รวบแก๊งอินเดียลักบัตรสาวไทยจดทะเบียน 


เพิ่มเพื่อน    

    จับแก๊งอินเดียขโมยบัตรประชาชนหญิงไทยไปจดทะเบียนสมรสเพื่อใช้สิทธิอยู่ในประเทศ คาดมีผู้ตกเป็นเหยื่อถึง 300 ราย ช่วยได้แล้ว 13 ราย เผยตรวจพบข้าราชการกังฉินให้การช่วยเหลือ ถูกไล่ออกแล้ว 3 ราย
    ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันที่ 23 พฤษภาคมนี้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว, พล.ต.ต.ประเสริฐ เงินยวง ผบก.ทท.1, พล.ต.ต.ชูฉัตร ธารีฉัตร ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1, พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบก.ทท.1 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายปราบาห์การ์ ซิงห์, นายริเตซ กูมาร์, นายแมนจี๊ต มาลลาห์ และเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร จำนวน 5 ราย มีนายสุรัช ปรากาศ ซิงห์, นายราจู ชาร์มา, นายไชเรซ กูมาร์ ทริปาตี, นายวิเจนดรา นิชาร์ด, นายบาจัน นิชาร์ด
    พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มอบหมายให้กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี ผบช.ทท.และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น  ผบช.สตม. ดำเนินการปราบปรามกลุ่มองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติที่กระทำความผิดและส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มที่มีพฤติการณ์เป็นภัยต่อสังคม ก่อให้เกิดอันตรายต่อความสงบสุข หรือความปลอดภัยของประชาชน หรือความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ประกอบกับได้รับการร้องเรียนจากหญิงไทยหลายราย ที่พบว่าตนเองมีรายชื่อจดทะเบียนสมรสกับชาวอินเดีย โดยที่ตนไม่เคยจดทะเบียนสมรสมาก่อน และไม่รู้จักชาวอินเดียที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนสมรสแต่อย่างใด
    จึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวน บช.ทท.และชุดสืบสวน สตม. ประสานกับ อ.วังม่วง จ.สระบุรี ทำการตรวจสอบ และพบว่ามีรายชื่อหญิงไทยจำนวน 300 ราย ที่อาจจดทะเบียนสมรสกับชาวอินเดียโดยมิชอบหรือโดยอำพราง และต่อมามีชาวอินเดียบางรายนำทะเบียนสมรสที่ได้ออกโดยส่วนราชการโดยมิชอบด้วยกฎหมายนั้น ไปใช้ในการยื่นขออยู่ต่อในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว โดยอ้างเหตุในการขออยู่ต่อเพื่ออุปการะภรรยา หรือเยี่ยมคู่สมรสชาวไทย ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นเหตุให้ต้องเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร จากปฏิบัติการในครั้งนี้สามารถจับกุมชาวอินเดียซึ่งเคยใช้ทะเบียนสมรสที่ได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด
     พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ช่วยเหลือพาผู้หญิงไทยซึ่งมีรายชื่อเป็นคู่สมรสของชาวอินเดียไปทำการเพิกถอนการจดทะเบียนสมรสที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายดังกล่าวแล้ว จำนวน 13 ราย และอยู่ในระหว่างการประสานติดตามผู้ที่มีรายชื่อตกเป็นคู่สมรสโดยที่ตนเองไม่ทราบเรื่องดังกล่าว มาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ อ.วังม่วง จ.สระบุรี เพื่อดำเนินการเพิกถอนการจดทะเบียนสมรสที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายต่อไป
    นอกจากนี้ ตำรวจท่องเที่ยวยังมีการขยายผลตรวจสอบรายชื่อบัตรประชาชนหญิงไทยมากกว่า 2,000 ราย ที่ถูกปลัด อ.วังม่วง จ.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ธุรการ รวม 3 ราย ร่วมกันทุจริตนำรายชื่อ อาทิ สำเนาการกู้ยืมเงิน หรือรายชื่อที่ถูกคนใกล้ชิดนำไปส่งต่อ จดทะเบียนสมรสโดยมิชอบ ก่อนส่งกลับไปให้เพื่อรับเงินค่านายหน้ารายชื่อละ 2,000 บาท ซึ่งขณะนี้ผู้กระทำผิดทั้ง 3 ราย ถูกไล่ออกจากราชการตั้งแต่ปี 2558.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"