จับสึก​พระหื่นทำสาว 26 ท้อง​ อ้างฝ่ายหญิงนำ 'ปูหลน' มาให้ฉันแล้วมีอารมณ์


เพิ่มเพื่อน    

30 มี.ค.64 - เมื่อวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา น.ส.ภัทรานิษฐ์ จริยาโสวรรณ ผอ.กลุ่มอำนวยการ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยพระครูภัทรสมาจารคุณ เจ้าคณะตำบลละเวี้ย พระวินยาธิการ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ประโคนชัย ได้เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 26 ปี ชาว อ.พลับพลาชัย ออกมาร้องเรียนผ่านสื่อว่า ถูกพระรูปหนึ่งซึ่งจำพรรษาอยู่ในที่พักสงฆ์บริเวณป่าสาธารณะท้ายหมู่บ้านหนองคูณ ต.ละเวี้ย อ.ประโคนชัย กระทำชำเราตั้งแต่เดือน พ.ย.2563 โดย น.ส.เอ อ้างว่ามีเพศสัมพัน์กับพระรูปดังกล่าวหลายครั้ง จนปัจจุบันตั้งท้องได้ 4 เดือน แต่พระปฏิเสธไม่รับผิดชอบ

ขณะเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบบริเวณที่พักสงฆ์ดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ในที่สาธารณะ เนื้อที่ประมาณ 7 ไร่ มีอาคารชั้นเดียวสร้างเหมือนบ้านเรือนชาวบ้านทั่วไปอยู่ 1 หลัง ใกล้กันก็ศาลาคล้ายกับกระต๊อบเล็กๆ อีก 1 หลัง ก็พบพระเกียรติ อายุ 51 ปี ที่ถูกกล่าวหานั่งอยู่ที่กระต๊อบ เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจสอบหนังสือสุทธิพระ ซึ่งพระรูปดังกล่าวก็หยิบมาให้ดูพบว่าเป็นพระจริง ได้อุปสมบทที่วัดแห่งหนึ่งใน อ.ประโคนชัย ก่อนจะย้ายมาไปอยู่ที่ที่พักสงฆ์ท้ายหมู่บ้านหนองคูณได้ประมาณเกือบ 20 ปีแล้ว อยู่รูปเดียวมาตลอด

เมื่อถามว่าได้กระทำชำเราหญิงอายุ 26 ปีจนตั้งครรภ์ จริงหรือไม่ พระเกียรติตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้ว่า ตนเองไม่ได้เป็นฝ่ายกระทำแต่ผู้หญิงเป็นฝ่ายทำ โดยอ้างว่า น.ส.เอ ผู้หญิงคนที่ร้องเรียนพยายามทักทางเฟซบุ๊กมาหาอาตมา และขอเข้ามาเล่นที่ที่พักสงฆ์อาตมาก็ตอบกลับไปว่า เป็นผู้หญิงไม่เหมาะสม จากนั้นหญิงคนดังกล่าวก็เงียบหายไป กระทั่งช่วงเดือน พ.ย. น.ส.เอ ก็เอาปูหลนมาถวายอาตมา ซึ่งปกติอาตมาเป็นคนชอบกินปูหลนอยู่แล้ว เมื่อโยมเอามาถวายอาตมาก็ฉันแล้วรู้สึกอร่อย แต่พอฉันได้ประมาณ 3 ช้อนแล้ว​ มีความรู้สึกเกร็งสั่นไปทั้งตัว โดยเฉพาะอวัยวะเพศจะแข็งตัว จึงถาม น.ส.เอว่าได้ใส่อะไรในปูหลนหรือไม่ แต่ น.ส.เอ บอกว่าใส่แต่เครื่องปรุงปกติไม่ได้ใส่อะไร 

จากนั้นอาตมาก็คุมสติตัวเองไม่ได้แล้วฝ่ายหญิงก็เข้ามาหาอาตมา กระทั่งมีเพศสัมพันธ์กัน และเมื่ออาตมานึกย้อนไปก็คิดว่าน่าจะถูกผู้หญิงใส่ยาปลุกเซ็กซ์ในปูหลนอย่างแน่นอน จนทำให้คุมสติตัวเองไม่ได้ แต่ยืนยันว่าอาตมาไม่ได้เป็นฝ่ายกระทำชำเราผู้หญิง ส่วนที่ว่าตั้งครรภ์ก็ไม่รู้ว่าท้องกับใครแล้วมากล่าวหาอาตมา

จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวพระเกียรติไปทำพิธีสึกที่วัดจำปา วัดที่อุปสมบทให้ ซึ่งวินัยสงฆ์การเสพเมถุนถือว่าเป็นความผิดร้ายแรงต้องอาบัติปาราชิก เมื่อสึกแล้วไม่สามารถบวชเป็นพระได้อีก ส่วนเรื่องคดีก็ขึ้นอยู่กับว่าฝ่ายหญิงจะแจ้งความดำเนินคดีหรือไม่อย่างไร


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"