1 เม.ย.64 - น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ประณามรัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยกล่าวหาว่าให้การสนับสนุนความรุนแรงและกองทัพที่เข่นฆ่าประชาชนชาวเมียนมาว่า เป็นข้อกล่าวหาที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เป็นการตีความเกินเลยไปมาก การที่นายพิธาใช้คำว่าสนับสนุนความรุนแรงและการเข่นฆ่านั้น เป็นการปรักปรำที่ไม่ยุติธรรมและไม่เป็นสุภาพบุรุษต่อรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ เพราะเป็นการกล่าวหาใส่ร้ายโดยไร้หลักฐานที่ใช้มาตรฐานระดับ “เด็กเลี้ยงแกะ” ด้วยไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่ารัฐบาลไทยสนับสนุนการใช้ความรุนแรงกับชาวเมียนมาเลย ไม่เคยมีผู้นำหรือผู้แทนในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใดๆ ดำเนินการเช่นนั้น

"หากนายพิธาไม่ทราบแยกแยะไม่ออกว่า การสนับสนุนความรุนแรง เป็นอย่างไร จะยกตัวอย่างให้ฟัง ก็เช่น พรรคสนับสนุนให้นักการเมืองชายที่มีประวัติเกี่ยวข้องคดีใช้ความรุนแรงในครอบครัว ทำร้ายร่างกายผู้หญิงเป็นผู้นำ หรือ กรณีที่ ส.ส. บางพรรคไปร่วมชุมนุมกับกล่มผู้ชุมนุมที่ต้องหากระทำความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เผาพระบรมฉายาลักษณ์ และทำลายทรัพย์สินของทางราชการ ไม่เท่านั้นยังใช้ตำแหน่งไปประกันตัวผู้ต้องหากระทำความผิด และเคลื่อนไหวในสภาฯ เพื่อแก้ไขกฎหมายเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่ฝ่าฝืนกฎหมายเพื่อให้พ้นจากความผิด อีกทั้งยังลุแก่อำนาจโดยไม่อ่านข้อกฎหมายในรัฐธรรมนูญและข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร 2562 พยายามแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมเพื่อต้องการให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาโดยประกาศจะใช้อำนาจ กมธ. เชิญประธานศาลฎีกามาชี้แจง การกระทำเหล่านี้คือตัวอย่างที่น่าจะเข้าข่ายเป็นผู้สนับสนุนและช่วยเหลือผู้กระทำความผิดที่ใช้ความรุนแรงอย่างชัดเจน และยังเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศอีกด้วย" น.ส.ทิพานัน กล่าว

น.ส.ทิพานัน กล่าวต่อว่า กรณีของไทยกับเมียนมานั้น จะเห็นได้จากกรณีที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศได้แถลงขอให้ทางการเมียนมา ยุติการใช้ความรุนแรง และปล่อยตัวผู้ที่ถูกควบคุมตัวเพิ่มขึ้น และเตรียมที่จะหารือในเรื่องดังกล่าวในการประชุมอาเซียนซัมมิทในเดือนเมษายนนี้ และในระหว่างนี้ไทยยังได้ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และอำนวยความสะดวกแก่ผู้หนีภัยความไม่สงบที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์สู้รบในเมียนมาด้วย ซึ่งตรงกันข้ามกับข้อกล่าวหาของนายพิธา ที่โจมตีรัฐบาลว่าให้การสนับสนุนให้ใช้ความรุนแรง ทั้งที่ รัฐบาลพยายามรักษาบทบาทในฐานะชาติสมาชิกอาเซียน และในฐานะที่ประเทศไทยมีชายแดนใกล้ชิดติดกัน ซึ่งตนเชื่อว่า ทุกคน รวมทั้งนายพิธาทราบดีว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนแค่ไหน แต่นายพิธากลับมองเห็นโอกาสในการฉกฉวย เพื่อดิสเครดิตรัฐบาล นำการเมืองระหว่างประเทศมาเป็นเครื่องมือในการหาประโยชน์ให้กับตนเองและพวกพ้อง

“ไม่น่าเชื่อว่าคนไทยด้วยกันเอง นักการเมืองบางคนพยายามที่จะโหนกระแสวิกฤตในเมียนมา มาตอกลิ่มความขัดแย้งในสังคมและขยายผล พยายามทำร้ายประเทศไทย บ่อนทำลายความมั่นคงของประเทศ แต่เชื่อว่าประชาชนรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่หลงไปกับกระแสที่นักการเมืองพยายามเสี้ยมให้เข้าใจผิดรัฐบาล ที่หวังสุมไฟหวังให้เกิดสงครามกลางเมืองซ้ำเติมให้ประเทศบอบช้ำ” น.ส.ทิพานัน กล่าว