ปิดฉากปฏิบัติการขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยกแรก ภายใต้รหัส 4-4-4 ของ ‘จตุพร พรหมพันธุ์’ ‘อดุลย์ เขียวบริบูรณ์’ 2 หัวหอกหลักที่เป็นแกนนำ บริเวณสวนสันติพร อนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม เมื่อวันที่ 4 เม.ย. เมื่อชำเลือง สำรวจป้อมค่าย มวลชนที่มาร่วมงานมีทั้งลุง ป้า น้า อา นักต่อสู้ราชประสงค์ ราชดำเนิน แนวร่วมเสื้อแดงยุค 2553 พกตีนตบ ทั้งสวมเสื้อแดง พกสัญลักษณ์ นปช.มากันอย่างคึกคัก ประหนึ่งงานรวมรุ่นคนเสื้อแดง ถึงแม้ไม่เยอะจนน่าตกใจ แต่ถือว่าหนาตาพอสมควร

แนวร่วมแกนนำหลักนอกจาก ตู่-จตุพร และป๋าดุลย์-อดุลย์แล้ว ยังแท็กทีมด้วยเครือข่ายคนเสื้อเหลือง อาทิ การุณ ใสงาม สมบูรณ์ ทองบุราณ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) วีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชัน พญ.กมลพันธ์ ชีวพันธุ์ศรี ไทกร พลสุวรรณ ขาประจำที่ร่วมต่อสู้โค่นล้มระบอบทักษิณในยุคปี 2549

แนวร่วมเสื้อแดงที่มาก็ล้วนเป็นทีมเพื่อนจตุพร ไม่ว่าจะเป็น ธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ ยศวริศ  ชูกล่อม ศักดิ์ระพี พรหมชาติ ขณะที่ พะเยาว์ อัคฮาด ณัทพัช อัคฮาด มาด้วยสายสัมพันธ์ของอดุลย์ งานนี้แม้จะไม่เห็น อารี ไกรนรา อดีตหัวหน้าการ์ดคนเสื้อแดง เงาตามตัวจตุพรตั้งแต่การชุมนุมคนเสื้อแดงปี 2552 แต่กลับเห็น ‘ไพโรจน์ อิสระเสรีพงษ์’ อดีต ส.ส.กทม. พรรคพลังประชาชน ‘สมบัติ ทองย้อย’ อดีตหัวหน้าการ์ด 3 นิ้ว พร้อมทีมอาชีวะบางส่วน ‘ต้อม-ยุทธเลิศ สิปปภาค’ ผู้กำกับชื่อดัง ไบรท์-‘ชินวัตร จันทร์กระจ่าง’ แกนนำกลุ่มราษฎร นนทบุรี เช่นเดียวกับคนรุ่นใหม่กลุ่มราษฎรอีก 4-5 คน ที่มาสังเกตการณ์การชุมนุมครั้งนี้ แม้จะยังไม่ขึ้นเวทีจับไมค์ไฮปาร์ก แต่ก็พอเห็นนัยอะไรบางอย่างได้เหมือนกัน

ถือได้ว่าเป็นการผสมสีเสื้อ ไม่แบ่งขั้ว มีทั้งหน้าใหม่ หน้าเก่า ผสมปะปนกันไป แม้จะยังไม่มีแกนนำหลักระดับหัวกะทิของเสื้อแดง เสื้อเหลือง และ กปปส.ก็ตาม บนเวทีปราศรัย แนวร่วมคนเสื้อเหลือง คนเสื้อแดง ในอดีตคือผู้ที่ยืนตรงข้ามทางความคิด อุดมการณ์ แต่ในวันนี้ละวางอดีต มองไปที่ปัญหาหลัก มาด้วยจุดประสงค์เดียวกัน ‘ขับไล่ประยุทธ์พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี’

การจัดการชุมนุมครั้งนี้ใช้พื้นที่สวนสันติพร อนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม เป็นทั้งที่ตั้งเวทีและพื้นที่ฟังปราศรัย ถือเป็นลานกว้างพื้นที่ปิด กินพื้นที่ฟุตปาธโดยรวบกองสลากเก่าอีกเล็กน้อย ไม่ได้ลงไปยังท้องถนน สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ประมาททำการปิดถนนตั้งแต่แยกคอกวัว มุ่งหน้ามายังสะพานพระปิ่นเกล้า ส่งตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบเฝ้าระวังไม่ให้เกิดเหตุร้าย และได้ส่งสัญญาณขู่ เตรียมงัดกฎหมายเข้าจัดการแกนนำผู้ร่วมชุมนุม ทั้งข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ร.บ.ควบคุมโรค เฉกเช่นเดียวกับการชุมนุมกลุ่มต่างๆ

การชุมนุม 4-4-4 ไม่มีการระดมพล (จัดตั้ง) ไม่ปักหลักพักค้าง ไม่เคลื่อนขบวน เป็นเพียงการสำรวจแนว กลุ่มคนไม่เอาประยุทธ์ เช็กปฏิกิริยาแนวร่วมทั้งฝ่ายตรงข้าม และมวลชนในส่วนของตัวเองอีกระยะ ตามที่จตุพรประกาศบนเวทีปราศรัย จะชุมนุมต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 5 เม.ย. เว้นวันที่ 6 เม.ย. เนื่องจากมีบางเครือข่ายมาใช้พื้นที่สวนสันติพรทำกิจกรรม แล้วก็ต่อเนื่องไป 7-8-9-… เม.ย. เป็นไปแบบ มาสี่โมงเย็น สามทุ่มเลิก

ปฏิกิริยาขั้วตรงข้ามกลุ่มผู้ชุมนุม หลังวันแรกผ่านพ้นไป ก็ชักแถวกันออกมาให้ความเห็น อาทิ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ตอบคำถามผู้สื่อข่าว ผู้ชุมนุมจะชุมนุมยาวจนกว่าจะไล่ พล.อ.ประยุทธ์ ออกไปได้เพียงว่า จะไปรู้ได้อย่างไร ประชาชนว่าอย่างไร เรื่องนี้คงไม่กดดันอะไร หรือทำให้รัฐบาลทำงานลำบาก ’ไพศาล พืชมงคล' อดีตที่ปรึกษา พล.อ.ประวิตรระบุ ม็อบจุดติดแล้ว ประมาทไม่ได้ 'สิระ เจนจาคะ' ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ยุให้เจ้าหน้าที่ใช้กฎหมายเข้าจัดการ

เสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตเพื่อนร่วมรบจตุพร ตอบโต้ข้อกล่าวหาหักหลังทั้งทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พร้อมกับอัดกลับเรื่องราวในอดีตของทั้งจตุพร ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดงอีกด้วย สังคมเสื้อแดงในโลกออนไลน์ ที่ก็มีทั้งสนับสนุนแนวทางจตุพร และต่อต้านแนวทางจตุพร ขณะที่พรรคเพื่อไทย ที่แม้ในวันนี้จะไม่กินเส้นกับทั้งจตุพร เสกสกล โดย อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย สวมบทองครักษ์พิทักษ์ ทักษิณ ยิ่งลักษณ์ ปฏิเสธข้อกล่าวหาต่างๆ แต่ลึกๆ แอบหวังผลระยะยาว หากสามารถโค่นล้มระบอบประยุทธ์ไปได้จริงๆ จะได้รับอานิสงส์ไปด้วย ส่วนพรรคการเมืองอื่นๆ ส่วนใหญ่คงสถานะ ยืนบนภู

การชุมนุมที่ประกาศชุมนุมต่อเนื่อง เย็นมา ค่ำเลิก ผู้ชุมนุมจะหนาตา มามาก มาน้อย คงจะได้นำไปประเมินทิศทาง แนวทางการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปๆ จะสามารถระดมพลัง ตามคอนเซ็ปต์ผู้จัดชุมนุม ‘ไทยไม่ทน สามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย’ จะสามารถยกระดับ ระดมพลังสามัคคีได้ขนาดไหน

เพราะงานนี้ วางเดิมพันถึงขั้นเอากันให้ฉิบหายกันไปข้าง ตู่-ประยุทธ์ ตู่-จตุพร ใครจะอยู่ ใครจะไป เมษา-พฤษภานี้ คงได้รู้กัน.