"เอเวอร์กิฟเวน" เรือบรรทุกสินค้าขนาดยักษ์ยาวเท่า 4 สนามฟุตบอลที่เกยตื้นขวางคลองสุเอซมานานร่วมสัปดาห์ ขยับออกห่างจากตลิ่งเกิน 100 เมตรมาตั้งลำในทิศทางที่ถูกต้องได้ราว 80% แล้วเมื่อวันจันทร์ เพิ่มความหวังว่าเส้นทางขนส่งสินค้าสำคัญนี้จะกลับมาเดินเรือได้อีกในเร็ววัน

เรือเอเวอร์กิฟเวนขวางกลางคลองสุเอซเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2564 (Photo by Mahmoud Khaled/Getty Images)

    สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างข้อมูลจากเว็บไซต์ติดตามเส้นทางเดินเรือเวสเซลไฟน์เดอร์เมื่อวันจันทร์ที่ 29 มีนาคมว่า เรือเอเวอร์กิฟเวน ความยาว 400 เมตร เริ่มเคลื่อนตำแหน่งแล้วในเวลา 04.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น (09.30 น.วันเดียวกันของไทย)

    โฆษกของบริษัท โชเอ กิเซน เจ้าของเรือลำนี้เผยว่า เรือติดอยู่ในสภาพทำมุม 30 องศากับคลอง แต่มุมเริ่มกว้างขึ้น โดยเรือ "เลี้ยว" แล้วแต่ยังไม่ลอยลำทั้งหมด

    มีวิดีโอโพสต์ทางโซเชียลมีเดียดูเหมือนว่าส่วนท้ายของเรือขยับออกห่างจากตลิ่งฝั่งตะวันตกของคลองสุเอซ เปิดช่องในคลองบ้างแล้ว เว็บไซต์เวสเซลไฟร์เดอร์ยังได้เปลี่ยนสถานะของเรือลำนี้เป็นอยู่ระหว่างการเดินทาง

    เรือเอเวอร์กิฟเวนเผชิญพายุทรายและลมแรงทำให้เรือเกยตื้นขวางเส้นทางน้ำที่เชื่อมระหว่างเอเชียกับยุโรปมาตั้งแต่วันอังคารที่แล้ว ทำให้องค์การคลองสุเอซ (เอสซีเอ) ของอียิปต์ต้องสั่งปิดการเดินเรือชั่วคราว มีเรือรอข้ามเส้นทางลัดนี้อย่างน้อย 369 ลำ ทั้งเรือบรรทุกตู้สินค้า, เรือสินค้าทั่วไป และเรือบรรทุกน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ

    เอสซีเอออกแถลงการณ์เมื่อเวลาประมาณ 05.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น กล่าวว่า แผนการลากจูงเพื่อทำให้เรือบรรทุกตู้สินค้าลำนี้กลับมาลอยลำ ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วด้วยความช่วยเหลือของเรือลากจูงขนาดยักษ์ 10 ลำ ภายหลังมีรายงานข่าวว่าเรือกลับมาลอยลำได้ เอสซีเอก็ออกแถลงการณ์เผยความคืบหน้าว่า เอเวอร์กิฟเวนซึ่งมีระวางขับน้ำ 200,000 ตัน เลี้ยวตั้งลำในทิศทางที่ถูกต้องได้แล้ว 80%

    โอซามา ราบี ผู้อำนวยการเอสซีเอ กล่าวว่า ทันทีที่เรือลอยลำได้อย่างสมบูรณ์ ก็จะใช้เวลาประมาณ 3 วันครึ่งจึงจะระบายเรือที่ติดอยู่ในคลองนี้ออกได้ทั้งหมด เขายังชมเชยการทำงานของเรือลากจูงหลายลำที่สามารถทำให้ท้ายเรือขยับออกจากตลิ่งได้สำเร็จ

    "ตำแหน่งของเรือได้รับการปรับทิศทางใหม่มาตั้งลำได้ 80% ในทิศทางที่ถูกต้อง" เขากล่าวในแถลงการณ์ "ท้ายเรือขยับออกห่างจากฝั่ง 102 เมตรแล้ว" เมื่อเทียบกับตำแหน่งที่เรือเกยตื้นตอนแรกนั้นเรือห่างจากฝั่งเพียง 4 เมตรเท่านั้น

    ความพยายามกู้เรือครั้งใหม่ต้องรอน้ำขึ้นครั้งถัดไป ซึ่งแถลงการณ์ของเอสซีเอกล่าวว่า น้ำจะขึ้นอีกครั้งในเวลา 23.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น และจะเริ่มกระบวนการกู้เรืออีกครั้งเพื่อให้เรือลอยลำได้อย่างสมบูรณ์และปรับตำแหน่งเรือให้อยู่กลางคลอง

    เจ้าหน้าที่องค์การคลองสุเอซรายหนึ่งกล่าวโดยไม่เปิดเผยชื่อว่า ทีมงานภาคพื้นได้เริ่มตรวจสอบด้านเทคนิค เพื่อความมั่นใจว่าเครื่องยนต์ของเรือยังทำงาน

    การกู้เรือแข่งกับเวลาเน้นที่การขนย้ายทรายที่ทำให้เรือเกยตื้น โดยจอร์จ ซัฟวัต โฆษกเอสซีเอ กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า ต้องขุดทรายรอบเรือออก 27,000 ลูกบาศก์เมตร ลึก 18 เมตร

    วิกฤติครั้งนี้ทำให้หลายบริษัทต้องเลือกระหว่างรอคอยหรือปรับเส้นทางเดินเรืออ้อมทวีปแอฟริกา เป็นระยะทางเพิ่มขึ้น 9,000 กิโลเมตร สิ้นเปลืองค่าน้ำมันมากขึ้นและเสียเวลากว่า 1 สัปดาห์ การปิดคลองสุเอซยังทำให้อียิปต์สูญเสียรายได้วันละ 12-14 ล้านดอลลาร์.