นายกฯแนะเด็กรู้เท่าทัน ฝันรัฐแจกทุนการศึกษา


เพิ่มเพื่อน    

 พล.อ.ประยุทธ์แนะเยาวชนน้อมนำคติธรรมจากสมเด็จพระสังฆราชฯ และพระราโชวาทของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปปรับใช้ในการดำรงชีวิต เตือนเด็กไทยยุค 4.0 ต้องรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคดิจิทัล ทำเนียบฯ จัดงานวันเด็กครึกครื้น นอกจากให้นั่งเก้าอี้นายกฯ ยังเปิดให้ชมตึกภักดีบดินทร์ พร้อมให้เด็กๆ ถ่ายรูปคู่ท่านผู้นำ ขณะที่ ทบ.ขนอาวุธยุทโธปกรณ์โชว์เพียบ โพลเผยสิ่งที่นักเรียนอยากได้จากรัฐบาลมากที่สุดคือ ทุนการศึกษา ลดการบ้าน มึนอาชีพในฝัน เน็ตไอดอล ขายสินค้าออนไลน์ก็ติดอันดับ

    เมื่อวันศุกร์ ในรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ  (คสช.) กล่าวถึงวันเด็กแห่งชาติประจำปีนี้ว่า สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้ประทานคติธรรมลงในหนังสือวันเด็ก ของกระทรวงศึกษาธิการ มีใจความสำคัญถึงวิธีการครองตนเป็นคนดี เป็นที่รักของทุกคนวิธีหนึ่ง เรียกว่า "อัตถจริยา" ได้แก่ การบำเพ็ญประโยชน์ การประพฤติในสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น อาทิ การช่วยเหลือ ทำงาน สร้างสรรค์เพื่อสังคม ด้วยความตั้งใจ ด้วยความดีงาม และมีสติปัญญา สำหรับหนังสือวันเด็กแห่งชาติปีนี้ ชื่อ "ฮีโร่ตัวจิ๋ว" มีเนื้อหาภายในเล่ม เป็นการนำเสนอเรื่องราวดีๆ ของเยาวชนไทย ที่คัดเลือกมาจากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ที่ให้ทั้งความสนุกสนานและจินตนาการ อีกทั้งเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับเด็กไทยให้รู้รักสามัคคี ดำเนินตามรอยเบื้องพระยุคลบาทในหลวงรัชกาลที่ 9 ในการทำความดี และสืบสาน รักษา ต่อยอด สิ่งดีงาม ตามพระราโชวาทของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งสอดคล้องกับปัจจุบันนิยม ได้แก่ โครงการจิตอาสา "เราทำความดีด้วยหัวใจ" 


    ในโอกาสเดียวกันนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราโชวาทสำหรับเด็กและเยาวชน ความว่า  "บ้านเมืองเรามีสิ่งดีงามมากมาย ที่บรรพบุรุษได้สร้างสมไว้ให้เรา เด็กทุกคน ผู้เป็นอนาคตของชาติ จึงมีหน้าที่สืบสาน และรักษาสิ่งดีงามเหล่านั้นไว้ พร้อมทั้งสร้างเสริม พัฒนา ให้เจริญงอกงามยิ่งๆ ขึ้นไป
    จึงขอให้ลูกหลานไทยทุกคนได้น้อมนำคติธรรม และพระราโชวาทดังที่ได้กล่าวมานั้น ไปปรับใช้ในการดำรงชีวิต และในการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุข ทั้งนี้ เด็กและเยาวชนเป็นกำลังสำคัญ ที่จะพาบ้านเมืองไทยให้รุ่งเรืองสืบไปได้อย่างบริบูรณ์ในภายภาคหน้า ก็ด้วยผู้ใหญ่ในวันนี้ ได้ช่วยกันปลูกฝัง และสร้างสรรค์ให้เด็กและเยาวชน เป็นผู้หนักแน่นในคุณธรรม
    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า คำขวัญของนายกรัฐมนตรี เนื่องในวันเด็กแห่งชาติปีนี้คือ "รู้คิด รู้เท่าทัน สร้างสรรค์เทคโนโลยี" ซึ่งตนเห็นว่าศักยภาพของเด็กไทยไม่ได้ย่อหย่อนไปกว่าเด็กชาติไหนๆ ในโลก จึงอยากให้เด็กไทยในยุค "ไทยแลนด์ 4.0" ได้รู้เท่าทันความเปลี่ยนแปลงของโลกยุคดิจิทัล และสามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการสร้างสรรค์ นวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ ของเราเองได้ 
    "สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะไม่อาจเกิดขึ้นได้เลย ถ้าเด็กของเราขาดซึ่งครูที่มากด้วยคุณภาพและศักยภาพ เพราะครู -นักเรียน มีความผูกพัน เชื่อมโยงกัน เหมือนเหตุและผลนะครับ เมื่อเหตุดี ผลก็งดงามตามมาด้วย ดังนั้นผมจึงขอมอบคำขวัญวันครู ครั้งที่ 62 ประจำปี 2561 ซึ่งตรงกับวันที่ 16 มกราคม 2561 ว่า "ศิษย์ดี ก็ด้วยครูดี มีศรัทธา" ก็คือต่างฝ่ายต่างมีศรัทธาให้แก่กันและกัน ที่สำคัญทั้ง 2 ฝ่ายต้องมีศรัทธาในสิ่งที่ทำ ก็คือ ความดี และการสร้างคุณประโยชน์ให้กับส่วนรวม และประเทศชาติ"
    ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 17.20 น. ที่บริเวณสนามหญ้าด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมด้วย พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกฯ ได้มาเยี่ยมชมกิจกรรมฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2561 ของหน่วยงานภายในทำเนียบรัฐบาล และเปิดโอกาสให้ลูกหลานข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทำเนียบฯ รวม 230 คน ได้เข้ามาเที่ยวงานวันเด็กแห่งชาติก่อนเป็นชุดแรก  เนื่องจากในวันที่ 13  ม.ค. ซึ่งเป็นวันเด็กแห่งชาติ เจ้าหน้าที่หลายคนติดภารกิจจัดกิจกรรมวันเด็ก ซึ่งมีกิจกรรมจับแจกของรางวัลด้วย อาทิ รถจักรยาน 10 คัน ของนายกฯ และรางวัลอื่นๆ จากสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) โดย พล.อ.ประยุทธ์ได้จับรางวัลแจกให้กับเด็กๆ ด้วย
    จากนั้นนายกฯ กล่าวว่า อยากให้ทุกคนนำคำขวัญวันเด็กมาปฏิบัติ ในการรู้เท่าทันเทคโนโลยี เพราะวันหน้าเราจะเจอกับสิ่งเหล่านี้ ขณะที่พ่อแม่ผู้ปกครองจะต้องสอนให้ลูกหลานมีหลักคิดที่ดี สอนให้ลูกเป็นคนดีและคนเก่ง ลุงในฐานะเป็นนายกฯ มีความมุ่งหวังให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้า ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่ทำเพื่อวันหน้าจะได้สร้างงาน สร้างอาชีพ โดยการพัฒนาของเดิมและเริ่มต้นของใหม่ อย่างไรก็ตาม ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ แต่ถ้าทุกคนจะหาลุงตู่ที่พูดน้อยก็คงต้องเดินไปหาสแตนดี้ที่ตั้งอยู่ เพราะวันนี้ลุงตู่จะพูดเยอะนิดนึง เพราะอยากจะพูดกับพวกเราเพื่อให้ทุกคนช่วยกันพัฒนาประเทศ แม้จะทำน้อยบ้างมากบ้าง แต่ก็เป็นประโยชน์ในการพัฒนาประเทศ 
    "แผ่นดินนี้คือแผ่นดินที่มีความศักดิ์สิทธิ์ เราต้องช่วยกันทำให้แผ่นดินนี้ปลอดภัย ไม่มีใครที่จะช่วยเราได้ นอกจากพวกเราทุกคน โดยคนไทยทุกคนต้องช่วยกันเอง จึงขอฝากอนาคตไว้กับลูกหลานด้วยก็แล้วกัน ขอให้ทุกคนมีความสุข ประสบความสำเร็จทุกประการ ขอให้เด็กๆ ได้มีสิ่งดีๆ มีโอกาสดูแลพ่อแม่ในวันข้างหน้า แต่ทั้งหมดจะดีหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับแรงศรัทธา อย่างที่ทุกวันนี้ นายกฯ มีความศรัทธา โดยใช้แรงกายและใจในการทำหน้าที่เพื่อลูกหลานของเราในอนาคต ขอบคุณเจ้าหน้าที่ด้วย ที่สละแรงกายแรงใจ ขณะที่เด็กๆ ก็ต้องดูแลตัวเองด้วยการออกกำลังกาย และทานข้าวให้น้อยลง เพราะถ้าอ้วนหรือผอมเกินไปก็ไม่ดี วันนี้ถือว่าเป็นลุงตู่ ไม่ได้เป็นนายกฯ หรือหัวหน้า คสช. แต่เป็นลุงตู่ให้กับพวกเราทุกคน" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
    มีรายงานว่า รัฐบาลได้เตรียมจัดงานวันเด็กที่ทำเนียบรัฐบาล ภายใต้ชื่องาน "เด็กไทย ก้าวไกลด้วยเทคโนโลยี" โดยนายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานเปิดงาน ซึ่งจะมีการจัดกิจกรรมของกระทรวงและหน่วยงานต่าง ๆ  และเปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี เป็นประจำทุกปี จากนั้น นายกฯ จะนำเด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศ และเด็กจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีความซื่อสัตย์หรือเด็กกตัญญู รวมถึงเด็กพิเศษหรือเด็กด้อยโอกาส จำนวน 20 คน เยี่ยมชมห้องทำงานของนายกฯ เพื่อถ่ายภาพหมู่ร่วมกัน ก่อนที่นายกฯ จะให้โอวาทและถ่ายภาพร่วมกับเด็กและเยาวชน ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) โดยวันเด็กปีนี้ นอกจากเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนได้นั่งถ่ายภาพที่โต๊ะทำงานของนายกฯ บนตึกไทยคู่ฟ้าเหมือนเช่นทุกปีที่ผ่านมา ยังจะเปิดตึกภักดีบดินทร์ ให้เด็กและเยาวชนได้เข้าเยี่ยมชมเป็นครั้งแรกอีกด้วย ส่วนใครที่พลาดถ่ายภาพกับนายกฯ ตัวจริง ก็มีสแตนดี้ภาพเหมือนกระจายตามจุดต่างๆ ทั่วทำเนียบฯ ให้ถ่ายภาพได้อย่างจุใจ 
    นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า วธ.ร่วมกับสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นเด็ก เยาวชน หัวข้อ “วันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2561 พบว่า เด็กและเยาวชน ร้อยละ 62.54 ทราบว่าคำขวัญวันเด็กประจำปี 2561 ของนายกฯ มีว่าอย่างไร ส่วนของขวัญวันเด็กที่ต้องการมากที่สุดจากรัฐบาลคือ ทุนการศึกษา รองลงมาอุปกรณ์การศึกษาและลดการบ้านให้น้อยลง ส่วนคำถามเกี่ยวกับอาชีพในฝันเมื่อโตขึ้น พบว่า อันดับ 1 คือแพทย์/พยาบาล, อันดับ 2 ครู, อันดับ 3 ทหาร, อันดับ 4 นักธุรกิจ, อันดับ 5 นักกีฬา, อันดับ 6 ตำรวจ, อันดับ 7 ดารา/นักแสดง, อันดับ 8 นักบิน, อันดับ 9 แอร์โฮสเตส, อันดับ 10 วิศวกร,  อันดับ 11 สถาปนิก, อันดับ 12 นักการตลาด, อันดับ 13 เน็ตไอดอล, อันดับ 14 ขายสินค้าออนไลน์ 


    รมว.วัฒนธรรมกล่าวด้วยว่า กลุ่มตัวอย่างยังสะท้อนมุมมองเกี่ยวกับปัญหาเร่งด่วนที่รัฐบาลควรหาแนวทางป้องกัน ช่วยเหลือและแก้ไขเพื่อประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชนใน 5 อันดับแรก คือ การละเมิดทางเพศ สารเสพติด ปฏิรูประบบการศึกษา ปัญหาเด็กติดเกม และคุณแม่วัยใสตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร ส่วนนโยบายที่รัฐบาลควรมีเพื่อส่งเสริมให้เด็กได้เตรียมความพร้อมสู่ ประเทศไทย 4.0 คือขอให้ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยมากที่สุด รองลงมาได้แก่ การใช้ภาษา แลกเปลี่ยนภาษาต่างประเทศ ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลาทำกิจกรรม ปฏิรูปการศึกษาให้เทียบเท่าต่างประเทศ ปลูกฝังค่านิยมที่ดี รวมถึงส่งเสริมการศึกษาทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ตามลำดับ


    ขณะที่นิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เปิดเผยผลสำรวจความเห็นของประชาชนเรื่อง "เด็กไทยในยุคไทยแลนด์ 4.0" โดยอาชีพที่ผู้ปกครองอยากให้บุตรหลานทำมากที่สุดคือ รับราชการ รองลงมาคือแพทย์/พยาบาล อาชีพส่วนตัว ครู/อาจารย์ และเป็นทหาร ตามลำดับ เมื่อถามถึงความแตกต่างของเด็กไทยยุคนี้เทียบกับเด็กสมัยก่อน ส่วนใหญ่ร้อยละ 45.56 ตอบว่าเด็กยุคนี้ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับมือถือหรือคอมพิวเตอร์มากกว่าการออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านเหมือนเด็กสมัยก่อน นอกจากนี้ ร้อยละ 31.47 ระบุว่าเด็กยุคนี้ขาดความอดทนหรือรอคอย เพราะมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยและรวดเร็วกว่าสมัยก่อน 
    นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ประธานกรรมาธิการสังคม กิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงสถานการณ์เด็กและเยาวชนในปัจจุบัน ว่าสิ่งที่รัฐบาลต้องตระหนัก และตั้งหลักเพื่อแก้ไขปัญหา มีอยู่ 2 เรื่องใหญ่ๆ คือ 1.ปัญหายาเสพติด โดยขณะนี้ประเทศไทยมีประชากรที่ติดยาเสพติดทั้งหมด 2.7 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นเด็กและเยาวชน อายุระหว่าง 15-19 ปี จำนวน 3 แสนคน ที่เข้ารับการบำบัด และเมื่อปีที่ผ่านมาพบว่าเด็กที่อายุน้อยที่สุดที่ติดยาเสพติด คืออายุ 11 ปี ประมาณ 7 คน โดยมีพฤติกรรมเสพยาบ้า และพบเด็กอายุ 7 ปี ส่งยาเสพติด 2.ปัญหาวัยรุ่นตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร ในที่นี้หมายถึงวัยรุ่นอายุ 19 ปีลงมา สถิติพบว่ามีปีละ 1.5 แสนคน แสดงให้เห็นว่าในแต่ละปีจะมีแม่ที่ไม่พร้อมจำนวนมาก
    นายวัลลภกล่าวว่า ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ ได้ทบทวนว่าที่ผ่านมาสิ่งที่ทำเพื่อเด็กและเยาวชน คือการออกกฎหมายเกี่ยวกับเด็กและเยาวชน จำนวน 10 ฉบับ ซึ่งมากกว่าทุกยุค อาทิ พ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ, พ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน, พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ และ พ.ร.บ.กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ซึ่งกฎหมายเหล่านี้จะช่วยป้องกัน และลดปัญหาเกี่ยวกับเด็กและเยาวชนได้ พร้อมทั้งหวังว่านายกรัฐมนตรีจะสนับสนุนสภาเด็กและเยาวชนในทุกระดับ เพราะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยป้องกันปัญหายาเสพติดและการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร
    ส่วน นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการคนห่วงหัวในมูลนิธิเมาไม่ขับ กล่าวว่า ขอวิงวอนไปยังพ่อแม่ผู้ปกครองที่จะพาบุตรหลานไปฉลองวันเด็ก ขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยของบุตรหลาน โดยตัวผู้ปกครองหรือผู้ทำหน้าที่ขับรถ ต้องงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเด็ดขาด ขณะเดียวกัน พ่อแม่ผู้ปกครองที่ขับขี่รถจักรยานยนต์และนำบุตรหลานซ้อนท้าย ต้องจัดหาหมวกกันน็อกให้บุตรหลานใส่เพื่อความปลอดภัย และในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ ชมรมคนห่วงหัว ขอเชิญชวนพ่อแม่ผู้ปกครองที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ ซื้อหมวกกันน็อกมอบเป็นของขวัญให้กับบุตรหลานเพื่อแสดงออกถึงความห่วงใยในเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนน 
    นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอฝากให้รัฐบาลกำหนดนโยบาย และแนวทางปฏิบัติให้ชัดเจนในการทำงานเพื่อไม่ให้เด็กเกิดปัญหา อันได้แก่ปัญหาที่กระทบกับสิทธิขั้นพื้นฐานของเด็ก 4 ประการ คือ 1.สิทธิในการอยู่รอด 2.สิทธิในการปกป้องคุ้มครอง 3.สิทธิในการพัฒนา และ 4.สิทธิในการมีส่วนร่วม โดยเฉพาะสิทธิในการป้องกันคุ้มครองที่ยังมีปัญหาอยู่มาก ทั้งการคุ้มครองจากการเลือกปฏิบัติ การล่วงละเมิด การทำร้าย การกลั่นแกล้งรังแก การถูกทอดทิ้งละเลย การลักพาตัว การใช้แรงงานเด็ก ความยุติธรรมต่อผู้เยาว์ และการเอารัดเอาเปรียบทางเพศ
    ด้านการเตรียมงานวันเด็กแห่งชาติตามสถานที่ต่างๆ ที่กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานวันเด็กประจำปี 2561 ของกองทัพบก ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้จัดเตรียมสถานที่ พร้อมนำอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ มาจัดแสดง อาทิ เฮลิคอปเตอร์ลำเลียง MI 17, เฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป EC145T2 จากกองพันบินที่ 41 จ.ลพบุรี, เฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์ก จากกองพันบินที่ 9 จ.ลพบุรี รวมถึงปืนใหญ่ , รถถัง Oplot, ยานเกราะล้อยาง BTR-3E1, รถหุ้มเกราะล้อยาง Reva ซึ่งไฮไลต์ในปีนี้ คือรถถัง VT-4 จากประเทศจีน ที่เป็นยุทโธปกรณ์ใหม่ล่าสุดที่เพิ่งผ่านการตรวจรับ และยังไม่เคยนำไปใช้ในภารกิจใดๆ โดยถือเป็นการเปิดตัวต่อสาธารณชนครั้งแรกนับตั้งแต่มีการส่งมอบจากจีน
    โดยปีนี้ กองทัพบกจัดงานวันเด็ก ภายใต้ชื่องาน “กองทัพบก ปลูกจิตสำนึกเด็กไทย สร้างใจจิตอาสา สืบสานศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน” โดยที่ พล.ม.2 รอ. จะเปิดให้เด็กและเยาวชนได้ร่วมกิจกรรมต่างๆ และถ่ายภาพกับอาวุธยุทโธปกรณ์อย่างใกล้ชิดในวันเสาร์ที่ 13 ม.ค. ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. โดย พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. จะเป็นประธานเปิดงานในเวลา 08.00 น.
    สำหรับพื้นที่ปริมณฑลและส่วนภูมิภาค หน่วยทหารของกองทัพบกได้จัดกิจกรรมวันเด็กไปพร้อมกันด้วย อาทิ กองทัพภาคที่ 2 จัดที่สวนน้ำบุ่งตาหลั่วเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 9 ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา, กองทัพภาคที่ 3 จัดที่ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช, ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ อ.เมืองฯ และค่ายสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก, กองทัพภาคที่ 4 จัดที่ค่ายวชิราวุธ จ.นครศรีธรรมราช, กองพลทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน เขตดุสิต, ศูนย์การทหารปืนใหญ่ จัดที่สนามกีฬาเอมพันธุ์ อ.เมืองฯ จ.ลพบุรี, หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ จัดที่สวนสัตว์ลพบุรี สาธิตการดำรงชีพในป่าและการแสดงงู ส่วนศูนย์การทหารม้า จัดที่ลานรถถัง ในหน่วย จ.สระบุรี ในวันที่ 12 ม.ค.เป็นต้น.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"