30 มี.ค.64-นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดทำระบบจัดเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติพิเศษแบบไม่มีไม้กั้น (M-Flow) ว่า ในขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาร่างสัญญาจ้างบริหารจัดการระบบ M-Flow ของสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อให้มีความถูกต้องและเป็นไปด้วยความรอบคอบ เนื่องจากการดำเนินการดังกล่าว ถือเป็นเรื่องใหม่ที่ ทล. จะดำเนินการด้วยระบบ M-Flow ทั้งนี้ หากสำนักงานอัยการสูงสุดตรวจร่างสัญญาเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะสามารถลงนามสัญญากับผู้รับจ้างที่ชนะการประกวดราคาได้ภายในช่วงปลาย เม.ย. 2564  

อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นผู้รับจ้างจะเริ่มเข้าดำเนินการติดตั้งระบบกล้องตรวจจับป้ายทะเบียนรถผ่านเข้า-ออกบนเสาโครงสร้างคร่อมช่องจราจร (Gantry) ของระบบ M-Flow ซึ่งตอนนี้ได้ติดตั้งโครงสร้างไว้ครบทั้ง 4 ด่านแล้ว จากนั้นจะเป็นขั้นตอนการปรับจูนและเชื่อมต่อกับระบบคอมพิวเตอร์ของระบบงานหลังบ้าน (Back Office System) ของระบบ M-Flow ก่อนดำเนินการทดสอบเสมือนจริงต่อไป โดยปัจจุบันในส่วนของกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมผ่านทางของทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 ที่รองรับวิธีการจัดเก็บค่าผ่านทางด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์สำหรับระบบ M-Flow ได้ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาและมีผลบังคับใช้แล้ว ถือว่าในส่วนนี้ได้มีการเตรียมความพร้อมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว  
 
ทั้งนี้ ภายหลังการลงนามสัญญาจ้างบริหารจัดการระบบ M-Flow แล้ว ทล.จะกำหนดแผนการดำเนินงานที่จะเริ่มเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเป็นสมาชิก โดยระบุหมายเลขทะเบียนของรถยนต์ที่นำมาใช้บริการระบบ M-Flow ผ่านแอปพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ เว็บไซต์ และช่องทางอื่นๆ ที่กำหนด โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มทดสอบเสมือนจริงระบบ M-Flow ได้ในช่วง ก.ค. 2564 แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับการตรวจพิจารณาร่างสัญญาของสำนักงานอัยการสูงสุดด้วย อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการทดสอบเสมือนจริง จะมีการประเมินผลควบคู่ไปด้วย ก่อนที่จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการต่อไป
 
นายสราวุธ กล่าวต่ออีกว่า ก่อนการเปิดให้ทดลองใช้ระบบ M-Flow นั้น ทล.ได้เตรียมประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ในวงกว้าง เพื่อแจ้งให้ประชาชนทราบรายละเอียดและวิธีการใช้งานระบบ M-Flow รวมทั้ง หาแนวทางจัดโปรโมชั่นจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้ M-Flow มากขึ้น เบื้องต้นรูปแบบโปรโมชั่น คือ หากสมัครเป็นสมาชิก M-Flow และเลือกวิธีการชำระเงินโดยผูกกับบัตรเครดิต จะได้รับของแจกหรือรางวัลพิเศษ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณา หากได้ข้อสรุปแล้วจะประชาสัมพันธ์ต่อไป 

สำหรับการจัดโปรโมชั่นดังกล่าว เพื่อต้องการส่งเสริมให้ประชาชนชำระค่าผ่านทางด้วยระบบอัตโนมัติมากขึ้น เพื่อความสะดวก รวดเร็ว ลดปัญหาการติดสะสมหน้าด่าน และลดเสี่ยงการสัมผัสเงินสดที่ช่วงนี้มีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) รวมทั้งกระตุ้นให้ประชาชนเดินทางด้วยมอเตอร์เวย์มากขึ้น
 
รายงานข่าวจาก ทล. ระบุว่า ระบบ M-Flow จะนำร่องกับทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 9 สายวงแหวนรอบนอกด้านตะวันออก จำนวน 4 ด่าน ประกอบด้วย ด่านทับช้าง 1, 2 และด่านธัญบุรี 1, 2  โดย ทล. ได้ดำเนินการเปิดประกวดราคา เพื่อหาผู้รับจ้างในการติดตั้งระบบ M-Flow วงเงินรวม 299 ล้านบาท แบ่งเป็น สัญญาการติดตั้งระบบโครงสร้างพื้นฐานของระบบ M-Flow (System Infrastructure) เช่น ซอฟแวร์และระบบคอมพิวเตอร์ของระบบงานหลังบ้าน การจัดทำเว็บไซต์ การจัดทำแอปพลิเคชั่น ฯลฯ วงเงิน 179 ล้านบาท 

อีกทั้ง สัญญาจ้าง Outsource เพื่อบริหารจัดการระบบ M-Flow รวมงานตรวจจับและระบุยานพาหนะที่ใช้ระบบ M-Flow ด้วยระบบกล้องอ่านป้ายทะเบียนอัตโนมัติและระบบตรวจจับยานพาหนะอัตโนมัติ ตลอดจนงานตรวจสอบความถูกต้องของการอ่านป้ายทะเบียนด้วยเจ้าหน้าที่และแจ้งเก็บค่าธรรมเนียมไปยังผู้ใช้บริการด้วยวิธีการทางอิเลคทรอนิกส์ รวมถึงงานติดตามทวงถามค่าธรรมเนียม การบริหารจัดการงานลงทะเบียนระบบ M-Flow งานบริการด้านเทคนิคและช่วยเหลือผู้ใช้งาน และงานอื่นที่เกี่ยวข้อง วงเงิน 120 ล้านบาท
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เป็นประธานการประชุมติดตามการดำเนินการนโยบายการพัฒนาระบบ M-Flow เพื่อแก้ไขปัญหารถติดหน้าด่าน โดยวางระบบให้สามารถบูรณาการกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ในการพัฒนา M-Flow ให้เป็นรูปแบบและมาตรฐานเดียวกัน (Single Platform System) ทั้งนี้ ระบบ M-Flow ได้ออกแบบให้รองรับการใช้ความเร็วสูงสุด 120 กม./ชม. ซึ่งสามารถระบายรถได้เร็วกว่าระบบเดิม 5 เท่า 

โดยในขณะนี้การติดตั้งเสาโครงสร้าง M-Flow Gantry ทั้ง 4 ด่านแล้วเสร็จ (ด่านทับช้าง 1, 2 และด่านธัญบุรี 1, 2) และอยู่ระหว่างการปรับปรุงกายภาพบริเวณช่องทาง งานติดตั้งป้ายเครื่องหมายจราจร รวมถึงการดำเนินการด้านวิศวกรรมและระบบ IT การเตรียมความพร้อมด้านระเบียบและข้อกฎหมาย ตลอดจนการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และส่งเสริมการใช้ระบบ M-Flow อย่างไรก็ตาม นายศักดิ์สยาม ได้เร่งรัดการดำเนินการ M-Flow ให้เป็นไปตามแผนเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติโดยเร็ว