2 เม.ย.64 - เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ลานสวนประติมากรรมประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ มีการจัดกิจกรรมเปิดตัวกลุ่ม OctDem หรือ "กลุ่มคนเดือนตุลาเพื่อประชาธิปไตย" ประกอบด้วย นายเกรียงกมล เลาหไพโรจน์ นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายธเนศ อาภรณ์สุวรรณ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช นายสมศักดิ์ ปริศนานันนทกุล นพ.สุรพงษ์ สืบวงษ์ลี เพื่อเรียกร้องให้ศาลพิจารณาอนุญาตประกันตัวแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) และนายพนัส ทัศนียานนท์ อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มธ. ที่เคยร่วมอยู่ในเหตุการณ์ 14 ตุลา 16 และ 6 ตุลา 19 เป็นตัวแทนวางช่อดอกไม้บนปฏิมากรรมรำลึกเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์
จากนั้น นายธเนศ อาภรณ์สุวรรณ อาจารย์คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อ่านแถลงการณ์ มีเนื้อหาว่า “ตามที่บรรดานักเรียน นิสิตนักศึกษา เยาวชน และประชาชนผู้รักประชาธิปไตยได้เคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย แต่ฝ่ายรัฐได้ใช้อำนาจปราบปรามจับกุมคุมขังพวกเขาไว้ในเรือนจำ ปรากฏว่าศาลยุติธรรมไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวหรือประกันตัวพวกเขา โดยเฉพาะแกนนำกลุ่มที่ถูกกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งเห็นว่าระบบการปกครองแบบประชาธิปไตยและนิติรัฐนิติธรรมนั้น การที่ศาลยุติธรรมจะพิจารณาพิพากษาอรรถคดีและทำคำสั่งใดใดจะต้องเป็นไปโดยยุติธรรมและตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ยุติธรรม การไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวแกนนำของการเคลื่อนไหวประชาธิปไตยเป็นสิ่งที่เรายอมรับไม่ได้ เชื่อว่าศาลยุติธรรมย่อมต้องเข้าใจ และทราบดีว่าหลักการในการปฏิบัติต่อผู้ถูกกล่าวหาในคดีอาญาทุกคดีนั้น คือจะต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเขาเหล่านั้นยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ และจะปฏิบัติต่อเขาเสมือนหนึ่งว่าเป็นผู้พิพากษาถึงที่สุดว่ามีความผิดแล้วไม่ได้ เราเชื่อว่าศาลยุติธรรมย่อมเข้าใจดีว่าการแสดงความคิดเห็นเป็นเสรีภาพที่ได้รับการรับรองตามรัฐธรรมนูญและตามกฏหมายสิทธิมนุษยชนเราเชื่อว่าศาลยุติธรรมตระหนักดีว่าบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยก็ดีบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาก็ดี ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติก็ดี กติกาว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิการเมืองที่ประเทศเรายึดถือและได้ให้สัตยาบันไว้ต่อนานาชาติก็ดี ล้วนมีบทบัญญัติชัดเจนว่าการปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาและจำเลยในคดีอาญาในระหว่างพิจารณาคดีเป็นข้อกำหนดที่ศาลพึงยึดถือและพึงปฏิบัติ
เราเห็นเราเห็นว่าเหตุผลของศาลยุติธรรมที่ปฏิเสธการปล่อยตัวชั่วคราวบรรดาผู้รักประชาธิปไตยนั้นไม่สอดคล้องกับหลักการดังกล่าวข้างต้น เพราะผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดยังไม่ได้ถูกศาลตัดสินถึงที่สุดว่าเป็นผู้กระทำความผิดย่อมต้องได้รับการสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ มูลคดีทั้งหมดล้วนสืบเนื่องจากการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองตามหลักประชาธิปไตยของนิสิตนักศึกษาที่ถูกดำเนินคดีและคดีเช่นนี้ในภาวะการปกติอยู่ในเกณฑ์ที่ศาลอาจใช้ดุลยพินิจปล่อยตัวชั่วคราวได้เป็นเหตุผลที่ไม่สมเหตุสมผลและไม่ชอบด้วยข้อกฎหมายและความยุติธรรมใดใดทั้งสิ้น
ไม่ว่าการตัดสินของศาลยุติธรรมที่ปฏิเสธไม่ให้ผู้เคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยเหล่านั้นได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวจะมาจากเหตุผลใด จะมีเหตุผลจากการถูกบีบบังคับโดยอำนาจนอกระบบหรือเป็นความประสงค์ของศาลยุติธรรมเองก็ตาม เราเห็นว่าการตัดสินใจดังกล่าวทำให้เกิดวิกฤติความศรัทธาความเชื่อถือ เชื่อมั่นศรัทธาของประชาชนที่มีต่อศาลยุติธรรมในที่สุดซึ่งล้วนเกิดจากการกระทำของท่านเองทั้งสิ้น
เราเชื่อว่าเจตนาที่จะคุมขังผู้เรียกร้องประชาธิปไตยไว้ตลอดการพิจารณาคดีรวมทั้งการขัดขวางของเจ้าหน้าที่รัฐในการที่ไม่ให้พวกเขาเหล่านั้นพบปะกับทนายความก็ดี การจงใจข่มขู่คุกคามระยามวิกาลต่อผู้ต้องขังเรานั้นก็ดีย่อมไม่อาจขัดขวางการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นได้ด้วยความกังวลใจต่อระบบนิติรัฐในประเทศนี้ เราหวังที่จะเห็นศาลยุติธรรมที่เป็นอิสระและพิจารณาอรรถคดีต่างๆไปด้วยความยุติธรรมและปราศจากอคติ ปราศจากการครอบงำจากผู้หนึ่งผู้ใดหรือองค์กรใดองค์กรหนึ่ง เราขอเรียกร้องอย่างตรงไปตรงมาต่อศาลยุติธรรมว่าท่านต้องให้โอกาสเขาเหล่านั้นในการต่อสู้คดีอย่างเต็มที่โดยเปิดเผยและมีโอกาสแสวงหาพยานหลักฐานต่างๆมาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของพวกเขาอย่างเต็มที่ โดยอนุญาตให้โดยอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวพวกเขาในระหว่างการพิจารณาคดีอันเป็นสิทธิโดยสมบูรณ์ของพวกเขาที่มีอยู่ตามหลักกฏหมายยุติธรรม"
ขณะที่นายจาตุรนต์ กล่าวถึงกรณีที่สื่อมวลชนสอบถามว่ากลุ่ม OctDem จะเคลื่อนไหวร่วมกับกลุ่มนักศึกษาด้วยหรือไม่ ว่า คงไม่ใช่การร่วมขบวนเคลื่อนไหว แต่เราเป็นผู้ถูกกระทำในอดีต มีประสบการณ์บทเรียนจากการปราบปราม เข่นฆ่า ใช้กฎหมายไม่เป็นธรรม เราจะใช้ประสบการณ์นี้ให้เป็นประโยชน์ หากผู้มีอำนาจยังปราบปรามผู้ที่เห็นต่างแบบนี้ก็จะเกิดความสูญเสีย สิ่งที่ทำได้คือช่วยเสนอประสบการณ์ เพื่อให้สังคมอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ เราเห็นการคุกคามทำร้ายใช้กฎหมายไม่เป็นธรรมชัดเจน ดังนั้นขอให้หยุดใช้หลักนิติธรรมที่ปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมต่อนักศึกษาที่เห็นต่างจากรัฐ และทางกลุ่มทำหน้าที่หนังสือส่งประธานศาลฎีกา และศาลยุติธรรม เพื่อขอให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาได้มีโอกาสรับการประกันตัว นี่ไม่ใช่การเข้าร่วมเป็นขบวนเคลื่อนไหวกับกลุ่มนักศึกษา เพราะเชื่อว่าเราไม่สามารถไปเพิ่มจำนวนคนได้ แต่จะรวบรวมประสบการณ์นำเสนอสังคมแก้ไขปัญหาความขัดแย้งและเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ส่วนจุดยืนของกลุ่มยอมรับว่ามีคนจำนวนมากไม่เห็นด้วยกับการบริหารประเทศของรัฐบาล แต่กลุ่มเรายังไม่ได้พิจารณาเรื่องนี้ร่วมกัน
เมื่อถามว่า ทางกลุ่มมีจุดยืนอย่างไรเกี่ยวกับการปฏิรูปสถาบัน นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ทางกลุ่มมีวัตถุประสงค์ชัดเจนในเรื่องเกี่ยวกับหลักนิติธรรม ซึ่งเรื่องที่ต้องทำเฉพาะหน้าตอนนี้คือ เรื่องของการประกันตัวผู้ต้องหาไม่ว่าจะถูกข้อหาใดก็ตาม ถ้ายังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุดต้องได้รับสิทธิ์ประกันตัว เราจึงไม่ได้ดูไปที่ข้อเรียกร้อง และเนื้อหาของนักศึกษา เพราะเราพูดหลักใหญ่คือหลักนิติธรรม
จากนั้น ในเวลา 14.00 น. ทางกลุ่ม OctDem ได้เดินจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ไปยังศาลฎีกา เพื่อยื่นหนังสือต่อตัวแทนประธานศาลฏีกา แสดงเจตนารมณ์ของกลุ่มด้วย.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |