30 มี.ค.64 - นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้ิความบนฟซบุ๊ก โดยมีรายละเอียดดังนี้
มาถูกทางแล้ว
อ่านข่าว จำเลยในคดี ปอ.112 แถลงต่อศาลว่า หากได้รับการประกันตัวไป จะไม่พูดพาดพิงสถาบันอีก อันนี้แหละครับ ที่ผมเคยพูดว่าทำให้ "ข้อเท็จจริงในคดีเปลี่ยนแปลงไป" อันเป็นเหตุให้ศาลสามารถใช้ดุลพินิจในการให้ประกันตัวเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมได้
ผมเคยกล่าวหลายครั้งว่า ที่ศาลไม่ให้ประกันตัวเพราะจำเลยหรือผู้ต้องหาจะไป"กระทำซ้ำ" ในความผิดที่ถูกฟ้องหรือถูกกล่าวหา อันจะก่อให้เกิดความเสียหายได้ อยากให้จำเลยหรือผู้ต้องหา ทบทวนการกระทำ และลองนำความเห็นของนักกฎหมาย(แก่ๆ) อย่างผม ไปทบทวน อย่าเชื่อคำยุแหย่ของใคร อย่าคึกคะนองอยู่กับเสียงปรบมือหน้าเวทีปราศรัย อย่าสนุกกับการให้สัมภาษณ์หน้ากล้องทีวีเลยครับ เวลาติดคุก ติดอยู่คนเดียวนะครับ คนอื่นไม่มาช่วยติดคุกด้วยหรอก
ส่วนผู้มีอำนาจในบ้านเมืองก็หาเวทีที่ปลอดภัยให้เด็กได้พูดคุยกัน เรารู้นี่ครับอย่างไหนทำได้ อย่างไหนทำไม่ได้ เรารู้นี่ครับอย่างไหนเกินขอบเขตอย่างไหนไม่เกินขอบเขต ถ้าทุกฝ่ายที่มีหน้าที่ ทำอย่างนี้ บ้านเมืองก็สงบ ผมนี่ไม่สุดโต่ง ไม่สุดขั้ว ไม่เรียกใครว่า สลิ่ม ไม่เรียกใครว่า สามกีบ ไม่เรียกใครด้วยถ้อยคำเสียดสี เพราะการพูดเสียดสีกันอย่างนั้นเหมือนคนปัญญาอ่อน เป็นทุรชน มองคนไทยเป็นศัตรูกัน ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหามีแต่สร้างปัญหาสร้างความแตกแยกเพิ่มขึ้น เราต่างเป็นคนไทยด้วยกัน
ประการสำคัญผมเป็นนัก"เสรีนิยมประชาธิปไตย" ผมไม่ใช่"นักประชาธิปไตย" ดังที่เคยกล่าวมาหลายครั้งแล้ว ผมไม่ก้าวหน้าจนต้องทำลายล้างระบบเดิมๆ และผมก็ไม่อนุรักษ์นิยมจนต้องถวิลหาอดีตอย่างหิวโหย
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |