ปรับไลฟ์สไตล์การพักผ่อนเพื่อเติมเต็มสุขภาพที่ดี ล่าสุด ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับได้ออกมาเผยเกี่ยวกับสาเหตุของการอดนอน และการนอนหลับปุ๋ยตลอดทั้งคืน รวมถึงเหตุผลว่าทำไมการนอนหลับจึงมีประโยชน์ต่อสุขภาพ
“ดร.เจเน็ท เคนเนดี” นักจิตวิทยาจากคลินิกสุขภาพการนอน อย่าง “NYC Sleep Doctor” บอกว่า “เมื่อเราอายุมากขึ้น ก็มักจะมีหลายสาเหตุที่ทำให้เรานอนหลับได้ยากขึ้นกว่าตอนที่เรายังเด็กและล้มตัวลงนอนและหลับไปในทันที ทั้งนี้มีหลายปัจจัย อาทิ “การใช้เทคโนโลยีก่อนเข้านอน” ซึ่งถือเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนนอนหลับยาก เนื่องจากปัจจุบันนั้นคนมักจะติดการเล่นโทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ มากขึ้น ดังนั้นถ้าต้องการนอนหลับสนิท แนะนำให้วางอุปกรณ์สมาร์ทโฟนเหล่านี้ไว้ที่ห้องอื่นก่อนเข้านอน เพราะไม่เช่นนั้นหลายคนมักจะตื่นขึ้นมาเลื่อนดูมือถือในตอนดึก กระทั่งการนอนดึกเพราะคุณชอบซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านทางมือถือ เพราะอย่าลืมว่าแสงสีฟ้าที่ส่องสว่างจากมือถือของคุณ หรือแม้แสงสีฟ้าที่ได้จากความสว่างของทีวี ก็จะทำให้คุณนอนไม่หลับ เนื่องจากแสงสีดังกล่าวจะทำให้สมองคิดว่าคุณกำลังตื่น นั่นจึงทำให้คุณนอนไม่หลับนั่นเอง
นอกจากนี้ “ความเครียด” ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เรานอนไม่หลับ เช่น การที่ตารางงานของคุณแน่นเอี๊ยด รวมถึงภาระหน้าที่ในการดูแลครอบครัว นั่นจึงทำให้คุณต้องใช้ความคิด เพื่อบริหารจัดการเรื่องต่างๆ จนกระทั่งถึงเวลาล้มตัวนอน ก็อดที่จะกลับมาคิดถึงปัญหาที่ต้องแก้ไข รวมถึงเรื่องที่ต้องทำให้สำเร็จลุล่วงอีกครั้ง นั่นจึงทำให้คุณนอนไม่หลับ ทั้งนี้ มีการสำรวจซ้ำเกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้คุณนอนไม่หลับอีกครั้ง ผู้เข้าร่วมการทดสอบก็ตอบคล้ายกันว่า ความเครียด ที่มาจากปัญหาเรื่องเงิน การทำงาน และความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว เป็นสิ่งที่ทำให้คุณนอนไม่หลับ
ที่ลืมไม่ได้โดยเฉพาะอากาศบ้านเราที่ร้อนระอุ นับเป็นสาเหตุที่ทำให้ “อุณหภูมิในร่างกายสูงเกินไป” หรือการที่คุณรู้สึกร้อนและมีเหงื่อออกซึม ในช่วงเวลากลางคืน นั่นจึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คนวัยผู้ใหญ่ที่อายุเข้าเลข 3 นั้น รู้ว่านอนไม่หลับ พูดง่ายๆ ว่าความร้อนในร่างกายเป็นตัวทำลายอาการง่วงเหงาหาวนอนของคุณนั่นเอง และจากผลการสำรวจอื่นๆ ที่มีผลต่อการนอนหลับของคุณอย่างการใส่ชุดนอนที่อึดอัด หรือชุดชั้นในแบบเต็มตัว หรือชุดชั้นในกระชับสัดส่วน ก็มีผลต่อการนอนหลับเช่นกัน และอีกร้อยละ 57 บอกว่าพฤติกรรมการสวมใส่เครื่องนอนที่รัดรูปร่าง จะทำให้คุณนอนดิ้นไปมาด้วยความกระสับกระส่าย เพราะไม่สามารถบังคับตัวเองให้หลับตาลงได้ นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมทดลองได้ออกมาระบุว่า ปัจจัยความเครียดนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้นอนไม่หลับคิดเป็นร้อยละ 36 แล้ว พวกเขายังบอกอีกว่า การนอนหลับไปด้วยความทุกข์อันเนื่องจากความร้อนของร่างกาย และมีเหงื่อซึมตลอดทั้งคืนนั้น ไม่เพียงส่งผลต่อการพักผ่อนที่อาจจะไม่หลับสนิทแล้ว แต่ยังทำให้ฮอร์โมนในร่างกายผิดปกติอีกด้วย เช่น ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงหรือต่ำมากกว่าปกติ แม้ว่าบางคนจะรับประทานยารักษาโรคบางชนิด ที่ทำให้มีเหงื่อออกในช่วงเวลากลางคืนก็ตาม ทั้งนี้ ผลการสำรวจเกี่ยวกับการนอนของบริษัทผู้ผลิตชุดชั้นอย่าง Soma ได้เปิดเผยว่า การเป็นคนขี้ร้อนเป็นปัญหาหนึ่งของการนอนหลับ หรือทำให้นอนไม่หลับ ที่พบได้บ่อยกว่าการนอนกรน (ซึ่งมีเพียง 24 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ที่บอกว่าการนอนกรนทำให้นอนไม่หลับ)
“ดร.เจเน็ท เคนเนดี” นักจิตวิทยาจากคลินิกสุขภาพการนอน บอกอีกว่า “การนอนหลับให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นหรือดีมากขึ้น อันดับแรกนั้นจะต้องปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์การนอน เพื่อทำให้ห้องนอนของคุณน่านอนมากยิ่งขึ้น รวมถึงดูปลอดโปร่งโล่งสบาย เพราะอันที่จริงแล้วห้องนอนของคุณควรเป็นสถานที่พักผ่อนในช่วงเวลากลางคืน ที่แสนจะสะดวกสบายและดูปลอดโปร่ง เพื่อทำให้คุณผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้า และถ้าห้องของคุณรกหรือวุ่นวาย มันจะส่งผลต่อการนอนหลับของคุณ ดังนั้นการสร้างกิจวัตรก่อนนอน เป็นสิ่งที่มีประโยชน์อย่างยิ่ง เช่น การนั่งทำสมาธิเป็นเวลา 30 นาทีก่อนเข้านอน การอ่านหนังสือเป็นประจำทุกวัน การอาบน้ำอุ่นก่อนเข้านอนประมาณ 1 ชั่วโมง หรือการออกกำลังกายเบาๆ โดยการยืดเหยียดตัวก่อนนอน เพื่อทำให้ร่างกายผ่อนคลายก็จะช่วยทำให้นอนหลับได้ดีขึ้น หรือหากคุณเป็นคนขี้ร้อน ที่ชอบตื่นกลางดึก เพราะรู้สึกร้อนและเหงื่อออก แนะนำว่าให้เลือกซื้อที่นอนหรือชุดเครื่องนอนที่ช่วยระบายอากาศ และระบายความร้อนได้ดี และถ้าจะให้ดีนั้นควรเปิดแอร์ที่อุณหภูมิประมาณ 20 องศาเซลเซียส ก็จะช่วยทำให้นอนหลับสบายได้มากขึ้น”.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |