎหมายข้อหาใดบ้าง รวมถึงการขออนุญาต กทม.ใช้พื้นที่ ส่วนที่นายจตุพรนัดชุมนุมช่วงเย็นที่เดิมทุกวันนั้น การกระทำผิดก็ต่างกรรมต่างวาระทุกวันเรื่อยไป คล้ายลักษณะของนายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ แกนนำกลุ่มการ์ด Wevo หรือบุคคลอื่นๆ  คดีก็จะตามมาเรื่อยๆ
พล.ท.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า กองทัพบกมีระเบียบวินัยสำหรับกำลังพล โดย  ทบ.ได้ออกคำสั่งที่ 388/2563 ที่กำหนดไว้ว่ากำลังพลสามารถทำอะไรได้หรือไม่ได้บ้าง รวมถึงการโพสต์ข้อความตามโซเชียลต่างๆ ส่วนเรื่องการชุมนุมทหารทำได้เพียงการติดตามข้อมูลข่าวสารเท่านั้น ยืนยันว่าการชุมนุมเป็นสิทธิของประชาชนที่สามารถทำได้หากไม่ขัดต่อกฎหมาย
    ด้านนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกฯ กล่าวถึงกรณีนายจตุพรไฮด์ปาร์กพาดพิงเมื่อช่วงค่ำวันที่ 4 เม.ย.ในที่ชุมนุมว่า เป็นเท็จทั้งหมด คนที่ต่อรองเรียกผลประโยชน์และเอาตำแหน่งทางการเมืองได้ทุกอย่างทุกเรื่อง พี่น้องคนเสื้อแดงรู้ดีว่าคือนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กับนายจตุพร เป็นผู้มีบารมีคับฟ้าตัวจริงที่นายทักษิณและน.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องง้อเอาใจทุกอย่าง เพราะกลัวจะพาคนเสื้อแดงหนีไปตั้งพรรคใหม่
ดร.แรมโบ้อัด 'ตู่-เต้น'
    "นายจตุพรอย่านำความเท็จมาใส่ร้ายป้ายสี ว่าอยู่ที่ไหนหัวหน้าตายหมด เพราะคนอย่างผมไม่เคยเรียกร้องหรือข่มขู่นายทักษิณและ น.ส.ยิ่งลักษณ์ว่าอยากได้ตำแหน่ง ถ้าไม่ได้จะแยกออกมาตั้งพรรคคนเสื้อแดง ข่มขู่ตลอดจนนายทักษิณ น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องยอมตามใจทุกอย่าง ให้นายณัฐวุฒิเป็น รมช.ถึงสองกระทรวง และให้นายจตุพรและนายณัฐวุฒิอยู่ลำดับบัญชีต้นๆ ของ ส.ส.บัญชีรายชื่อ สองเกลอหัวแข็งคือผู้มีบารมีและมีอิทธิพลมากที่สุดในพรรคเพื่อไทย และทำให้พรรคเพื่อไทยไร้จุดยืนและตกต่ำมาจนทุกวันนี้" นายเสกสกลระบุ
    นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย  (พท.) กล่าวโต้ประเด็นที่นายเสกสกลระบุว่านายจตุพร และนายณัฐวุฒิคือผู้มีบารมีที่สั่งนายทักษิณและ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ ว่านายเสกสกลจะตอบโต้หักล้างนายจตุพรก็ไม่ควรพาดพิงบุคคลอื่น นายทักษิณและ น.ส.ยิ่งลักษณ์ซึ่งไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทางการเมืองมานานแล้ว ที่สำคัญอดีตนายกฯ จะไปสั่งใครได้ ท่านสั่งใครไม่ได้ เพราะคนที่เลี้ยงดูมาอย่างดียังเนรคุณท่านเลย นายเสกสกลโจทก์เยอะแล้ว อย่าไปลามปามพาดพิงผู้หลักผู้ใหญ่โดยไม่จำเป็นเลย
นายอานนท์ แสนน่าน ผู้ริเริ่มก่อตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง  อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงแห่งประเทศไทย ตอบโต้นายจตุพรที่กล่าวหาว่าหมู่บ้านเสื้อแดงนั้นหลอกได้ แต่นายทักษิณว่านายจตุพรอย่าน้อยใจไปเลย ถึงมวลชนจะมาร่วมชุมนุมน้อยไปหน่อยก็อย่ามาพาลเอากับพวกตนเอง โดยเฉพาะประเด็นที่พาดพิงว่านายทักษิณถูกกลุ่มหมู่บ้านเสื้อแดงต้มจนเปื่อย ขอแจ้งให้ทราบว่านายทักษิณไม่ใช่คนหลอกง่ายๆ ถ้าหลอกได้จริงๆ การที่คุณเอามวลชนไปขอต่อรองเป็นรัฐมนตรีคงได้เป็นตั้งนานแล้ว
“ผมไม่อยากจะออกมาแฉให้มากกว่านี้ เพราะเมื่อมวลชนไม่ให้ราคาคุณ ผมเองก็ไม่จำเป็นที่จะให้ราคาคุณเช่นเดียวกัน แต่ไม่อยากจะให้ประชาชนต้องถูกคุณจตุพรใช้วาทกรรมหลอกมาตายและติดคุกฟรี และเมื่อเขาชนะไล่  พล.อ.ประยุทธ์ออกจากตำแหน่งนายกฯ ได้แล้ว ต่อไปเขาก็จะไปถึงสถาบัน" นายอานนท์ระบุ
ขณะเดียวกัน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช.เดินทางมาตามที่ศาลนัดพร้อมคู่ความคดี นปช.ชุมนุมเมื่อปี 2552 ขับไล่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก่อนกล่าวถึงการชุมนุมของนายจตุพรว่า เคารพทุกการเคลื่อนไหวการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย แต่มีข้อสังเกตถึงปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ว่าเป็นการรวมตัวกันของแกนนำทุกฝ่ายภายใต้เป้าหมายเฉพาะหน้าทางการเมือง คือขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์  แต่ยังไม่เห็นรูปธรรมของการรวมตัวกันเชิงอุดมการณ์ ต้องดูพัฒนาการตรงนี้ว่าจะมีความชัดเจนเรื่องการหลอมรวมทางอุดมการณ์ได้มากน้อยแค่ไหนอย่างไร ซึ่งมองได้ 2  แบบ อาจเติบโตขยายตัวเป็นการชุมนุมขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว เพราะเป้าหมายสอดคล้องความต้องการของผู้คน  หรืออาจแตกต่างกันทางอุดมการณ์ เนื้อหาสาระ จนทำให้ความเคลื่อนไหวก้าวเดินได้ไม่เร็วนัก
    ถามว่า ต้องใช้เวลาตัดสินใจนานแค่ไหนว่าจะเข้าร่วมหรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ยังไม่ได้ตัดสินใจไปถึงตรงนั้น  สถานการณ์การเมืองวันนี้มีความแหลมคมซับซ้อน เวทีนี้ปรากฏขึ้นใหม่ ในขณะเดียวกันการต่อสู้ของกลุ่มเดิมคือนิสิต นักศึกษา เยาวชน มวลชนที่ขับเคลื่อนก็ยังทำหน้าที่อยู่ สองส่วนนี้ถึงที่สุดจะพัฒนาการอย่างไร แม้เวทีเมื่อคืนมีเป้าหมายชัดขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ แต่สิ่งที่น่าจะเป็นจุดร่วมกันได้ คือเรียกร้องอิสรภาพให้เยาวชนคนหนุ่มสาวที่ถูกจองจำอยู่เวลานี้ และจะถูกจองจำในอนาคตอันใกล้ ส่วนโอกาสที่จะไปเคลื่อนไหวร่วมกับเยาวชนนั้น ยังคงติดตามสถานการณ์อยู่ เพิ่งออกมาได้ไม่กี่วัน ดังนั้นแต่ละก้าวเดินต้องรอบคอบ รัดกุม เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับพัฒนาการของประชาธิปไตยในประเทศไทย  
    นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รักษาการหัวหน้าพรรคไทยภักดี กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มสามัคคีประชาชนว่า ยังไม่เห็นประเด็นเพียงพอจะมาไล่ พล.อ.ประยุทธ์ ยิ่งดูการขุดคุ้ยเหตุการณ์พฤษภาทมิฬปี 2535 มาโยงความสัมพันธ์กันยิ่งไม่ได้ ในแง่ระยะยาวเหตุผลไม่เพียงพอในการออกมาขับไล่รัฐบาล
    ขณะที่นายไพศาล พืชมงคล อดีตที่ปรึกษา พล.อ.ประวิตร โพสต์เฟซบุ๊กประเมินม็อบรวมสีว่า "ลบล้างคำปรามาสจากหลายฝ่ายที่ว่าจุดไม่ติดและไม่มีคนเข้าร่วม  เพราะต้องบอกว่าจุดติดแล้ว และม็อบนี้ชูธงการเมือง สามัคคีประชาไทยไล่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่แตะต้องสถาบัน  จะทำให้ทุกหมู่เหล่าสามารถเข้าร่วมได้โดยง่าย ม็อบนี้จึงประมาทไม่ได้เด็ดขาด"
สำหรับความเคลื่อนไหวของนายจตุพรในการชุมนุมวันที่สองที่สวนสันติพร อนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรมนั้น นายจตุพรเดินทางมาถึงบริเวณจุดชุมนุมเมื่อเวลาประมาณ 17.30 น. โดยนายจตุพรระบุว่า หลังจากเทศกาลสงกรานต์การชุมนุมจะเป็นของจริง รูปแบบของการชุมนุม  กลุ่มที่จะมาเข้าร่วม ทิศทางของการเคลื่อนไหวจะชัดเจนมากขึ้น  
เวลา 18.00 น. นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 พร้อมแกนนำได้ขึ้นเวทีเพื่อเคารพธงชาติ จากนั้นนายอดุลย์ได้ขึ้นประกาศว่า  มาช่วยกันเรียกร้องมากๆ โดยไม่จำกัดว่าจะเป็นสีอะไร แต่ขออย่างเดียวคือต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ลงจากอำนาจ  คนที่เคยชู 3 นิ้วขอความกรุณาอย่าได้มาชู 3 นิ้วที่นี่ เพราะหลักการชัดเจนคือต้องการให้ประยุทธ์ลงจากอำนาจ ไม่มีเรื่องอื่น
    ทั้งนี้ หลังนายอดุลย์แจ้งว่าไม่ต้องการให้มีการชู 3 นิ้ว  ได้สร้างความไม่พอใจให้คนเสื้อแดงและกลุ่มอาชีวะ โดยนายธนเดช สีสงคราม แกนนำอาชีวะ ได้ออกจากพื้นที่ชุมนุมและตะโกนด่าทอจะไม่ร่วมม็อบอีกต่อไป จนเกิดการชุลมุนเล็กน้อย ทำให้นายจตุพรต้องขึ้นเวทีขอโทษแกนนำอาชีวะ และขอให้ทุกคนกลับเข้ามานั่งเหมือนเดิม อยากจะชู 3 นิ้วก็ตามใจ ขอแต่ให้พี่น้องประชาชนมานั่งฟังการปราศรัย พร้อมเชิญกลุ่มอาชีวะขึ้นเวทีเพื่อปรับความเข้าใจ  ซึ่งนายอดุลย์ได้กล่าวขอโทษ พร้อมเรียกร้องให้กลุ่มอาชีวะช่วยกันขับไล่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"