ปตท.ลุยเจรจาโมซัมบิก ทำสัญญาซื้อแอลเอ็นจีแบบยืดหยุ่นปลายทาง ผันตัวเองเป็นดีลเลอร์ส่งออกประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมปรับประมาณการณ์ราคาน้ำมันดิบดูไบทั้งปีที่ 65-70 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทได้มีการหารือกับทางรัฐบาลโมซัมบิกในการเจรจาสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติเหลว(แอลเอ็นจี) โดยต้องการให้มีความยืดหยุ่นจากสัญญาเดิมเพิ่มขึ้นในกรณีของประเทศส่งออกปลายทางที่ ปตท. นำเข้ามาและสามารถส่งไปขายในประเทศอื่น ๆ ได้ ในลักษณะเป็นดีลเลอร์ เหมือนกับตลาดน้ำมัน ซึ่งปัจจุบันต้องติดตามความชัดเจนของรัฐบาลฝ่ายไทย ว่าจะมีการอนุมัติในแนวไหน โดยสัญญาซื้อขายยังตั้งเป้าให้เป็นระยะยาว(ลองเทิร์ม)ระยะเวลา 15-20 ปี ในจำนวน 2.6 ล้านตันต่อปี
"ตลาดแอลเอ็นจีจะเริ่มโตขึ้นเรื่อย ๆ จนใกล้เคียงกับตลาดน้ำมัน ซึ่งหาก ปตท. สามารถนำเข้าและขายให้กับประเทศอื่นได้ ลูกค้าของเราคือประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนมา กัมพูช อินโดนีเซีย มาเลเซีย เพราะประเทศเหล่านี้มีความต้องการใช้แอลเอ็นจีมาใช้ผลิตไฟฟ้าในประเทศ ทั้งนี้สัญญาซื้อขายแอลเอ็นจีที่ ปตท. มีอยู่ในปัจจุบันคือ สัญญากับกาต้า 2 ล้านตันต่อปี สัญญากับบริษัท เชลล์ บีพี 2 ล้านตันต่อปี และบริษัท ปิโตรนาส 1.2 ล้านตันต่อปี รวมเป็น 5.2 ล้านตัน"นายเทวินทร์ กล่าว
ขณะเดียวกันบริษัท ยังมีการปรับประมาณการณ์ราคาน้ำมันดิบดูไบปีนี้ที่ระดับ 65-70 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จากเดิมคาดว่าจะอยู่ระดับ 53-55 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ปัจจัยหลักที่มาจากการเมืองระหว่างประเทศระหว่างสหรัฐอเมริกาและอิหร่าน ความร่วมมือในการลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน(โอเปค) และการผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน(เชลล์ออยล์)ที่มีการผลิตลดลงเนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานในการขนส่งทางท่อที่จำกัดจึงไม่สามารถเพิ่มกำลังผลิตได้ ราคาตลาดโลกจึงอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |