3 เม.ย.64 - ที่โรงแรมสีมาธานี อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน กล่าวที่ จ.นครราชสีมา ถึงการเคลื่อนไหวของนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.และพวกประกาศการชุมนุมขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในวันที่ 4 เม.ย. ซึ่งหลายฝ่ายมองว่ามีเบื้องหลังว่า ตนดูแล้วมันไม่ใช่องค์กร นปช. เพราะนายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ , นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ เป็นอีกทีมหนึ่งที่ไปเปิดศูนย์ยูดีดี ก็ไม่ได้เข้าร่วมและไม่ได้เกี่ยวข้องกับนายจตุพรแต่อย่างใด แต่เขาไปพบนายพิภพ ธงไชย อดีตแกนนำพันธมิตร และนายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานญาติวีรชน ซึ่งก็เรารู้อยู่แล้วว่าคนพวกนี้ประวัติความเป็นไปมาอย่างไร แต่เราก็ยืนยันในฐานะที่เป็นเกลอเก่า ตนก็ไม่รู้ว่านายจตุพรไปกินยาขนานไหนหรือกินยาผิดอะไรมา เพราะตอนที่ออกมาจากเรือนจำก็พูดชัดเจนว่า ตราบใดที่เขายังอยู่ใต้ร่มพระบรมโพธิ์สมภารของในหลวงรัชกาลที่ 10 ได้พูดหลายครั้งว่าจะไม่มีการชุมนุม และรับปากกับผู้ใหญ่หลายคนว่าจะไม่ออกมาขับเคลื่อนขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

นายเสกสกล กล่าวอีกว่า ตนมีพยานมีบุคคล และมีความเดือดร้อนอะไรก็มาบอกตนและบอกผู้ใหญ่ให้ช่วยเหลือดูแล ซึ่งผู้หลักผู้ใหญ่ก็ช่วยเหลือดูแลตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา และก็รับปากกันแล้วว่าจะไม่มีการเคลื่อนไหวขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ ตนยืนยันว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นคนมีสัจจะ มีความจริงใจ แม้กระทั่งการที่รัฐบาลได้ผ่านมติ ครม.ในการเสนออภัยโทษต่อในหลวงรัชกาลที่ 10 ในการช่วยเหลือให้แกนนำของ นปช. และแกนนำทุกสีเสื้อได้รับพระราชทานอภัยโทษ ก็มีหลายคนที่ออกมาจากเรือนจำ ซึ่งก็ทราบกันอยู่ว่าพล.อ.ประยุทธ์มีความจริงใจช่วยเหลือแกนนำทุกสีเสื้อ ใครที่ติดคุกติดตะรางพอมีอายุมาก ทางกระทรวงยุติธรรมเสนอมาโดยผ่าน ครม. พล.อ.ประยุทธ์ก็เห็นชอบและเสนอโปรดเกล้าฯรับพระราชทานอภัยโทษ ไม่ว่าจะเป็น หมอเหวงฯ , วีรการ มุกสิพงษ์ , วิทูรฯ และอีกหลายคนที่ไม่ได้เอ่ยชื่อที่ให้การดูแลมีความจริงใจให้กับทุกสีเสื้อ เพราะวันนี้ประเทศไทย พล.อ.ประยุทธ์ไม่ต้องการเห็นสีเสื้อไม่ต้องการเห็นความตกแยกอีกต่อไป

นายเสกสกล กล่าวว่า เรื่องแก้ รธน. เป็นเรื่องของรัฐสภา เป็นเรื่องของ ส.ส. ส.ว. แล้วนายกฯไปเกี่ยวอะไร และอะไรๆก็มาโยนให้พล.อ.ประยุทธ์ นายจตุพรกล่าวหานายกฯตระบัดสัตย์ในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายจตุพรเองนั่นแหละตระบัดสัตย์ ก็เป็นคนพูดเองว่า จงรักภักดี จะปกป้องสถาบัน มารับผ้าพันคอพระราชทาน หมวกพระราชทาน จิตอาสา คุณเองยืนยันว่า ภายใต้ร่มพระบรมโพธิ์สมภารของในหลวงรัชกาลที่ 10 มีผู้ใหญ่หลายคนเล่าให้ตนฟัง ตนก็ได้ยินกับหูว่า คุณจะไม่เคลื่อนไหว ไม่ชุมนุมทางการเมือง จะไม่เป็นแกนนำทางการเคลื่อนไหวในการขับไล่รัฐบาล หรือมาเป็นแกนนำในการก่อม็อบลงถนนอีก

"วันนี้มีพี่น้องแกนนำหลายจังหวัด หลายภาคเขาเห็นแล้วว่าพฤติกรรมที่ผ่านมาของแกนนำ นปช.ในอดีตสู้แล้วรวยอย่างไร พี่น้องคนเสื้อแดงติดคุกติดตะรางเคยไปเยี่ยมไปเยือนเคยไปดูแลเขามั้ย ค่าประกัน ค่าทนายความเคยไปดูแลเขามั้ย ครอบครัวแตกแยกเดือดร้อน โดนคดีมากมายเคยไปเยี่ยมเยียนดูแลเขามั้ย แต่แกนนำหลายคนสุขสบาย เป็นทั้ง ส.ส. เป็นทั้งรัฐมนตรี พอสู้แล้วขอตำแหน่ง สู้แล้วอยากเป็นรัฐมนตรี สู้แล้วทะเลาะกัน อยากอยู่ลำดับบัญชีรายชื่อที่ดีๆ อย่างนี้เป็นต้น"

นายเสกสกล กล่าวว่า พี่น้องประชาชนออกมาต่อสู้เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยล้มหายตายจากกันมากมายนับร้อยๆศพ คุณดูแลครอบครัวเขาบ้างมั้ย สิ่งต่างๆเหล่านี้คนเสื้อแดงรู้เช่น เห็นชาติหมดแล้วว่า พฤติกรรมของแกนนำในการต่อสู้ ไม่ได้ต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน ไม่ได้ต่อสู้เพื่อความเป็นประชาธิปไตย ไม่ได้ต่อสู้เพื่อปกป้อง ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ แต่สู้เพื่อหวังผลประโยชน์ในตำแหน่งของตัวเองเพื่อให้กับพรรคการเมืองที่สนับสนุน เพื่อให้กับนายตัวเองเก่าตัวเองเพื่อให้กลับมาครองอำนาจ มามีอำนาจ มาเป็นนายกรัฐมนตรี มาโกงกินบ้าน โกงกินเมือง แล้วมาแสวงหาผลประโยชน์ให้กับตัวเอง นี่คือสิ่งที่เราเห็น คนเสื้อแดงในอดีตเห็น จึงเห็นว่าบรรยากาศของคนเสื้อแดงในภาคอีสาน คนเสื้อแดงในภาคเหนือและภาคอื่นเริ่มทยอยออกมาว่าจะไม่เข้าร่วมชุมนุมในวันที่ 4 เม.ย.นี้กับนายจตุพร