จับตาเวทีอาเซียนซัมมิต ไทยจ่อหาช่องพาเมียนมาพ้นสงครามการเมือง ตม.เผยยอดหนีภัยด่านแม่สะเรียงทะลุกว่า 2พัน ทหารตัดเหี้ยนอินเทอร์เน็ต แกนนำประกาศเตรียมออกถนน ลั่นสู้แบบกองโจร อองซาน ซูจี โดนข้อหาขย้ำซ้ำทำผิด กม.ความลับราชการ โทษหนักคุก 14 ปี
เมื่อวันศุกร์ ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์ในประเทศเมียนมา และการเตรียมความพร้อมอพยพคนไทยกลับประเทศ ว่า เรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ความสำคัญ ซึ่งได้สั่งการและมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการในการทำงานและดูแลพื้นที่ตามชายแดน โดยเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านความมั่นคง เช่น กองทัพบก กระทรวงกลาโหม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ได้บูรณาการทำงานร่วมกัน และได้มีการประสานกับกระทรวงการต่างประเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินสถานการณ์และดูแลผู้หนีภัยเข้ามาตามชายแดนของประเทศไทยด้วย
นายอนุชากล่าวอีกว่า นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เกริ่นว่าภายในเดือนเมษายนนี้จะมีจัดการประชุมอาเซียนซัมมิต และหวังว่าจะสามารถประเมินสถานการณ์ต่างๆ และมีความชัดเจนในท่าทีของอาเซียน รวมถึงการได้รับข้อมูลข่าวสารโดยตรงจากประเทศเมียนมา ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีที่จะทำให้ประเทศในอาเซียนจะเข้าใจสถานการณ์ได้ดีขึ้น และเตรียมความพร้อมในส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องที่ต้องดำเนินการด้วย ส่วนรายละเอียดในการประชุมตอนนี้อยู่ในขั้นเตรียมการที่จะดำเนินการหารือในเดือนเมษายนนี้
ด้านนายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ทั้งนี้ประเทศไทยกำลังทำงานอย่างใกล้ชิดกับประเทศสมาชิกอาเซียน ซึ่งรวมถึงเมียนมาเพื่อให้ได้มาซึ่งสันติภาพที่ยั่งยืนสำหรับประชาชนเมียนมา และเพื่อให้เมียนมากลับสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด มีสันติภาพ เสถียรภาพ ความเป็นปึกแผ่นและความเจริญรุ่งเรือง จะเป็นประโยชน์ไม่เฉพาะสำหรับเมียนมา แต่สำหรับอาเซียนภูมิภาคและนอกภูมิภาคด้วย
นายธานีกล่าวว่า สำหรับการอำนวยความสะดวกให้เดินทางกลับประเทศไทยทางอากาศในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ประจำเดือนเมษายนนี้ สถานเอกอัครราชทูตได้ประสานเที่ยวบินออกจากเมียนมาให้กับประเทศไทยไว้แล้ว 3 เที่ยวบินคือ เที่ยวบินแรกในวันที่ 6 เมษายน จำนวน 2 เที่ยวบิน และในวันที่ 9 เมษายน อีก 1 เที่ยวบิน ซึ่งคนไทยในเมียนมาที่ประสงค์จะเดินทางกลับในเที่ยวบินวันดังกล่าว สามารถแจ้งความประสงค์โดยติดต่อสถานเอกอัครราชทูตตามช่องทางที่ติดต่อเว็บไซต์หรือที่สถานทูต
นายธานีกล่าวว่า ทั้งนี้จำนวนผู้ลี้ภัยชาวเมียนมาตัวเลขนับถึงเมื่อวันที่ 1 เมษายน คงเหลือ 216 คน และมีผู้หนีภัยกลุ่มใหม่เข้ามาอีกจำนวน 951 คน รวมเป็นผู้หนีภัยในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ทั้งสิ้น 1,167 คน ส่วนมากเป็นเด็ก สตรี และคนชรา รวมถึงผู้ป่วย และยังมีการทยอยเดินทางกลับอย่างต่อเนื่อง สำหรับผู้หนีภัยความไม่สะดวกจากการสู้รบในเมียนมาครั้งนี้ มีการเข้า-ออกอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นตัวเลขจึงมีการเปลี่ยนแปลงได้ทุกวัน
พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ยืนยันจากการรายงานของ ตม.แม่ฮ่องสอน พบว่าขณะนี้มีชาวบ้านในฝั่งเมียนมาหนีภัยความรุนแรงทะลักข้ามมาอยู่ในอำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ประมาณ 2,000 คน โดยอยู่ในความดูแลของทางจังหวัด ทาง สตม.จะไม่ดำเนินคดีในข้อหาหลบหนีเข้าเมือง แต่ควบคุมให้อยู่ในพื้นที่ที่ทางการจัดไว้ให้ตามจุดพักตามตะเข็บชายแดน อ.แม่สะเรียง และมี จนท.ดูแลป้องกันโควิด-19 และป้องกันไม่ให้เกิดการฉวยโอกาสหลบหนีเข้าพื้นที่ชั้นใน ส่วนพื้นที่ตะเข็บชายแดนด้านอื่นที่ไม่ใช่จุดปะทะ หากพบการลักลอบหลบหนีเข้าฝั่งไทย สตม.ยืนยันจะจับกุมดำเนินคดีทุกราย
ที่ จ.แม่ฮ่องสอน ผู้จัดการมูลนิธิเครือข่ายสถานะบุคคลและศูนย์พัฒนาเครือข่ายเด็กและชุมชนจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ยื่นหนังสือผ่านสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้รัฐบาลไทยเตรียมพื้นที่รองรับผู้หนีภัยจากการสู้รบ โดยไม่ผลักดันกลับในช่วงนี้ และให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์ เพราะผู้หนีภัยจากการสู้รบมีทั้งเด็ก คนแก่ และผู้ป่วยด้วย
ขณะที่สถานการณ์ความรุนแรงในเมียนมายังคงดำเนินต่อเนื่อง ชาวเมียนมาที่ต่อต้านรัฐบาลทหารยังคงพยายามหาวิธีการใหม่ๆ ในการประท้วง แม้จะเผชิญการปราบปรามอย่างนองเลือด โดยล่าสุดในวันศุกร์ที่ 2 เมษายน รัฐบาลทหารได้ตัดช่องทางการสื่อสารเพิ่มเติมโดยระงับบริหารอินเทอร์เน็ตไร้สายทั่วประเทศ การเชื่อมต่อทางออนไลน์ทำได้แต่บริการอินเทอร์เน็ตบ้านหรือการเชื่อมต่อบรอดแบนด์แบบประจำที่เท่านั้น กองทัพไม่ได้ประกาศหรือชี้แจงเหตุผลในการสั่งผู้ให้บริการตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์แบบไวไฟ ส่วนการส่งผ่านข้อมูลทางโทรศัพท์มือถือในเมียนมาถูกปิดกั้นมานานหลายสัปดาห์แล้ว
รายงานรอยเตอร์กล่าวว่า การควบคุมล่าสุดทำให้กลุ่มต่อต้านรัฐประหารเลือกใช้ช่องทางการสื่อสารแบบอื่น โดยมีการแชร์คลื่นความถี่วิทยุ, แหล่งอินเทอร์เน็ตออฟไลน์ และผู้ให้บริการส่งข่าวผ่านข้อความเพื่อให้การติดต่อระหว่างกันยังดำเนินได้
องค์กรสื่อท้องถิ่น 3 แห่งของเมียนมารายงานว่า วันศุกร์กองกำลังความมั่นคงยิงสลายการชุมนุมที่เขตสะกายใกล้กับเมืองมัณฑะเลย์ มีคนโดนยิงบาดเจ็บ 4 คน สองคนอาการวิกฤติ พยานคนหนึ่งบอกกับโมนยวากาเซ็ตว่าตำรวจยิงลงมาจากเนินเขา หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นฉบับนี้ยังบอกด้วยว่า ที่เมืองตามูติดชายแดนอินเดีย ตำรวจนายหนึ่งที่สนับสนุนการเรียกร้องประชาธิปไตยโดนฆ่าตายจากการปะทะกับกองกำลังความมั่นคงเมื่อวันศุกร์
ที่นครย่างกุ้ง ธนาคารชินฮันของเกาหลีใต้กล่าวว่า มีลูกจ้างชาวเมียนมาของธนาคารคนหนึ่งเสียชีวิตเพราะโดนยิงที่ศีรษะขณะเดินทางด้วยรถตู้เมื่อ 2 วันก่อน ธนาคารกำลังหารือสถานการณ์กับรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ทั่วเมียนมาในวันเดียวกัน ผู้ชุมนุมใช้การ "ประท้วงดอกไม้" โดยวางช่อดอกไม้ทิ้งไว้ตามสถานที่ต่างๆ เช่นม้านั่งและป้ายหยุดรถประจำทาง บางแห่งติดคำขวัญต่อต้านไว้ด้วย บางคนโยนกุหลาบพร้อมทำสัญลักษณ์สามนิ้ว ที่ทางเดินริมทะเลสาบแห่งหนึ่งมีคนนำดอกดาวเรืองและกุหลาบมาวางเรียงกันเป็นข้อความว่า "เมียนมากำลังหลั่งเลือด"
คีน ซาดาร์ แกนนำประท้วง โพสต์เฟซบุ๊กก่อนหน้าโดนปิดสัญญาณว่า ในไม่กี่วันข้างหน้าจะมีการประท้วงบนถนน ขอให้ผู้ชุมนุมมาร่วมกัน และใช้กลยุทธ์โจมตีแบบกองโจรให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ ขอให้ฟังจากวิทยุและโทรศัพท์หากันด้วย ขณะเดียวกัน ยังไม่ชัดเจนว่าการปิดกั้นสัญญาณอินเทอร์เน็ตครอบคลุมเพียงใด แต่มีภาพถ่ายการเดินขบวน, การประท้วงดอกไม้ และงานศพของผู้ประท้วง โพสต์และแชร์ทางโซเชียลมีเดียในวันศุกร์
สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง (เอเอพีพี) กล่าวว่า ถึงวันศุกร์มีคนเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 543 คนนับแต่กองกำลังความมั่นคงปราบปรามผู้ประท้วงต่อต้านรัฐประหารวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 44 คน ขณะที่องค์กรเซฟเดอะชิลเดรนกล่าวว่า ความรุนแรงที่ทวีขึ้นทำให้มีเด็กเสียชีวิตเพิ่มขึ้นเกินเท่าตัวในช่วง 12 วันที่ผ่านมา
เมื่อวันพฤหัสบดี นางอองซาน ซูจี ฟังการไต่สวนของศาลผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ที่กรุงเนปยีดอ ทนายความของนางซึ่งรับฟังการไต่สวนผ่านการประชุมทางไกลแยกต่างหากจากนางซูจี กล่าวว่า นางและพันธมิตรอีก 4 คน ถูกตั้งข้อหาเพิ่มเติมฐานทำผิดกฎหมายความลับทางราชการตามกฎหมายจากยุคอาณานิคม ซึ่งเป็นข้อหาที่รุนแรงที่สุดจนถึงขณะนี้ โดยมีโทษจำคุกสูงสุด 14 ปี.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |