31 มี.ค.2564 รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า กรณีที่บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) (OSP) แจ้งต่อตลท.ว่า มีการซื้อขายบิ๊กล็อต จำนวน 762,718,000 หุ้น คิดเป็น 25.39% จากผู้ถือหุ้นใหญ่ 2 คนในกลุ่ม Orizon คือ 1. Orizon Limited และ 2. นายเพชร โอสถานุเคราะห์ รวมจํานวน 381,359,000 หุ้น คิดเป็น 12.69% มูลค่า 12,584.84 ล้านบาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นโดยเฉพาะเจาะจง (Private Placement) โดยได้ทําการซื้อขายผ่านตลท. เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2564 ขณะที่ นายนิติ โอสถานุเคราะห์ ได้ซื้อหุ้นเพิ่มเติมเป็นจํานวน 215,000,000 หุ้น คิดเป็น 7.16% มูลค่า 7,095 ล้านบาท
ทั้งนี้ ภายหลังการทำรายการดังกล่าว ทำให้โครงสร้างผู้ถือหุ้นของบริษัทเปลี่ยนแปลงไป โดยกลุ่ม Orizon ถือหุ้นลดลงเหลือ 452,336,700 หุ้น หรือ 15.06% จากเดิมถือหุ้นจำนวน 833,695,700 หุ้น หรือ 27.75% ส่วน นิติ โอสถานุเคราะห์ มีสัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 715,030,000 หุ้น หรือ 23.80% จากเดิมถือหุ้น 500,030,000 หุ้น หรือ 16.65%
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ จำกัด ระบุว่า การปรับโครงสร้างการถือหุ้นครั้งนี้ ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทแต่อย่างใด โดยเป็นการปรับโครงสร้างการถือหุ้นในครอบครัว และหุ้นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ยังคงเป็นนายนิติ โอสถานุเคราะห์ และอันดับ 2 ยังคงเป็นกลุ่ม Orizon นอกจากนี้ แนวโน้มผลประกอบการของ OSP คาดกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นได้เฉลี่ยปีละ 6% (2564-2565) จากการขยายกำลังการผลิต C-Vitt และมาร์จิ้นที่คาดจะดีขึ้นหลังโรงงานเมียนมาเริ่มดำเนินงาน
ด้านบล.โนมูระ พัฒนสิน จำกัด ระบุว่า มีมุมมอง Slightly positive sentiment ต่อการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นของนายนิติ เนื่องจากความกังวลที่ผู้ถือหุ้นใหญ่จะขายหุ้นหายไป และผู้เข้ามาซื้อคือนายนิติ ซึ่งเป็นคนในตระกูลโอสถานุเคราะห์ และเป็นนักลงทุนรายใหญ่ แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในกิจการของ OSP ทั้งนี้ ทางด้านปัจจัยพื้นฐานไม่เปลี่ยนแปลง เนื่องยังคงโครงการการบริหารและนโยบายในการดำเนินธุรกิจเช่นเดิม
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |