"บิ๊กตู่" ยันไม่ส่งสัญญาณยุบสภา ขณะที่ "ตุ๊ดตู่" ย้ำชุมนุม 4 เม.ย. ลั่น! "ประยุทธ์" ไม่ใช่สถาบัน ให้เลิกใช้สถาบันมาปกป้องตัวเองและทำลายคนอื่น โหมกระแสเลือกตั้งใหม่ "เพื่อไทย" เลือดไหลไปรวม "ไทยสร้างชาติ"
เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นัดชุมนุมไล่ตนเองว่า "สื่ออยากสนับสนุนเขาไหม คุณอยากให้บ้านเมืองเป็นแบบเดิมอีกไหม ถ้าคุณอยากให้บ้านเมืองเกิดอะไรขึ้นแบบเดิมก็ช่วยกันขยายให้เขาก็แล้วกัน ขอบคุณ สวัสดี" ก่อนเดินออกจากโพเดียมขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าไปทันทีด้วยอารมณ์หงุดหงิด
อย่างไรก็ตาม ต่อมานายกฯ ตอบคำถามผู้สื่อข่าว กรณีขณะนี้มีการเคลื่อนไหวตั้งพรรคการเมืองใหม่ขึ้นมา เป็นการส่งสัญญาณว่าจะเกิดการยุบสภาขึ้นหรือไม่ว่า "ยังไม่มีๆ เป็นเรื่องของทุกคนที่มีสิทธิ์จะทำอยู่แล้ว"
ด้านนายจตุพรเฟซบุ๊กไลฟ์ peace talk ตอนหนึ่งว่า "การแก้รัฐธรรมนูญเร่งด่วนที่ พล.อ.ประยุทธ์แถลงเป็นนโยบายต่อสภานั้น ตอกย้ำอีกครั้งเมื่อกระแสคนหนุ่มสาวชุมนุมประท้วงว่า จะแก้รัฐธรรมนูญเสร็จในธันวาคมปี 2563 แต่ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นลมลวงทั้งสิ้น พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่แสดงความจริงใจที่จะใช้เป็นช่องทางเพื่อนำไปสู่การแก้รัฐธรรมนูญให้ได้สำเร็จ แต่ไม่ได้ทำอะไรเลย แถมยังสัมพันธ์กับการเสนอให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยด้วย ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ปฏิเสธความเกี่ยวข้องเหล่านี้ไม่ได้เลย กว่า 7 ปีทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมของไทยพินาศย่อยยับขนาดไหน แม้พวกอารมณ์ค้างมีความเห็นอีกอย่างหนึ่ง แต่ตนไม่มีปัญหาอะไร ได้บอกชัดเจนว่าการไม่เห็นด้วยกับ พล.อ.ประยุทธ์ หรือต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ออกไปนั้น ไม่ใช่การโค่นล้มสถาบัน
พล.อ.ประยุทธ์ไม่ใช่สถาบัน พล.อ.ประยุทธ์คือนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่สถาบัน ดังนั้นต้องเลิกใช้สถาบันมาปกป้องตัวเอง และไว้ทำลายคนอื่นด้วย ผมจึงต้องพูดกันให้ชัด" นายจตุพรกล่าว
ประธาน นปช.กล่าวว่า "บางฝ่ายวิจารณ์จะไปตัดกำลังของคนหนุ่มสาวนั้น คิดกันแค่นี้ จึงอยากอยู่เฉยๆ แล้วทนกับ พล.อ.ประยุทธ์ต่อไปได้ แล้วอยู่กับบ้านเมืองนี้ต่อไป ซึ่งตนไม่สนใจ ใครจะมาร่วมหรือไม่ก็ไม่สนใจ เพียงแต่บอกว่าปัญหาของชาติมันขนาดนี้แล้ว เพียงแค่ความรู้สึกส่วนตัวทนกับ พล.อ.ประยุทธ์ได้ แต่ทนกับคนจะมาร่วมกันของแต่ละฝ่ายกลับทนไม่ได้ รับไม่ได้ ก็เอาตามสบาย เพราะบ้านเมืองต่างมีสิทธิ มีเสรีภาพ
ส่วนการนัดกันวันที่ 4 เม.ย.ที่อนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรมนั้น เป็นการหลอมรวมความแตกต่างและความขัดแย้งในอดีต การสู้กับ พล.อ.ประยุทธ์ยากกว่าในอดีต เนื่องจากเผด็จการในอดีตหักไม่ยอมงอ แต่เผด็จการชุดนี้พลิกแพลง มีเล่ห์เพทุบายสารพัด ยิ่งประชาชนแตกแยกยิ่งไม่มีทางจะสู้ได้ ถ้าเรายังอยู่ในสภาพบ้านเมืองแบบนี้ต่อไป เชื่อได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ต้องต่ออำนาจอีก 4 ปี"
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติว่า ได้มีการยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งพรรคเข้ามาโดยว่าที่ร้อยโทไกรภพ นครชัยกุล ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ดำเนินการตรวจสอบข้อมูล เอกสารและรายละเอียดต่างๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว และ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ก็ได้เสนอเรื่องเพื่อเข้าสู่วาระการประชุมของ กกต.แล้ว และมีรายงานว่า กกต.จะพิจารณาว่าจะจดทะเบียนรับรองพรรคดังกล่าวเป็นพรรคการเมืองหรือไม่ภายในสัปดาห์นี้
มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 29 ม.ค.สมาชิกพรรคเพื่อไทยได้ยื่นสำเนาใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จำนวน 2 คน คือ นายธวัชชัย สุทธิบงกช อดีตรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และนายณรงค์ รุ่งธนวงศ์ อดีตกรรมการบริหารพรรค ซึ่งการลาออกของทั้งสองคน เป็นการลาออกของอดีตผู้บริหารระดับสูงของพรรคอย่างต่อเนื่อง หลังก่อนหน้านั้นนายนคร มาฉิม อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แกนนำภาคเหนือ ได้ลาออกไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น "นิด้าโพล" สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง "การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาส ครั้งที่ 1/2564" โดยเมื่อถามถึงบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 30.10 ระบุว่ายังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 2 ร้อยละ 28.79 ระบุว่าเป็นพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะเป็นคนตรงไปตรงมา ตัดสินใจได้เด็ดขาด มีความซื่อสัตย์ มีโครงการต่างๆ ที่ช่วยเหลือประชาชนทุกเพศทุกวัยได้อย่างทั่วถึง ชื่นชอบในการบริหารงานได้ดี เหมาะสมให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป และชื่นชอบเป็นการส่วนตัว อันดับ 3 ร้อยละ 12.09 ระบุว่าเป็นคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เพราะอยากให้ผู้หญิงขึ้นมาบริหารประเทศบ้าง
เมื่อถามถึงพรรคการเมืองที่ประชาชนจะสนับสนุนในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 29.82 ระบุว่าไม่สนับสนุนพรรคการเมืองใดเลย อันดับ 2 ร้อยละ 22.13 ระบุว่าพรรคเพื่อไทย อันดับ 3 ร้อยละ 16.65 ระบุว่าพรรคพลังประชารัฐ อันดับ 4 ร้อยละ 13.48 ระบุว่าพรรคก้าวไกล อันดับ 5 ร้อยละ 7.10 ระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |