สถานการณ์การแพร่ระบาดของ “โควิด-19” ยังคงร้อนแรงอยู่ แม้จะมีสารพัดวัคซีนออกมาแล้ว ก็ตาม โดยล่าสุด “บราซิล” มียอดตายเพิ่มสูงวันเดียวถึง 3,780 คน มากที่สุดในโลก ส่วนของไทยนั้น “พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์” ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. แถลงว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 42 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสม 28,868 ราย และไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม โดยยังคงตัวเลขอยู่ที่ 94 ราย...๐

 ที่น่าสนใจตามที่ “หมอเบิร์ท” ได้แถลงคือ การพบผู้ติดเชื้อรายใหม่นั้น มี 2 รายจาก 18 รายที่เดินทางมาจากต่างประเทศนั้นมาจาก “เซาท์ซูดาน” ซึ่งต้องตรวจสอบว่าจะเป็นโควิดสายพันธุ์แอฟริกาหรือไม่อย่างไร ในขณะเดียวกันในการติดภายในประเทศ “ศบค.” เองก็เริ่มหวาดวิตกว่ามีการติดเชื้อในครอบครัวและเป็นกลุ่มก้อน ซึ่งบอกได้เลยว่า “การกินร้อน ช้อนกลาง หมั่นล้างมือและสวมแมสก์“ แม้อยู่ในบ้านเดียวกันยังคงมีความจำเป็น “การ์ดอย่าตก”...๐

ส่วนเรื่อง “วัคซีน” นั้นต้องบอกว่าก็คืบหน้าพอสมควร เพราะมีคำยืนยันว่า “วัคซีนล็อตใหญ่” จะกระจายให้ครบ 77 จังหวัดในเดือน มิ.ย. แต่ขณะเดียวกัน “วัคซีนเมดอินไทยแลนด์” นั้นกลับเกิดอาการสะดุดเล็กๆ เมื่อศูนย์วัคซีน คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดลที่ทำวิจัยทางคลินิก “วัคซีนโควิด-19 ชนิดเชื้อตาย” ซึ่งผลิตโดยองค์การเภสัชกรรม ที่ขณะนี้กำลังหาอาสาสมัครเข้าร่วมโครงการ ระยะที่ 1 จำนวน 210 คน และระยะที่ 2 จำนวน 250 คนนั้นขาดผู้สนใจจำนวนมาก ซึ่งไม่น่าแปลก เพราะข้อกำหนดที่บอกว่า ต้องอยู่ในโครงการถึง 13 เดือน โดยไม่ชี้แจงถึงแรงจูงใจเลย ก็ย่อมทำให้ใครต่อใครไม่กล้าสมัครแน่นอนในยุค “โควิด-19” ที่ทำให้ข้าวยากหมากแพง...๐

 หันมาเรื่องการเมืองกันบ้าง โดยเฉพาะ “กฎหมายประชามติ” ที่จะเข้าที่ประชุมรัฐสภาในสัปดาห์หน้าวันที่ 7-8 เม.ย.นั้น เพราะดูเหมือน ใครต่อใครต่างมองโลกในแง่ดี โดยเฉพาะหลังมี “สัญญาณบวก” จาก “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกฯ และ รมว.กลาโหม ซึ่งล่าสุด “กูรูกฎหมาย” อย่าง “วิษณุ เครืองาม” รองนายกฯ ยังการันตีว่าผ่านอยู่แล้ว...๐

 ไม่ต่างจาก “วันชัย สอนศิริ” ส.ว. ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา หรือวิปวุฒิที่ยกแขนยันวันผ่านวาระ 3 แน่ พร้อมทั้งเชื่อว่าจะไม่มีใครยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความด้วย แต่ดูเหมือนอดีต ส.ส.นครศรีธรรมราชอย่าง “เทพไท เสนพงศ์” มองต่างบ้าง โดยมองว่ามี 3 ทางเลือกคือ 1.โหวตคว่ำ 2.โหวตผ่าน แล้วยื่นศาลตีความ และ 3.โหวตผ่าน แล้วรัฐบาลเสนอแก้ไขแบบศรีธนญชัย ทันที ซึ่งแนวทางที่ 3 นั้น “อาจารย์วิษณุ” ก็เคยชี้ช่องดังกล่าวมาแล้วล่วงหน้าหลังรู้ถึงการพ่ายแพ้โหวตในมาตรา 9 มาแล้ว...๐

 ช่วงนี้ไม่ต้องแปลกใจ ถ้า จะไม่ได้เห็น “ดร.เสกสกล อัตถาวงศ์” ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีออกมาจัดหนัก “ฝ่ายแค้น-ฝ่ายค้าน” ในเรื่องต่างๆ เนื่องจากมีอาการปวดท้อง ถ่ายเป็นเลือด โดยพักรักษาตัวที่ รพ.สินแพทย์ งานนี้จึงได้เห็นบรรดาฝ่ายค้านดาหน้าออกมาถล่ม “ลุงตู่” ยิ่งกว่าทุ่นระเบิดเสียอีก ไล่มาตั้งแต่เช้าก็ประเดิมด้วย “พรรณิการ์ วานิช” โฆษกคณะก้าวหน้าในการประณามรัฐบาลในกรณี “เมียนมา” ตามมาด้วย “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล ก็มาในอีหรอบเดียวกัน แต่แหม! ทีมพีอาร์และทีมถอดเทปพรรคก้าวไกลโปรดทราบนะจ๊ะว่า “เมียนมา” ไม่ใช่ “เมียนมาร์”...๐

ขณะเดียวกัน “วิสาร เตชะธีราวัฒน์” ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย (พท.) ก็ออกมาโหนเรื่อง “เมียนมา” ที่ใช้ความรุนแรงปราบปรามประชาชน พร้อมซัดรัฐบาล “ลุงตู่” ที่ไปถือหาง พิโธ่! ขำไม่ออกจริง ผู้ใช้การกรีดแขนประท้วงกลางสภาฯ มาพูดมาเอ่ยอ้างเรื่องความรุนแรงกับเขาด้วย...๐

ตลกร้ายไม่ต่างจาก 216 องค์กรภาคีเครือข่ายองค์กรภาคประชาสังคม หรือเอ็นจีโอที่เดินทางไปที่ “ทำเนียบรัฐบาล” เพื่อส่งหนังสือขอให้ยกเลิกกระบวนการร่างและเสนอพระราชบัญญัติว่าด้วยการดำเนินงานขององค์กรที่ไม่แสวงหารายได้ หรือกำไรมาแบ่งปันกัน พ.ศ.....ซึ่งเสนอโดยสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยให้เหตุผลว่าละเมิดสิทธิ เสรีภาพประชาชนอย่างร้ายแรง ขัดหลักนิติธรรม ไม่เป็นไปตามหลักความจำเป็น ที่สำคัญเป็นการลอกแบบมาจากต่างประเทศทั้งดุ้น อ้าวที่ผ่านมาเวลา “เอ็นจีโอ” ประท้วงก็มักอ้างฝรั่งมังค่า โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกามิใช่เหรอ แล้วนี่ลอกแบบจากต่างชาติมากลับออกมาโวยวายเสียนี่ หรือจะให้ “เอ็นจีโอ” เขียนกฎหมายกำกับตัวเองจ๊ะ...๐

...ท.ศักดิ์