29 มี.ค.64 - ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวันว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 39 ราย โดยพบ 1 ราย ที่ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นจังหวัดที่ไม่เคยมีผู้ติดเชื้อมาก่อน ผู้ติดเชื้อคนดังกล่าวเป็นชายไทย อายุ 35 ปี อาชีพพนักงานขายของในห้างสรรพสินค้า เดินทางมา กทม. เพื่อมาหาเพื่อนเมื่อวันที่ 22 มี.ค. โดยเพื่อนมีอาชีพค้าขายในตลาดบางแค และเดินทางกลับ จ.กาฬสินธุ์ ในวันที่ 24 มี.ค. จากนั้นวันที่ 25 มี.ค. มีอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย ต่อมาวัน 26 มี.ค. ทราบว่าเพื่อนที่ กทม.เข้ารับการตรวจและพบว่าติดเชื้อโควิด-19 วันที่ 27 มี.ค.จึงรีบไปตรวจที่โรงพยาบาล ผลยืนยันติดเชื้อโควิด-19
นอกจากนี้ ในที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก ยังได้หยิบยกกรณีการติดเชื้อที่ตลาดสะพานสูงขึ้นมาพูดคุย โดยผู้ติดเชื้อมีทั้งเจ้าของแผงเนื้อ และแม่ค้าล็อตเตอรี่ จึงอยากทุกคนเฝ้าระวังตัว วันนี้ทุกคนยังใช้ชีวิตในตลาดได้อยู่ เพียงแต่ต้องตื่นตัว การ์ดต้องไม่ตก ขณะที่ปัจจุบันพื้นที่ กทม. มีการค้นหาเชิงรุกไปแล้วทั้งสิ้น 106,741 ราย พบผู้ติดเชื้อ 579 ราย หรือ 0.95% ส่วนใหญ่ยังเป็นพื้นที่ในแนวตะวันตกของ กทม. มากที่สุดคือ เขตบางแค 318 ราย
เมื่อถามถึงกรณีโรงพยาบาลเอกชนสามารถจัดหาวัคซีนมาฉีดให้ประชาชนได้หรือไม่ พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ที่ผ่านมาภาครัฐไม่ได้ห้าม แต่เน้นย้ำเสมอในเรื่องของความปลอดภัย เพราะวัคซีนเป็นการอนุญาตใช้ในภาวะฉุกเฉิน ผ่านการรับรองขององค์การอนามัยโลก (WHO) และสิ่งที่รัฐบาลย้ำคือจะต้องได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข และที่ผ่านมาวัคซีนทั่วโลกถือว่ามีการผลิตอย่างจำกัด และมีการเฝ้าระวัง รายงานเคส ดูเรื่องความปลอดภัย จะต้องมีการเก็บข้อมูลการวิจัย และส่วนหนึ่งวัคซีนที่ผลิตได้อาจจะได้รับการจัดสรรไปทางประเทศแทบอเมริกาและยุโรปเป็นหลัก จึงทำให้ภาคเอกชนอาจจะไปหาซื้อวัคซีนเอง ซึ่งเป็นไปได้ยาก แต่จากนี้ต่อไปเนื่องจากการผลิตมีมากขึ้นจะได้เริ่มเห็นวัคซีนหลายบริษัทที่มีรายงานว่าผ่าน อย. ซึ่งเมื่อมีวัคซีนมากขึ้นการกระจายไปที่เอกชนก็อาจจะเป็นไปได้
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า จะมีการหารือศบค. ชุดเล็กในสัปดาห์นี้ เพื่อหามาตรการการจัดกิจกรรมทางศาสนา การเดินทางข้ามจังหวัด การสนับสนุนกิจกรรมการท่องเที่ยว การจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่างๆ จะมีมาตรการออกมารองรับอย่างไร เพื่อให้เราสามารถเตรียมเปิดประเทศได้อย่างเต็มรูปแบบตามที่นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำไว้ว่า ทุกกระทรวง ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชนจะต้องนำเสนอมาตรการที่เป็นไปตามการผ่อนคลาย 3 เฟส ที่กำลังจะเกิดขึ้น จึงอยากให้ติดตามกันภายในสัปดาห์นี้
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ขอฝากเน้นย้ำว่าเมื่อมีการติดเชื้อในคลัสเตอร์ใหม่ในตลาดหรือชุมชน สิ่งที่ต้องเน้นย้ำเสมอคือเรื่องอคติ เนื่องจากหลายคนมีความรู้สึกว่าหากมีคนมาจากพื้นที่เสี่ยงมาอยู่แถวบ้านเราก็กลัวว่าไข่จะแตก จนอาจเกินเลยเป็นความรู้สึกตั้งข้อรังเกียจ มีอคติ เราไม่อยากเห็นคนที่เกิดความกังวลกันจนไม่สามารถดำเนินกิจกรรมประจำวันได้ การเดินทางข้ามพื้นที่ทุกคนยังทำได้ เพียงแต่ขอร้องว่าให้ติดตามมาตรการและพยายามให้ความร่วมมืออย่างเข้มงวด เพราะไม่ต้องการเห็นคนจากพื้นที่เสี่ยง เข้าไปในพื้นที่แล้วต้องมี อสม. ที่จะต้องไปเฝ้าหน้าบ้าน ทำให้เพื่อนบ้านเกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัย จึงอยากให้ทุกคนเรียนรู้ด้วยความเข้าใจ และร่วมมือกับมาตรการ เช่น พบรายงานผู้ติดเชื้อและมีการเข้าไปในโรงพยาบาลเพื่อตรวจหาเชื้อและไม่ปิดบังไทม์ไลน์ก็จะสามารถดำเนินการป้องกันโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ และประชาชนยังดำเนินชีวิตได้ตามปกติ จึงขอเน้นย้ำอย่างยิ่งว่าในกรณีที่เดินทาง มีผู้สูงอายุ มีเด็กเล็กอยู่ในบ้าน ขอให้ดูแลบุคคลเหล่านี้เป็นพิเศษ
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |