23 พ.ค.61 - พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีสำนักข่าวหนึ่งวิพากษ์วิจารณ์การจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์ AW 149 เครื่องไม่สามารถยกตัวขึ้นได้ ว่า ในประเด็นแรกที่วิจารณ์ว่า กองทัพบก ลากเฮลิคอปเตอร์ AW 149 จากโรงเก็บเครื่องบินออกทดสอบยังบินไม่ขึ้น ต้องขอเรียนว่า การนำออกมาครั้งนั้นเพียงแค่การวอร์มเครื่องยนต์ ไม่ใช่การนำมาเพื่อจะทำการบินทดสอบ ซึ่งเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำหลังนี้ ได้มีการจัดส่งมาที่สนามบินอู่ตะเภา และได้มีการประกอบจนเป็นลำที่สมบูรณ์ จากนั้นได้ทำการบินมายังโรงเก็บเครื่องบินที่จังหวัดลพบุรี จากนั้นก็ดำเนินขั้นตอนกรรมวิธีการตรวจรับอย่างละเอียด โดยเฉพาะการบินทดสอบตามมาตรฐานสากล ด้วยคณะกรรมการตรวจรับทั้งในส่วนของกองทัพบกโดยกรมการขนส่งทหารบก และในส่วนหน่วยใช้โดยศูนย์การบินทหารบก จนถึงขั้นตอนสุดท้ายคือการรับมอบโอนกรรมสิทธิ์ให้กองทัพบก ตามขั้นตอนการจัดหาพัสดุหรือยุทโธปกรณ์ของทางราชการ
“ในวันนี้ กองทัพบกโดยกรมการขนส่งทหารบก ในฐานะหน่วยจัดหา ร่วมกับ ศูนย์การบินทหารบก โดยมีผู้บัญชาการศูนย์การบินทหารบกเป็นผู้ร่วมโดยสารในฐานะหน่วยใช้ ได้นำเฮลิคอปเตอร์ AW 149 2 ลำดังกล่าวขึ้นบิน เพื่อยืนยันถึงประสิทธิภาพการใช้งาน ซึ่งการบินเป็นด้วยความเรียบร้อย อากาศยานสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มิได้เป็นไปตามที่สำนักข่าวบางสำนักกล่าวอ้าง” พ.อ.วินธัย กล่าว
พ.อ.วินธัย กล่าวต่อว่า ประเด็นถัดมามีการกล่าวว่าคนในเผยว่าสวิทช์คอลโทรลขัดข้องต้องสั่งซื้อใหม่รอนานนับปีนั้น ตนขอชี้ว่าในขั้นตอนการตรวจรับ อุปกรณ์ทุกชิ้นของเครื่องดังกล่าว อยู่ในสภาพสมบูรณ์ และขอเรียนเป็นข้อมูลเพิ่มเติมว่ากรณีจัดหาพัสดุหรือยุทโธปกรณ์ใหม่ให้ส่วนราชการ ถ้ามีอุปกรณ์รายการใดไม่สมบูรณ์ ทางบริษัทคู่สัญญาจะต้องปรับปรุงให้เรียบร้อยก่อนตรวจรับส่งมอบ ภายในระยะเวลา ซึ่งเป็นไปตามระเบียบปฏิบัติอยู่แล้ว ส่วนที่กล่าวว่าคณะกรรมการของหน่วยบินไม่ยอมเซ็นต์รับ เนื่องจาก เฮลิคอปเตอร์บินไม่ได้นั้น เป็นเรื่องคลาดเคลื่อน การตรวจรับดำเนินการเสร็จสิ้นไปแล้ว สัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ระหว่างการดำเนินการจัดทำแผนแจกจ่าย ซึ่งล่าสุดแผนการแจกจ่ายให้กับหน่วยใช้ กองพันบินที่ 1 ศูนย์การบินทหารบก ได้รับการอนุมัติแล้วในวันนี้ เข้าใจว่าขณะนี้ เฮลิคอปเตอร์ทั้ง 2 ลำได้ทำการส่งมอบให้กับหน่วยใช้เรียบร้อยแล้ว
“ผมขอความร่วมมือ การนำเสนอข้อมูลใดที่เกี่ยวข้องกับยุทโธปกรณ์ของกองทัพบก โดยเฉพาะอากาศยาน ด้วยการอ้างแหล่งข่าวที่ไม่สามารถระบุที่มาได้อย่างชัดเจนเปิดเผย หรือมีที่มาจากผู้ที่ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องจริง นำมาซึ่งรายละเอียดของข้อมูลที่คลาดเคลื่อน หรือข้อมูลที่เป็นเท็จ จนไปกระทบภาพลักษณ์บุคคลหรือองค์กร ที่สำคัญอาจสุ่มเสี่ยงต่อบทบัญญัติทางกฎหมาย และเป็นสิ่งที่น่ากังวลมากหากข้อมูลอันเป็นเท็จถูกเผยแพร่ไปในสื่อสังคมออนไลน์ เพราะจะทำให้สังคมเกิดความเข้าใจผิดได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว” โฆษกกองทัพบก กล่าว และว่า กองทัพบกดำเนินการในเรื่องการบริหารจัดการ รวมถึงการจัดหายุทโธปกรณ์อย่างตรงไปตรงมาทุกโครงการ ผ่านระบบและกระบวนการตามระเบียบข้อบังคับตามกฎหมาย หากสื่อใด มีข้อสงสัยในโครงการใดสามารถตรวจสอบข้อมูลได้ที่หน่วยรับผิดชอบที่เกี่ยวข้องโดยตรง หรือหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการให้ข้อมูลของกองทัพบก ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ข้อมูลให้ข่าวสารในนามของกองทัพบกได้ และถือว่าเป็นแหล่งข่าวที่มีความน่าเชื่อถือได้มากกว่า.
อ่านข่าวประกอบ ทบ.ลาก ฮ. AW 149 จากโรงเก็บเครื่องบิน ออกทดสอบ ยัง‘บินไม่ขึ้น’
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |