5 เม.ย.64 - นายพิภพ ธงไชย ประธานที่ปรึกษาญาติวีรชนพฤษภา 35 และอดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.) เผยแพร่ข้อเขียนเรื่อง "ทางออกประยุทธ์ คือทางออกประเทศไทย?" โดยมีเนื้อหาดังนี้
นายแพทย์ประเวศ วะสี บอกว่า “ผมเคยเขียนเสนอแนะว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และกองทัพ ควรถือเป็นโอกาส ประกาศสนับสนุนประชาธิปไตย และการยกร่างรัฐธรรมนูญเพื่อสถาปนาระบบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ และกองทัพ ในการสร้างประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ จะเป็นทางออกให้ทั้งประเทศและกองทัพเอง...”
ซึ่งถ้าทำตามข้อเสนอนายแพทย์ประเวศ พล.อ.ประยุทธ์สามารถทำได้ เพราะมีจุดแข็งอยู่ที่ตัวนายกรัฐมนตรี ที่ไม่มีข้อกล่าวหาเรื่องทุจริตคอรัปชั่น และเรื่องครอบครัว แถมยังมี รธน.ที่นายมีชัย ฤาชุพันธ์ สร้างเป็นเกาะคุ้มกันไว้ให้ โดยมี สว.250 คนเป็นทหารเสือข้ารับใช้
ทหารก็ฉลาดพอที่จะสร้างเกาะคุ้มกันเพิ่ม โดยสร้างพรรคการเมืองใหญ่โตพอที่จะหนุนหลังในสภาผู้แทนราษฎร ไม่ให้เป็นเรื่องน่าเกลียดในการเลือกนายกรัฐมนตรีที่จะไปอาศัยเพียงเสียงของ สว.เท่านั้น
และยังมีขบวนการยุติธรรมทั้งระบบรองรับการใช้อำนาจจัดการกับมวลชนคนหนุ่มสาวที่ลุกขึ้นมาท้าทายอำนาจรัฐแทนคนรุ่น พธม. รุ่น กปปส. รุ่น นปช. ที่ถูกกดทับไว้ด้วยกฎหมาย ที่นิรโทษกรรมเฉพาะคณะทหาร คสช.ที่ฉีก รธน.โดยการรัฐประหาร โค่นล้มรัฐบาล นส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ส่วนอำนาจทุนก็เติบโตเเบบทุนผูกขาด ในยุคทหารครองเมือง ได้สนุกกับการหาเงิน หาที่ดิน ครอบครองทรัพย์สิน ในระบบทุนนิยมกึ่งเผด็จการ กึ่งประชาธิปไตย ไปอย่างอิ่มหมีพีมัน
แถมยังมีตัวไวรัส COVID - 19 มากระชับอำนาจรัฐบาลให้ใช้กฎหมายพิเศษ ถึงแม้การใช้จ่ายของประชาชนจะลำบากยากแค้น แต่ก็ไม่ถึงเข้าสู่ยุคข้าวยากหมากแพง เหมือนสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยไม่มีประชาชนออกมาชุมนุมเดินขบวนประท้วงเรื่องตกงานสักขบวนหนึ่ง เหมือนเกาหลีใต้ยุคหนึ่ง
นอกจากนี้ยังเกิดการเปลี่ยนแปลงในประเทศพม่า จากประชาธิปไตยสู่เผด็จการทหารที่โหดเหี้ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ ทำให้ไทยกลายเป็นรัฐกันชนระหว่างเผด็จการทหารกับประชาธิปไตย และกลายเป็นตัวเลือกทางการเมืองระหว่างประชาธิปไตยกับเผด็จการ
แถมยังมีอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ทำตัวเป็น”ปีศาจ”คอยหลอกหลอนอยู่นอกประเทศจนย่างเข้าปีที่ 15 แล้ว ทำให้มวลชนบางส่วนพะวักพะวงว่าจะเอาอย่างไรดีระหว่างประชาธิปไตยเผด็จการแบบทหารกับประชาธิปไตยเผด็จการแบบระบอบทักษิณ
ก็ทำให้มวลชน พธม.และมวชชน กปปส. ไปไม่เป็นในการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่นำไปสู่ระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ตามจินตนาการของนายแพทย์ประเวศ วะสี หรือในสมัย ดร.ธีรยุทธ บุญมี กับพวก 100 คน ที่ต่อสู้ไว้ตั้งแต่ 14 ตุลา. 16
รัฐบาลประยุทธ์ จึงไม่ใยดีต่อโอกาสที่จะพลิกวิกฤติสร้างระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ที่ประชาชนฝันค้างมาตั้งแต่ปี 2510 จนเกิด 14 ตุลา. 16 สมัยธีรยุทธ์ บุญมี ที่นำคน 100 คนเข้าชื่อเรียกร้อง รธน. จนไปจบที่ 6 ตุลา.19 อย่างเหี้ยมโหด ที่ฝั่งใจคนรุ่นใหม่สมัยโน้น ส่งต่อมาถึง พฤษภา. 35 และกลายเป็น พธม. กับ กปปส. ที่สู้กับขบวนการของทักษิณ จนถึงคนรุ่นหนุ่มสาวชูสามนิ้วยุค คสช.
ในเส้นทางการต่อสู้ของประชาชน ทำให้เกิด รธน.ฉบับประชาชนที่เป็นประชาธิปไตย 2540 แต่โชคร้ายที่ได้นายกรัฐมนตรีที่ชื่อทักษิณ ชินวัตร เมื่อชนะคดีซุกหุ้น ก็หยิ่งผยอง ใช้อำนาจตามอำเภอใจ ในรัฐธรรมนูญ 2540 เพื่อตัวเอง เพื่อวงศ์ตระกูล เพื่อกลุ่มทุนพวกพ้อง จนเป็นเหตุให้เกิด พธม.ลุกขึ้นมาต่อต้านระบอบที่ทักษิณสร้างขึ้นมา ที่เรียกว่า “ทักษิโณมิก” จนเป็นเหตุให้ทหารกลับมายึดอำนาจ เพราะความโฉดเขลา และความโลภของตัวทักษิณเอง
ขบวนการปกป้องทักษิณ จึงเกิด นปช.ออกมาสู้กลางเมืองกับทหาร กับรัฐบาล กับ พธม. และ กปปส. โดยมีตำรวจเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทยหนุนหลัง ทำให้คนของ พธม.และคนของ กปปส. บาดเจ็บล้มตาย พิการ จนนายกฯอภิสิทธิ์สั่งทหารมาปราบ นปช. เป็นเหตุให้ประชาชนที่มาร่วมด้วยความบริสุทธิใจ ที่ถูกกดทับด้วยความยากจน บาดเจ็บล้มตายไปเกือบร้อย
ความพยายามของทักษิณที่ใช้สมาชิกพรรคเพื่อไทยในรัฐสภาเสนอ”นิรโทษกรรมสุดซอย” จนเกิดกบฎในพรรค ปชป.ลาออกจากสมาชิกรัฐสภา กลายเป็น กปปส. นำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ
ทำให้ประเทศไทยมีวิกฤตรอบใหม่ ที่ทหารยึดอำนาจในนาม คสช.และสร้าง รธน.ฉบับมีชัย เป็นประชาธิปไตยจอมปลอม แทน รธน.ฉบับ ดร.บวรศักดิ์ เหตุเพราะ “ต้องการอยู่ยาว”
วันนี้ทหารอยู่ครองเมืองมาได้ 6 ปี จนคนหนุ่มสาวทนไม่ไหว ลุกขึ้นมาชู 3 นิ้ว ที่แตกต่างจากคนหนุ่มสาวยุค 14 ตุลา.16 ที่ชูเพียงนิ้วเดียว คือ “รัฐธรรมนูญ” ถึงแม้มี 3 ทรราช เหมือนมี 3 ป. สมัยนี้ ก็ไม่ได้ชูธงไล่ โดยเชื่อว่าถ้าได้รัฐธรรมนูญ มีการเลือกตั้ง ก็เสมือนขับไล่ 3 ทรราชไปในตัว
พล.อ.ประยุทธ์ท้าทายว่า “ไปแก้มา แก้ให้ได้ ก็แล้วกัน”
คำท้าทายนี้กำลังถูกตรวจสอบแบบท้าทายเช่นกัน จากมวลชนดั้งเดิม แต่การนำจะกลับไปสู่สมัย 14 ตุลา.16 ได้หรือไม่ ยากจะคาดการณ์ เพราะสมัยนี้มวลชนแตกร้าวลึกกว่าสมัยโน้น ที่มวลชน นักเรียน นักศึกษาต่างเป็นหนึ่งเดียว
ยิ่งทักษิณโหนกระแสออกมาชี้นำมวลชนเสื้อแดงและ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ให้เดินเกมแก้รัฐธรรมนูญในสภาฯ ในขณะที่แกนนำ นปช.ร่วมกับประธานญาติวีรชนพฤษภา.35 สร้างกลุ่ม “สามัคคีประชาชน” เพื่อขับไล่ 1 ใน 3 ป. คือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เพียงคนเดียว
โดยเชื่อว่าถ้าสำเร็จ จะได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่อาจนำไปสู่การเขียนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และเชื่อว่าเป็นการสลายสีเสื้อ แต่พอขยับตัว สีแดงก็แตกคอกัน และอาจจะลามไปสีอื่นด้วย
สังคมไทยกำลังจะพิสูจน์ตัวเอง ว่า “จะทำให้วิกฤตเป็นโอกาส” เพื่อสร้าง ”ระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์” ตามคำของนายแพทย์ประเวศ วะสี ได้หรือไม่
และตัวพลเอกประยุทธ์เอง พร้อมจะใช้จังหวะนี้พาตัวเองและสังคมไทย ออกจากวิกฤตนี้หรือไม่
และไม่ใช่เฉพาะวิกฤตรัฐธรรมนูญ วิกฤตใหญ่ที่รออยู่ข้างหน้า คือ “วิกฤตผู้สูงอายุ” ที่กำลังจะขึ้นสูงกว่า 20 % ในขณะเดียวกันเด็กแรกเกิดก็ลดต่ำลงปีต่อปี แล้วสังคมไทยจะอยู่กันอย่างไร
การปฎิรูป ที่ชูธงสมัย พธม.อยู่ในทำเนียบรัฐบาล กปปส.มาชูธงต่อ พลเอกประยุทธ์ตั้งคณะทำงานหลายคณะ และคณะทำงานเรื่องปฎิรูปที่คุณมีชัยใส่ไว้ใน รธน.2560 ก็แท้ง ไม่ออกมาเป็นตัวเป็นตน
ก็หวังว่าถ้ากดดัน รณรงค์ให้ได้ร่าง รธน.ใหม่ทั้งฉบับ ก็จะเริ่มต้นปฎิรูปประเทศกันอีกครั้ง และยุติ รธน.2560 ยุติการสืบทอดอำนาจทหาร ยุติบทบาทของ สว. 250 คน และสุดท้ายยุติบทบาทนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน
ทหารพม่าก็กำลังรอดูพี่ใหญ่เช่นทหารไทย ว่าจะสามารถลีกเลี่ยงสงครามกลางเมืองเรื่องประชาธิปไตย ที่ทหารพม่ากำลังเผชิญอยู่ได้หรือไม่
เกมนี้จะตัดสินกันในรัฐสภาหรือบนท้องถนน เช่นสมัยพฤษภา.2535
วันที่ 4/4/64 เป็นการประกาศ “การสร้างความมุ่งมั่นร่วมกัน-Purpose” ของขบวนการ “สามัคคีประชาชน” เพื่อนำไปสู่การ “การวางหลักการ-Principle” แล้วถึงเวลาก็ “ร่วมกันทำ-Participation” เพื่อนำไปสู่ “การปฎิรูปประเทศ เพื่อสร้างระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์” ด้วย “การสถาปนารัฐธรรมนูญประชาธิปไตย ด้วยอำนาจประชาชน”
ขอให้ขบวนการ “สามัคคีประชาชน” ประสบความสำเร็จอย่างสันติวิธี นำไปสู่การสร้าง “ระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์” ตามที่นายแพทย์ประเวศ วะสี หวังไว้
และขอให้ความมุ่งมั่นของประธานญาติวีรชนพฤษภา.35 ที่มุ่งมั่นมา 29 ปี ที่จะให้เกิดประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ หลังจากเสียสละลูกชายคนโตบนถนนราชดำเนินร่วมกับลูกๆของญาติวีรชนท่านอื่นๆ
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |