ผู้ประท้วงชาวเมียนมาตกแต่งไข่ต้มด้วยข้อความต่อต้านรัฐประหารให้เข้ากับวันอีสเตอร์ของชาวคริสเตียนเมื่อวันอาทิตย์ ทางการยังปราบปรามฆ่าผู้ประท้วงต่อเนื่องแม้กองทัพอ้างใช้ความอดกลั้นถึงที่สุดแล้ว บริษัทพลังงานโททาลยืนยันไม่หยุดผลิตก๊าซและไฟฟ้า กลัวกระทบลูกจ้างและประชาชนโดยรวม

ชาวเมียนมาสวมหน้ากากชูสัญลักษณ์สามนิ้วขณะชุมนุมประท้วงต้านรัฐประหารที่นครย่างกุ้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 เมษายน 2564 (Photo by Stringer/Anadolu Agency via Getty Images)

    แม้ประชากรส่วนใหญ่จะเป็นชาวพุทธ แต่ผู้ประท้วงต่อต้านรัฐประหารในเมียนมาได้จัดกิจกรรมวาดไข่ต้มเป็นไข่อีสเตอร์ในวันอาทิตย์ ให้เข้ากับวันอีสเตอร์ของชาวคริสต์ โดยผู้ประท้วงเขียนข้อความทางการเมือง เช่น "เราต้องชนะ" และ "มอล ออกไป" โดยหมายถึงมิน อ่อง หล่าย แล้วนำไข่นั้นไปวางไว้หน้าบ้านของเพื่อนบ้านหรือแขวนไว้หน้าบ้าน บางคนนำออกแจกจ่าย

    ภาพที่โพสต์ทางโซเชียลมีเดียมีรูปไข่ต้มวาดรูปคล้ายนางอองซาน ซูจี ชูสัญลักษณ์สามนิ้ว บางใบเขียนว่า "ประชาธิปไตย" และ "ช่วยประชาชน"

    ผู้ประท้วงชาวย่างกุ้งคนหนึ่งบอกกับเอเอฟพีว่า ตนเป็นชาวพุทธ แต่ร่วมการรณรงค์นี้เพราะเป็นวิธีที่ง่าย ตนใช้เวลาเกือบชั่วโมงตกแต่งไข่หลายใบ

    กลุ่มเฟซบุ๊กกลุ่มหนึ่งที่ชักชวนให้ประท้วงไข่ได้ขอให้ประชาชนเคารพประเพณีวันอาทิตย์อีสเตอร์ของชาวคริสต์ด้วย ส่วนพระคาร์ดินัลชาร์ลส์ โบ ซึ่งเป็นนักบวชคาทอลิกตำแหน่งสูงที่สุดของเมียนมา โพสต์ข้อความวันอีสเตอร์ทางทวิตเตอร์ว่า "พระเยซูทรงฟื้นคืนพระชนม์ชีพ ฮาเลลูยา เมียนมาจะฟื้นคืนชีพอีกครั้ง"

    วันอาทิตย์ยังคงมีการชุมนุมประท้วงในหลายเมืองทั้งภาคเหนือ ภาคกลางและภาคใต้ หลังจากกองกำลังความมั่นคงยังคงสังหารผู้ประท้วงอีกในวันเสาร์อย่างน้อย 4 คนที่เมืองพะโคและโมนยวา โดยสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง (เอเอพีพี) กล่าวว่า ถึงคืนวันเสาร์ มีคนเสียชีวิตในการปราบปรามแล้ว 557 คน

ผู้ประท้วงจับกลุ่มหารือกันพร้อมกับอาวุธดัดแปลงเพื่อใช้ต่อกรกับกองกำลังความมั่นคงเมียนมาที่นครย่างกุ้งเมื่อวันเสาร์ที่ 3 เมษายน 2564

    หนังสือพิมพ์เมียวดีของทางการเมียนมารายงานเมื่อวันอาทิตย์ว่า รัฐบาลทหารยืนกรานว่ากองกำลังความมั่นคงกำลังใช้ความอดกลั้นถึงที่สุดแล้วในการรับมือกับการประท้วง

    เอเอพีพีเผยด้วยว่า ถึงขณะนี้มีพลเรือนถูกควบคุมตัวไว้ทั่วประเทศอย่างน้อย 2,658 คน ทางการเมียนมายังได้ออกหมายจับคนมีชื่อเสียง ทั้งนักร้อง, นายแบบนางแบบ และผู้มีอิทธิพลทางโซเชียลมีเดีย รวมเกือบ 40 คน ภายใต้กฎหมายต่อต้านการยุยงให้เกิดความขัดแย้งในกองทัพ ซึ่งมีโทษจำคุก 3 ปี บุคคลในรายชื่อเหล่านี้ส่วนใหญ่อยู่ระหว่างหลบซ่อนตัว

    ผู้ที่ถูกควบคุมตัวไปยังรวมถึงผู้หญิง 4 คนและผู้ชาย 1 คนที่ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็นที่ย่างกุ้ง สื่อท้องถิ่นกล่าวว่า พวกเขาชูสัญลักษณ์ 3 นิ้วขณะพูดคุยกับซีเอ็นเอ็นในย่างกุ้งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โฆษกของซีเอ็นเอ็นกล่าวว่า สถานีรับรู้เกี่ยวกับรายงานข่าวการควบคุมตัว เรากำลังกดดันทางการเพื่อขอข้อมูลเรื่องนี้ และขอให้ปล่อยตัวพวกเขาอย่างปลอดภัย

    ขณะเดียวกัน กลุ่มกบฏติดอาวุธ 10 กลุ่มจัดการพูดคุยกันทางออนไลน์เมื่อวันเสาร์เกี่ยวกับวิกฤติของเมียนมา เพิ่มความหวั่นเกรงว่าจะเกิดความขัดแย้งที่กว้างขึ้น แม้สัปดาห์ที่ผ่านมารัฐบาลทหารจะประกาศหยุดยิงกับกลุ่มติดอาวุธชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์ต่างๆ นาน 1 เดือน

    อีกด้านหนึ่ง โททาล บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่จากฝรั่งเศส ประกาศเมื่อวันอาทิตย์ว่า บริษัทจะไม่หยุดผลิตก๊าซในเมียนมา โดยปาทริก ปูยาน หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า โททาลมีหน้าที่รับผิดชอบที่ต้องทำที่เมียนมา บริษัทอย่างโททาลสามารถตัดสินใจตัดไฟฟ้าที่ส่งให้ประชาชนหลายล้านคน ซึ่งจะขัดขวางการทำงานของโรงพยาบาลและธุรกิจต่างๆ ได้หรือ

    ผู้บริหารของโททาลกล่าวว่า เขาเดือดดาลกับการกดขี่ปราบปรามในเมียนมา แต่จะปฏิเสธการดำเนินการที่ก่ออันตรายต่อลูกจ้างของบริษัทในเมียนมาและประชากรชาวพม่าที่ได้รับความเดือนร้อนมากอยู่แล้ว

    บริษัทต่างชาติหลายแห่งประกาศตัดความสัมพันธ์หรือระงับการดำเนินธุรกิจในเมียนมา รวมถึงเบเนตอง แบรนด์แฟชันจากอิตาลี และเอชแอนด์เอ็ม จากสวีเดนที่ระงับคำสั่งใหม่ทั้งหมดจากเมียนมา ส่วนกลุ่มพลังงานการไฟฟ้าแห่งฝรั่งเศส (อีดีเอฟ) ระงับกิจกรรมซึ่งรวมถึงโครงการสร้างเขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำมูลค่า 1,500 ล้านดอลลาร์.