ประกาศแล้วมาตรา 44 อุ้มผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล!


เพิ่มเพื่อน    

23 พ.ค.61 - เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา  เผยแพร่คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 9/2561 เรื่อง มาตรการบรรเทาผลกระทบต่อผู้ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์และกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์

ตามที่ได้มีคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 76/2559 เรื่อง มาตรการส่งเสริมการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะลงวันที่ 20 ธันวาคม พุทธศักราช 2559 เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ระกอบกิจการที่สุจริตแต่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและสังคมจึงไม่อาจชําระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ได้ทันภายในระยะเวลาที่กําหนดไปแล้วนั้น

โดยที่ในปัจจุบันภาวะดังกล่าวยังคงปรากฏอยู่และมีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดปัญหาที่รุนแรงมากยิ่งขึ้นเนื่องจากการแข่งขันทางธุรกิจ ในขณะที่ส่วนแบ่งรายรับจากการประกอบกิจการลดลงอีกทั้งพฤติกรรมการบริโภคสื่อของประชาชนก็เปลี่ยนแปลงไปอันเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเกินความคาดหมายทางเทคโนโลยีด้านการสื่อสารและโทรคมนาคม (Technological Disruption)โดยเฉพาะการแก้ปัญหาในการเปลี่ยนผ่านระบบการส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์เป็นระบบดิจิตอลซึ่งแม้ปัญหาดังกล่าวเป็นความเสี่ยงทางธุรกิจและขึ้นอยู่กับความพร้อมและความสามารถในการปรับตัวของผู้ประกอบกิจการ แต่มีบางส่วนเป็นความรับผิดชอบของภาครัฐที่จะต้องมีมาตรการป้องกันมิให้ส่งผลกระทบต่อการเข้าถึง การรับรู้ข้อมูลข่าวสาร การเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และเสรีภาพของประชาชน นอกจากนั้น หากปล่อยให้เกิดความเสียหายแก่นักลงทุนหรือผู้ประกอบกิจการที่เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตจากรัฐในกิจการที่การลงทุนมีมูลค่าสูง และเป็นห่วงโซ่ทางเศรษฐกิจและสังคมที่สําคัญก่อให้เกิดการจ้างงานและอาชีพต่าง ๆ ที่เกี่ยวเนื่องตามมาอีกเป็นอันมาก ซึ่งหากประสบภาวะวิกฤติก็จะส่งผลกระทบไปถึงภาคส่วนอื่น ๆ และประชาชนในวงกว้าง รัฐจึงควรมีมาตรการบรรเทาความเสียหายแก่ผู้ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์อันเนื่องมาจากผลกระทบดังกล่าว เพื่อให้สามารถประกอบกิจการและชําระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ได้ในที่สุดบนพื้นฐานความเป็นจริงในสังคม โดยไม่ก่อให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบและไม่กระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และความเป็นธรรมระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชนโดยพิจารณาไม่ให้ภาครัฐและประชาชนเสียหายเมื่อเปรียบเทียบกับการบังคับการให้เป็นไปตามกติกาเดิมอย่างเคร่งครัด และการให้ผู้ประกอบกิจการได้ใช้เวลา โอกาสและทุนในการพัฒนาศักยภาพการให้บริการและการผลิตหรือการเผยแพร่รายการที่มีคุณภาพให้ทันต่อความต้องการของสังคม และเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันสมควรให้กรมประชาสัมพันธ์ในฐานะองค์กรสื่อของรัฐสามารถมีรายได้จากการโฆษณาได้ตามความจําเป็น และเพียงพอต่อการพัฒนาภารกิจด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์อย่างมีคุณภาพและประสิทธิภาพให้ทันต่อความต้องการของรัฐและสังคมตลอดจนทันต่อเทคโนโลยีด้วยเช่นกัน โดยต้องไม่เป็นการประกอบธุรกิจที่มุ่งแสวงหากําไร ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติกําหนด ซึ่งมาตรการบรรเทาความเสียหายเหล่านี้ได้รับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนต่าง ๆที่เกี่ยวข้องแล้ว และถือว่าเป็นกรณีจําเป็นเพื่อประโยชน์ในการปฏิรูปกิจการด้านสื่อสารมวลชนซึ่งจะทําให้ระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศมีความมั่นคงและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 265 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงมีคําสั่งดังต่อไปนี้

ข้อ 1 คําสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ข้อ 2 ในกรณีที่เห็นสมควร นายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีอาจเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติเปลี่ยนแปลงคําสั่งนี้ได้

ส่วนที่ 1

กรณีผู้รับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล

ข้อ 3 ในส่วนนี้
“คําสั่งที่ 76/2559” หมายความว่า คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ ๗๖/๒๕๕๙เรื่อง มาตรการส่งเสริมการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ

“ประกาศ” หมายความว่า ประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการประมูลคลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล ประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติ พ.ศ. 2556

“ผู้รับใบอนุญาต” หมายความว่า ผู้ได้รับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอลจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ

ข้อ 4 ให้ผู้รับใบอนุญาตที่ต้องชําระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ตามคําสั่งที่ 76/2559 ชําระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ ในส่วนที่เหลือตั้งแต่งวดที่สองเป็นต้นไป

สําหรับผู้รับใบอนุญาตตามประกาศ ให้ชําระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ในส่วนที่เหลือตั้งแต่งวดที่ห้าเป็นต้นไป ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กําหนดในข้อ 12 ของประกาศ

ข้อ 5 ผู้รับใบอนุญาตตามคําสั่งที่ 76/2559 หรือประกาศรายใดไม่สามารถชําระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ในงวดที่เหลือตามข้อ 4 ให้ผู้รับใบอนุญาตรายนั้นแจ้งเป็นหนังสือไปยังสํานักงาน กสทช. ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่คําสั่งนี้มีผลใช้บังคับเพื่อขอพักชําระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ตามคําสั่งที่ 76/2559 หรือประกาศ

ให้สํานักงาน กสทช. พิจารณาการพักชําระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ให้กับผู้รับใบอนุญาตที่แจ้งตามวรรคหนึ่งและกําหนดระยะเวลาการพักชําระค่าธรรมเนียมซึ่งต้องไม่เกินสามปี นับแต่วันที่ได้รับความเห็นชอบจากสํานักงาน กสทช. ทั้งนี้ ผู้รับใบอนุญาตยังคงต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขอื่นตามคําสั่งที่ 76/2559 หรือประกาศ

ในระหว่างเวลาพักชําระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ตามวรรคสองให้ผู้รับใบอนุญาตชําระดอกเบี้ยในวันที่ครบกําหนดชําระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ในแต่ละงวดให้แก่สํานักงาน กสทช. โดยให้ชําระดอกเบี้ยในอัตราเท่ากับอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย ประกาศกําหนด

เมื่อครบกําหนดระยะเวลาขอพักชําระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ตามวรรคสองแล้วให้ผู้รับใบอนุญาตชําระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ในงวดที่เหลือตามข้อ 4 ให้ครบถ้วนต่อไป

ข้อ 6 การพักชําระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ตามข้อ 5 ไม่เป็นการตัดสิทธิผู้รับใบอนุญาตที่จะขอชําระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ในงวดที่เหลือตามข้อ 4 โดยให้ผู้รับใบอนุญาตแจ้งเป็นหนังสือไปยังสํานักงาน กสทช. ล่วงหน้าสามสิบวันก่อนครบกําหนดชําระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ตามคําสั่งที่ 76/2559 หรือประกาศ

ข้อ 7 การขอพักชําระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ตามข้อ 5 มิให้นํามาใช้บังคับกับผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติที่ขอยกเลิกการประกอบกิจการหรือถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์และใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อประกอบกิจการดังกล่าวก่อนวันที่คําสั่งนี้มีผลใช้บังคับ

ข้อ 8 ให้ กสทช. และสํานักงาน กสทช. หรือคณะกรรมการบริหารกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะแล้วแต่กรณี จัดให้มีการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเช่าใช้โครงข่ายโทรทัศน์ประเภทที่ใช้คลื่นความถี่ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล (MUX) ให้กับผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลเป็นจํานวนเงินในอัตราร้อยละห้าสิบของค่าเช่าใช้โครงข่ายโทรทัศน์ดังกล่าวเป็นระยะเวลายี่สิบสี่เดือนนับแต่วันที่คําสั่งนี้มีผลใช้บังคับ

การดําเนินการตามวรรคหนึ่ง ให้ใช้จ่ายเงินจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ ซึ่งเหลือจ่ายจากการดําเนินโครงการสนับสนุนประชาชนในการเปลี่ยนผ่านไปสู่การรับชมโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล โดยให้คํานึงถึงการใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัด และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชน

ข้อ 9 ให้ผู้รับใบอนุญาตจัดทําผังรายการที่เหมาะสมและสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการประกอบกิจการที่ได้รับใบอนุญาต มีการผลิตรายการหรือการดําเนินรายการที่ดี ให้ข้อมูลที่มีความถูกต้องชัดเจน มีสาระและเป็นประโยชน์ต่อสังคม เนื้อหารายการมีความหลากหลาย ไม่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมอันดีของประชาชน ตลอดจนเปิดโอกาสให้คนพิการหรือคนด้อยโอกาสมีโอกาสเข้าถึงหรือใช้ประโยชน์จากรายการที่ออกอากาศได้อย่างเสมอภาคกับบุคคลทั่วไปโดยให้ผู้รับใบอนุญาตดําเนินการตามหมวด 2 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551อย่างเคร่งครัด

การดําเนินการตามวรรคหนึ่งให้สํานักงาน กสทช. มีหน้าที่ตรวจสอบหากพบว่าผู้รับใบอนุญาตไม่ปฏิบัติตามที่กําหนดในวรรคหนึ่ง ให้สํานักงาน กสทช. พิจารณายกเลิกการพักชําระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตและให้ผู้รับใบอนุญาตชําระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ในงวดที่เหลือตามข้อ ๔ใหครบถ้วนต่อไป

ส่วนที่ 2
มาตรการส่งเสริมการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์

ข้อ 10 ในการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ของกรมประชาสัมพันธ์ตามมาตรา 20 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์พ.ศ. 2551 กรมประชาสัมพันธ์อาจมีเงินรายได้จากการโฆษณาได้เท่าที่จําเป็นและเพียงพอต่อการผลิตรายการตามวัตถุประสงค์โดยต้องไม่เป็นการมุ่งต่อการแสวงหากําไรทางธุรกิจ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ที่ กสทช.ประกาศกําหนด

ในการกําหนดหลักเกณฑ์ตามวรรคหนึ่ง ให้ กสทช. คํานึงถึงผู้บริโภค ต้นทุนในการผลิตรายการและความเป็นธรรมในการแข่งขันที่จะมีผลกระทบต่อผู้รับใบอนุญาตประเภทอื่นด้วย โดยให้มีระยะเวลาสูงสุดในการโฆษณาได้ตามที่ กสทช. กําหนด

สั่ง ณ วันที่ 23 พฤษภาคม พุทธศักราช 2561
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"