5 เม.ย.64 - ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า ศบค. ชุดเล็กได้หารือในวันเดียวกันนี้เนื่องจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะผอ.ศบค.สั่งการให้ ศปก.ศบค. ที่มี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เป็นประธาน หารือในที่ประชุมเพื่อกำหนดความรับผิดชอบให้กับส่วนราชการต่างๆ เพื่อให้ร่วมกันกำกับดูแลมาตรการป้องกันการระบาด โควิด-19 โดยศบค. ชุดเล็กมีข้อสรุปเพื่อนำเรียนนายกรัฐมนตรีให้พิจารณาลงนามในคำสั่งศบค. และจะได้กระจายคำสั่งดังกล่าวไปทุกภาคส่วนเพื่อให้ร่วมดำเนินการต่อไป

ทั้งนี้ การกำหนดมาตรการดังกล่าวเพื่อเข้าสู่มาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการทยอยผ่อนคลายมาตรการใน 3 ระยะ ได้แก่ระยะที่หนึ่ง นับจากวันที่ 1 เม.ย. - 30 มิ.ย. ระยะที่สอง นับจากวันที่ 1 ก.ค. - 30 ก.ย. และระยะที่สาม ที่หลายคนเรียกว่าจะมีการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบนับจากวันที่ 1 ต.ค.เป็นต้นไป ทั้งนี้ มาตรการนั้น เช่น กระทรวงสาธารณสุขจะมีบทบาทสำคัญเรื่องการกำหนดยุทธศาสตร์ทั้งด้านการป้องกันดูแลรักษา การกระจายวัคซีน กระทรวงคมนาคมจะต้องมีมาตรการเฝ้าระวังการแพร่ระบาด โควิด-19 ดูแลสถานีขนส่ง และขนส่งทุกประเภท กระทรวงศึกษาธิการจะต้องกำหนดมาตรการป้องกันการระบาด โควิด-19 ในสถานศึกษา กระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงแรงงาน จะต้องดูแลเรื่องการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าว แรงงานตามฤดูกาล การดูแลที่พักคนงาน การจัดหาวัคซีน ให้กับกลุ่มแรงงาน และการกำกับติดตามสถานประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยจากการแพทยระบาด โควิด-19 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะต้องมีมาตรการดูแลให้การท่องเที่ยวและสถานที่ท่องเที่ยวให้เป็นสถานที่ที่ปลอดภัย เป็นต้น