23 พ.ค.61 - ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท.กล่าวถึงกรณีที่ตำรวจจับกุมนายไพจิตร์ สายยา คนขับแท็กซี่ ที่ได้ปลอมแอปพลิเคชั่นไลน์แอบอ้างเป็นตัวเอง หลอกลวงข้าราชการตำรวจสามารถโยกย้ายเลื่อนตำแหน่งได้ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ บช.ภ.4 ตกเป็นเหยื่อ 6 นายตั้งแต่รอง ผบก.-ผบ.หมู่ จ่ายเงินกว่า 4 ล้านบาท ว่า จากนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.คงมีคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบวินัยร้ายแรง แก่ข้าราชการตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ทั้ง 6 นาย
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ในส่วนความผิดทางอาญาพนักงานสอบสวนท้องที่เกิดเหตุจะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 6 นาย ได้เข้าแจ้งความในฐานะผู้เสียหาย จากการถูกหลอกลวงและฉ้อโกง ถ้าผู้เสียหายเป็นบุคคลธรรมดาคงไม่เป็นไร แต่คดีในฐานะที่ทั้ง 6 นาย เป็นข้าราชการตำรวจ จะต้องถูกพนักงานสอบสวนแจ้งความดำเนินคดีด้วย ในฐานะเป็นผู้มีส่วนสนับสนุนให้มีการกระทำความผิด ดังนั้นข้าราชการตำรวจต้องถูกดำเนินการใน 2 ส่วน คือ เรื่องวินัยและอาญา ความผิดในลักษณะเช่นนี้ ข้าราชการเป็นผู้กระทำความผิดเสียเอง เป็นความผิดร้ายแรงมีโทษถึงไล่ออก
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวด้วยว่าในอดีตที่ผ่านมาเมื่อมีเหตุในลักษณะเช่นนี้มักจะมีการดำเนินการแค่ด้านเดียว คือด้านคนหลอก วันนี้ต้องดำเนินการทั้ง 2 ด้าน ต่อไปตำรวจจะได้ไม่กล้า จากนี้เมื่อตำรวจพบเห็นว่ามีการกระทำเช่นนี้ จะต้องรายงานผู้บังคับบัญชาและตรวจสอบ ไม่ใช่ตำรวจเป็นผู้ส่งเสริมเสียเอง กรณีนี้เมื่อรู้กลับไปจ่ายเงินด้วย ผู้ต้องหาคงใช่ผู้ที่เริ่มก่อน แต่เป็นเพราะตำรวจเราเป็นผู้ไปเริ่มต้นก่อน ไปเปิดช่องให้ผู้ต้องหา เป็นผู้เสนอให้ผู้ต้องหา เลยเหมือนหมูเข้าปากหมา จึงตกเบ็ดเสียเลย จึงได้เกิดขบวนการนี้ขึ้นมา ในส่วนการตั้งคณะกรรมการผบ.ตร.จะเป็นผู้ตั้งเอง ซึ่งคงให้กองวินัยดำเนินการ ส่วนทางอาญาตนได้เรียนผบช.ภ.4 แล้ว ต่อไปจะได้ไม่มีใครกล้าทำอย่างนี้อีก
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |