5 เม.ย. 64 - ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีมีเสียงเรียกร้องให้รัฐบาลเป็นเจ้าภาพในการยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อแสดงความจริงใจเนื่องจากเรื่องดังกล่าวเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ว่า ไม่ทราบ แต่ขณะนี้ทราบเพียงว่ามีความเคลื่อนไหวที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เสนอร่างแก้ไขโดยไม่ได้เสนอในนามพรรคร่วมรัฐบาล และพรรคร่วมอีกสองสามพรรคจะไปเสนอกันเองอีกโดยไม่เสนอด้วยกัน เพราะแต่ละพรรคมองการแก้ไขรัฐธรรมนูญกันคนละมุม ส่วนรัฐบาลยังไม่ได้มีการพูดคุยในเรื่องนี้ 

เมื่อถามว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลควรต้องเสนอในนามรัฐบาลหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ถ้าได้จะเป็นการดี เพียงแต่ว่าประเด็นอะไรเท่านั้นเอง เพราะในนโบบายที่แถลงต่อรัฐสภาไม่ได้ระบุว่าแก้เรื่องอะไร ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลเคยคุยกันเมื่อร่างนโยบายใหม่ๆ แต่หลังจากนั้นไม่ได้พูดอะไรกันอีก หรือพูดกันตนก็ไม่ทราบ เพราะไม่ได้ไปหารือกับเขาด้วย  

เมื่อถามย้ำว่า ถ้าเป็นเช่นนี้ไม่ถือว่ารัฐบาลผิดคำพูดที่ให้ไว้กับรัฐสภาใช่หรือไม่ นายวิษณุ ตอบว่า “คุณลองไปดูว่านโยบายเร่งด่วนข้อ 12 เขียนว่าอย่างไร เพราะเป็นการเขียนที่พินิจพิจารณากันแล้วว่า จะไม่ทำผิดอันนั้น” 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้ประเมินกระแสสังคมหรือไม่ว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคพปชร. ไม่ตอบโจทย์ของผู้ชุมนุม นายวิษณุ กล่าวว่า “ก็อาจไม่ได้ตอบโจทย์ม็อบ แต่ขอถามว่าทำไมต้องไปตอบโจทย์ม็อบ เพราะโจทย์อื่นๆ ของประเทศมีเยอะและจะต้องพิจารณา ผมถึงบอกว่า ถ้ามองกันคนละมุมมันก็ไปคนละมาตราคนละทิศ แต่ใครจะคิดอย่างไรก็เสนอกันไปก็แล้วกัน” 

ส่วนกรณีนายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพปชร. ระบุจะไม่สนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญนอกเหนือจากที่พรรคพปชร. เสนอ 5 ประเด็น 13 มาตรานั้น รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่รู้ว่านายไพบูลย์พูดเช่นนั้นจริงหรือไม่ ที่พูดก็คงหมายถึงเขาคนเดียว ถ้านายไพบูลย์แถลงก็เป็นกลุ่มของนายไพบูลย์ ไม่ใช่ร่างของรัฐบาล ถ้าเป็นร่างของรัฐบาลต้องให้โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นคนแถลง 

เมื่อถามกรณี นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ออกมาชุมนุมในนาม “สามัคคีประชาชน เพื่อประเทศไทย” เพื่อต้องการให้รัฐบาลแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ได้มองไม่ทราบ 

เมื่อถามว่า ผู้ชุมนุมมองว่ารัฐบาลนิ่งเฉยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญจนทำให้ความขัดแย้งลุกลามมาถึงปัจจุบัน นายวิษณุ กล่าวว่า “รับทราบ ไม่รู้ แต่ตอบไม่ถูก จะแย่ลงหรือไม่อยู่ที่การประเมิน อย่างน้อยผมก็ฟังคนหนึ่ง เมื่อฟังแล้วก็ต้องคิด ถาม เขียน หรือ สุ จิ ปุ ลิ ส่วนจะนำไปพูดคุยในครม. ต่อหรือไม่นั้น ผมยังไม่ได้คิด เพราะมาถามกะทันหันจึงยังไม่ได้คิดนึกไม่ออก” 

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายจตุพร ออกมาขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหมด้วย นายวิษณุ กล่าวว่า ก็ยังไม่ทันได้คิด แต่สิ่งที่เขาเรียกร้องมารัฐบาลต้องฟังอยู่แล้ว อย่างน้อยผ่านหูผ่านตามาก็ต้องรู้ว่าเขาคิดอย่างไรแล้วคนที่เกี่ยวข้องก็ต้องไปประเมินตนก็อาจตอบไม่ถูกในเรื่องนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนโยบายเร่งด่วนข้อ 12 ของรัฐบาลมีเนื้อหาว่า สนับสนุนให้มีการศึกษาการรับฟังความเห็นของประชาชนและการดำเนินการเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ.