'จูราสสิก ปาร์ก' ภาค OctDem


เพิ่มเพื่อน    

     ไม่ตื่นเต้น....

                แค่ร้อง "อุ๊ย..." ในใจ!

            ที่ "ศาลปกครองกลาง" สั่ง "ยกเลิกคำสั่ง" ที่ให้ยิ่งลักษณ์ชดใช้เงิน ๓.๕ หมื่นล้านบาท "เรื่องข้าว" สมัยเป็นนายกฯ

            พร้อมทั้ง "เพิกถอนคำสั่ง" การยึด-อายัดทรัพย์ด้วย เมื่อวาน (๒ เม.ย.๖๔)

            เพราะข่าวมาถึงหูผมล่วงหน้า ๓-๔ วันก่อนแล้ว!

            หนัง "ต้นม้วน" น่ะครับ

            ไว้ตามดูตอนจบในชั้น "ศาลปกครองสูงสุด" เพราะยังไงๆ ฝ่ายรัฐต้องอุทธรณ์ภายใน ๓๐ วัน อยู่แล้ว

            แต่รายนี้ ทีแรกตื่นเต้น เมื่อเห็นหัวข่าวในโซเชียล "ศาลให้ประกันโตโต้"

            แต่พออ่านเหตุผลที่ศาลให้ประกัน ก็เข้าใจ

            ".........ทั้งนี้ สอบถามพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน แล้ว ทราบว่าการสอบสวนคืบหน้าไปมาก

                โดยได้สอบปากคำพยานเป็นเจ้าพนักงานตำรวจไปแล้วจำนวน ๔ ปาก

                เมื่อพิจารณาจากการสอบสวนแล้ว ขณะนี้มีความชัดเจนเพียงข้อหาสมคบกันตั้งแต่ ๕ คนขึ้นไปฯ เพื่อก่อความวุ่นวาย ซึ่งมีอัตราโทษน้อย

                และจะต้องสอบสวนต่อไปว่า กระทำความผิดฐานเป็น 'อั้งยี่และซ่องโจร' หรือไม่?

                จึงเห็นควรให้ 'ปล่อยชั่วคราว'

                โดยให้วางหลักทรัพย์จำนวน ๔๕,๐๐๐ บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไข ว่า

                ห้ามพกพาอาวุธไปในการชุมนุม หรือนำอาวุธไปทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ"

            คือตำรวจตั้งข้อหาโตโต้ในความผิด "อั้งยี่-ซ่องโจร" ซึ่งมีอัตราโทษสูง "จำคุกไม่เกิน ๗ ปี"

            ศาลจึงไม่อนุญาตให้ประกันทีแรก ตอนตำรวจฝากขัง

            แต่เมื่อไต่สวนคำร้องที่ยื่นขอประกันต่อมา ก็พบว่า....

            การสอบสวนของตำรวจ ชัดเจนแค่สมคบตั้งแต่ ๕ คนขึ้นไปก่อความวุ่นวาย โทษไม่สูง อัตราโทษจำคุกแค่ปี-ครึ่งปี

            ศาลจึงอนุญาตให้ประกัน

            แต่ไม่ได้หมายความว่า โตโต้ จะถูกแค่ข้อหา "สมคบกว่า ๕ คนก่อความวุ่นวาย" นะ

            ศาลบอกให้ตำรวจสอบสวนต่อไปให้ได้ความชัดเจนว่า  การสมคบกันกว่า ๕ คนของโตโต้นั้น เข้าข่ายเป็น "อั้งยี่-ซ่องโจร" อย่างไร?

            ถือเป็นการบ้านที่พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธินต้องทำ ถ้าจะมัดโตโต้ให้อยู่ ในข้อหาอั้งยี่-ซ่องโจร

            ต้องไปสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานมาให้เข้าองค์ประกอบความผิดฐานอั้งยี่-ซ่องโจรให้ครบถ้วน

            แต่ดูเหมือนโตโต้จะเนื้อหอม......

            ได้ประกันปุ๊บ โรงพักต่างๆ จองตัวต่อปั๊บ ด้วยข้อหาตามมาตรา ๑๑๒ ก็มี

            ความผิดตามมาตรา ๑๑๒ "ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่  ๓ ปี ถึง ๕ ปี" ถือเป็นโทษสูง

            เมื่อเป็นโทษสูง........

            การประกันตัวไม่ง่ายเหมือนโทษน้อยๆ แต่จะได้ประกันหรือไม่ ขึ้นอยู่กับ "พฤติกรรมผู้ต้องหา" ด้วย ศาลจะพิจารณาตรงนี้ประกอบ

            เพราะมาตรา ๑๑๒ โทษสูง "ประกันยาก" นี่แหละ เมื่อวาน จึงเกิดจูราสสิก ปาร์ก "กำเนิดไดโนเสาร์" ขึ้นกลางบ้าน-กลางเมือง

            นายชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนายพนัส ทัศนียานนท์ อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์

            ตามด้วย นายเกรียงกมล เลาหไพโรจน์, นายจาตุรนต์  ฉายแสง, นายธเนศ อาภรณ์สุวรรณ, นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช, นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล

            นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี, นายทศพร เสรีรักษ์, นายวรชัย  เหมะ และอีกหลายคน พวก ๖ ตุลาส่วนใหญ่

            ไปรวมตัวกันที่ลานสวนประติมากรรมประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ตอนบ่าย

            ไม่ได้ไปปลงสังขารหรือไปรำลึกคุณทักษิณ?   

            แต่ไปจัดกิจกรรมเปิดตัวกลุ่ม OctDem หรือ "กลุ่มคนเดือนตุลาเพื่อประชาธิปไตย"

            เรียกว่า พอจนแต้ม-จนทาง ก็เอาหางแหย่น้ำ คำว่า "ประชาธิปไตย" ไว้ก่อน

            กิจกรรมอ๊อกเดม คือ "เรียกร้องให้ศาลพิจารณาอนุญาตประกันตัวแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม"

            ก็เพนกวิน รุ้ง อานนท์ ไมค์ ใครต่อใครในขบวนการสามสัส ที่จ้วงจาบองค์พระมหากษัตริย์ และอยู่ในคุกระหว่างคดีนั่นแหละ

            รุ่นเล็ก-รุ่นกลาง-รุ่นใหญ่ สำแดงเดชให้ "ปล่อยเพื่อนกู" ไปหลายรอบแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ประกัน

            คราวนี้ รุ่น "จูราสสิก ปาร์ก" "ลากสังขาร" ออกมาประจานหน้ากันจะจะไปเลย

             เฒ่าชาญวิทย์ เฒ่าพนัส วางช่อดอกไม้บนประติมากรรมรำลึกเหตุการณ์ ๖ ตุลา เสร็จแล้ว    

            จานธรรมศาสตร์ "นายธเนศ" อ่านแถลงการณ์

            “ตามที่นักเรียน นิสิต นักศึกษา เยาวชน และประชาชนผู้รักประชาธิปไตยได้เคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย

                แต่ฝ่ายรัฐได้ใช้อำนาจปราบปรามจับกุมคุมขังพวกเขาไว้ในเรือนจำ

                ปรากฏว่าศาลยุติธรรมไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวหรือประกันตัวพวกเขา โดยเฉพาะแกนนำกลุ่มที่ถูกกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒

                ซึ่งเห็นว่าระบบการปกครองแบบประชาธิปไตยและนิติรัฐนิติธรรมนั้น การที่ศาลยุติธรรมจะพิจารณาพิพากษาอรรถคดีและทำคำสั่งใดๆ

                จะต้องเป็นไปโดยยุติธรรมและตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ยุติธรรม

                การไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวแกนนำของการเคลื่อนไหวประชาธิปไตย เป็นสิ่งที่เรายอมรับไม่ได้

                เชื่อว่าศาลยุติธรรมย่อมต้องเข้าใจและทราบดีว่าหลักการในการปฏิบัติต่อผู้ถูกกล่าวหาในคดีอาญาทุกคดีนั้น

                 คือจะต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเขาเหล่านั้นยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ และจะปฏิบัติต่อเขาเสมือนหนึ่งว่าเป็นผู้ถูกพิพากษาถึงที่สุดว่ามีความผิดแล้วไม่ได้

                เราเชื่อว่าศาลยุติธรรมย่อมเข้าใจดีว่าการแสดงความคิดเห็นเป็นเสรีภาพที่ได้รับการรับรองตามรัฐธรรมนูญและตามกฎหมายสิทธิมนุษยชน

                ....................................

                เราเห็นว่า เหตุผลของศาลยุติธรรมที่ปฏิเสธการปล่อยตัวชั่วคราวบรรดาผู้รักประชาธิปไตยนั้น ไม่สอดคล้องกับหลักการดังกล่าวข้างต้น

                เพราะผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด ยังไม่ได้ถูกศาลตัดสินถึงที่สุดว่าเป็นผู้กระทำความผิดย่อมต้องได้รับการสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นผู้บริสุทธิ์

                มูลคดีทั้งหมดล้วนสืบเนื่องจากการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองตามหลักประชาธิปไตยของนิสิตนักศึกษาที่ถูกดำเนินคดี

                และคดีเช่นนี้ในสภาวการณ์ปกติ อยู่ในเกณฑ์ที่ศาลอาจใช้ดุลยพินิจปล่อยตัวชั่วคราวได้

                เป็นเหตุผลที่ไม่สมเหตุสมผลและไม่ชอบด้วยข้อกฎหมายและความยุติธรรมใดๆ ทั้งสิ้น

                ไม่ว่าการตัดสินของศาลยุติธรรมที่ปฏิเสธไม่ให้ผู้เคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยเหล่านั้น ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวจะมาจากเหตุผลใด

                จะมีเหตุผลจากการถูกบีบบังคับโดยอำนาจนอกระบบหรือเป็นความประสงค์ของศาลยุติธรรมเองก็ตาม

                เราเห็นว่า การตัดสินใจดังกล่าวทำให้เกิดวิกฤติความศรัทธาความเชื่อถือ เชื่อมั่นศรัทธาของประชาชนที่มีต่อศาลยุติธรรมในที่สุด ซึ่งล้วนเกิดจากการกระทำของท่านเองทั้งสิ้น

                เราเชื่อว่า เจตนาที่จะคุมขังผู้เรียกร้องประชาธิปไตยไว้ตลอดการพิจารณาคดี รวมทั้งการขัดขวางของเจ้าหน้าที่รัฐในการที่ไม่ให้พวกเขาเหล่านั้นพบปะกับทนายความก็ดี การจงใจข่มขู่คุกคามยามวิกาลต่อผู้ต้องขังเหล่านั้นก็ดี

                ย่อมไม่อาจขัดขวางการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นได้ด้วยความกังวลใจต่อระบบนิติรัฐในประเทศนี้

                เราหวังที่จะเห็นศาลยุติธรรมที่เป็นอิสระและพิจารณาอรรถคดีต่างๆ ไปด้วยความยุติธรรมและปราศจากอคติ          ปราศจากการครอบงำจากผู้หนึ่งผู้ใดหรือองค์กรใดองค์กรหนึ่ง

                เราขอเรียกร้องอย่างตรงไปตรงมาต่อศาลยุติธรรม ว่าท่านต้องให้โอกาสเขาเหล่านั้นในการต่อสู้คดีอย่างเต็มที่โดยเปิดเผย

                และมีโอกาสแสวงหาพยานหลักฐานต่างๆ มาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของพวกเขาอย่างเต็มที่

                โดยอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวพวกเขาในระหว่างการพิจารณาคดี อันเป็นสิทธิโดยสมบูรณ์ของพวกเขาที่มีอยู่ตามหลักกฎหมายยุติธรรม"

                เอ้อเฮอ....

            กับเจ้า ก็ชนแล้ว กับรัฐบาลก็ชนแล้ว รัฐสภาไม่ต้องชน เพราะมีแนวร่วมชนอยู่แล้ว

            คราวนี้ "จูราสสิก ปาร์ก" ชนศาลเองเลย!

            ก็ล้มมันซะให้ครบทุกสถาบันหลักของชาติไปเลย แล้ว ๔  เมษา คณะจูราสสิก ปาร์ก อย่าลืมยกคณะไปแจมจตุพรเขาล่ะ

            นับถือ..นับถือ....

            (ถุย)!

           

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"